เจ้าของร้านค้านี้ ไม่ได้เข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลา 25 วัน แล้ว
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
เนื้อเรื่องกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีสามีภรรยาคู่หนึ่งไม่มีลูกอาศัยอยู่ในกลางป่า
ทั้งคู่รู้สึกเหงาและต้องการมีเด็ก ๆ ไว้เป็นเพื่อน
ดังนั้นทั้งคู่จึงคิดที่จะไปขอบุตรกับเทวดา
แต่ว่าเพื่อนของเขาแนะนำว่าทั้งคู่ควรจะไปขอบุตรกับเจ้าพ่อเขาเขียว
พวกเขาปฏิบัติตามคำแนะนำของเพื่อนและเริ่มประกอบพิธี
ท่ามกลางควันธูปและเทียนอันฟุ้งตลบ
เจ้าพ่อเขาเขียวก็ปรากฏตัวขึ้นโดยเป็นชายร่างเล็กขนาดเท่าตุ๊กตา
เจ้าพ่อบอกทั้งคู่ว่าถ้าหากว่าเขาต้องการลูกจริง ๆ แล้ว
ท่านก็จะไปขอเทวดามาให้คนหนึ่ง
แต่ว่าทั้งคู่จะต้องรักและดูแลเด็กนั้นอย่างดี ไม่ว่าเด็กนั้นจะพิกลพิการ
หรือขี้ริ้วขี้เหร่แค่ไหนก็แล้วแต่
ถ้าหากว่าทั้งคู่ตกลงรับปากท่านก็จะนำเด็กมาให้ตามคำขอ
หลังจากทั้งคู่ให้สัญญาแล้ว
เจ้าพ่อเขาเขียนวก็ขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อเชิญเทวดาองค์หนึ่งมาเกิดเป็นลูกของ
สองสามีภรรยาคู่นั้น
ต่อมาผู้เป็นภรรยาซึ่งมีชื่อว่าสำลีก็ตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตามก่อนที่นางจะตั้งครรภ์
นางก็ฝันไปว่านางพบเด็กเกเรมีนิสัยชอบทำให้สัตว์เล็ก ๆ อย่างเช่น
นกและจิ้งหรีดได้รับความทรมาน
ดังนั้นนางจึงเตือนเขาว่าเป้นบาป เด็กน้อยนั้นชอบวิธีที่นางสังสอน
และบอกกับนางว่า คนอื่นไม่มีความเมตตาต่อตน
เพราะว่าพวกเขาถ้าไม่ตีก็จะด่าแช่ง
แล้วด็กคนนั้นก็ขอให้นางเป็นมารดาของเขา
เมื่อเขาพูดจบก็แปลงร่างเป็นก้อนถ่านและลอยเข้าปากนาง
ในขณะเดียวกับที่บนสวรรค์ ก็มีเทวดาองค์หนึ่งนามว่า
สุดาเทพ เป็นเทวดานิสัยดีและอ่อนโยน ท่านไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใคร
เพราะว่าท่านรู้จังแยกแยะว่าสิ่งไหนเป็นบาปและสิ่งไหนเป็นบุญ
จึงประพฤติตนตามทำนองคลองธรรมเสมอมา และถึงแม้ว่าท่านจะไม่เคยรังแกใคร
เทวดาองค์อื่น ๆ ก้ชอบรังแกท่านอยู่บ่อย ๆ เมื่อหมดความอดทนเข้าจริง ๆ
ท่านจึงไปร้องเรียนต่อพระอินทร์ผู้ซึ่งก็รู้สึกสงสารท่านดังนั้นจึงประทาน
ขวานฟ้ามาให้เป็นอาวุธป้องกันตัว
เมื่อได้ขวานฟ้ามาเป็นอาวุธแล้ว
ท่านสุดาเทพก็ใช้ขวานนั้นทำร้ายเทวดาที่เคยรังแกตน
นับจากวันนั้นมาก็ไม่มีใครกล้าต่อกรกับท่านอีกเลย
จากการเป็นเทวดาที่อ่อนน้อมถ่อมตน ตอนนี้ท่านสุดาเทพองค์ใหม่
กลายเป็นเทวดาที่ยะโสโอหังและใช้อาวุธของตนรังแกเทวดาองค์อื่นโดยไม่เลือก
มาก แล้ววันหนึ่งเทวดาดีองค์หนึ่งก็เข้าไปฟ้องพระอินทร์
ผู้ซึ่งสั่งให้พระอาทิตย์ไปสอนบทเรียนแก่สุดาเทพให้หลาบจำ
เมื่อได้รับคำบัญชาจากพระอินทร์แล้ว
พระอาทิตย์ก็ใช้แสงเผาหน้าท่านสุดาเทพ
แล้วส่งให้สุดาเทพไปเกิดเป็นมนุษย์และมีหน้าดำไปข้างหนึ่งที่ด้านซ้าย
ต่อเมื่อทำความดี 7 ประการ เป็นต้นว่าช่วยชีวิตคน
นั้นแหละใบหน้าของท่านก็จะกลับมาขาวและงดงามอีกครั้งหนึ่ง
พระอาทิตย์อนุญาตให้ท่านนำขวานฟ้าติดตัวไปได้
และถ้าทำตนเป็นคนดีก็จะสามารถถือขวานเหาะเหินเดินอากาศได้
และด้วยผลของคำสาปนั้นเอง
เมื่อเจ้าพ่อเขาเขียวนั้นหาเทวดามาให้สองสามีภรรยาคู่นั้นจึงได้เด็กหน้าดำ
มีขวานฟ้าเป็นอาวุธ
ดังนั้นในเวลาต่อมาเขาจึงได้ชื่อว่า "ขวานฟ้าหน้าดำ"
ในขณะเดียวกัน
หลังจากตั้งครรภ์อยู่เป็นเวลาหลายเดือน
นรางสำลีก็คลอดลูกชายมีหน้าตาประหลาด
เพราะใบหน้าด้านซ้ายมีสีดำเหมือนกับถูกไฟใหม้
อย่างไรก็ตามในวันที่เขาเกิดนั้นก็ปรากฏแสงสว่างอยู่รอบบ้าน
และทันใดนั้นก็มีขวานลอยมาจากสวรรค์นั้น
แล้วข่าวลือก็แพร่กระจายไปในหมู่เพื่อนบ้านว่า
ภรรยาของนายอุทัยให้กำเนิดเด็กทารกหน้าดำ เด็กน้อยนั้นหน้าตาอัปลักษณ์จริง
ๆ บางคนยังพูดอีกว่าทารกนั้นเป็นลูกผี
ต่อมาภายหลังเพื่อนบ้านทั้งหมดก็พากันเชื่อว่าเด็กทารกนั้นเป็นลูกผีปีศาจ
จริง ๆ
ข่าวลือทำให้สองสามีภรรยารู้สึกเสียใจ
แม้กระนั้นทั้งคู่ก็ยังรักลูกมากและให้การเลี้ยงดูเป็นอย่างดี
ข่าวลือทำให้เหตุการณ์เลวร้ายลง
เมื่อเพื่อนบ้านเห็นพ้องต้องกันว่าไม่ควรจะให้เด็กผีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอีก
ต่อไป เพราะว่าจะนำกาลกิณีมาสู่หมู่บ้านทั้งหมด
ดังนั้นจึงต้องการให้หมดผีกำจัดทารกนั้นเสีย
เพื่อปกป้องชีวิตของลูกน้อย
สองสามีภรรยาจึงเตรียมตัวที่จะหนีออกจากหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตามมันก็สายเกินไปแล้วสำหรับพวกเขาที่จะหนีเพราะบ้านถูกล้อมโดยฝูง
ชนผู้โกรธแค้นและต้องการให้ฆ่าทารกเสีย
เมื่อถึงคราวคับขันเข้าจริง ๆ
ทั้งคู่ก็นั่งลงด้วยความหมดหวังและได้แต่เพียงร้องขอความเมตตาจาฝูงชนที่กรู
กันเข้ามา
ก่อนที่จะถูกรุมทำร้ายตายโดยเพื่อนบ้านที่กำลังโกรธ
แค้น ทันใดนั้นขวานก็ลอยขึ้นไปบนฟ้าและขับไล่ฝูงชนออกไป
ด้วยความตกใจกลัวขวานที่ไล่ตามมานั้น เพื่อนบ้านต่างก็วิ่งหนีเอาตัวรอด
ในขณะเฝ้าดูความอัศจรรย์ของขวานนั้น
สองสามีภรรยาก็คิดว่าลูกของตนมีบุญมากดังนั้นจึงมีขวานตามมาตั้งแต่เกิด
อย่างไรก็ตามนางก็สงสัยว่าทำไมลูกของนางจึงมีหน้าดำ
จึงไปถามเจ้าพ่อเขาเขียว
ซึ่งท่านก็บอกว่าทารกผู้นี้มีทั้งบาปและบุญติดตัวมา
นางควรดูแลเขาให้ดีและด้วยบุญบารมีของเขา
ในอนาคตหน้าของเขาจะกลับเป็นสีขาวและจะได้เป็นที่พึ่งของผู้ที่ต้องการความ
ช่วยเหลือได้
ในเวลาต่อมา ขวานฟ้าได้หายไปโดยไร้ร่องรอย
ดังนั้นมารดาของทารกจึงไปถามเจ้าพ่อเขาเขียวว่าจะตามหาขวานได้อย่างไร
แต่ท่านก็บอกว่าขวานจะกลับมาเองเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมท่ามกลางข่าวลือและ
เสียงนินทา เด็กน้อยมีนามว่าขวานฟ้าก็เติบโตขึ้นมาด้วยความเงียบเหงา
ต่อมาภายหลังขวานฟ้าก็ได้พบกับจ้อยผู้ซึ่งเป็นเด็กกำพร้า
ในคราวหนีการจับกุมของอำมาตย์แสงเพชร และเพื่อให้ห่างจากคำเยาะเย้ยถากถาง
ขวานฟ้าจึงชอบท่องเที่ยวไปตามลำพังในป่า
วันหนึ่งในขณะที่นั่งอยู่ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ในป่า
เขาก็เห็นชายผู้มีฐานะดีกำลังถุกทหารซึ่งดูท่าทีไม่เป็นมิตรจับกุมอยู่
พวกทหารกำลังพูดถึงเรื่องคำสั่งที่อำมาตย์แสงเพชรสั่งให้จับพวกที่มีฐานะดี
และยึดทรัพย์สมบัติของพวกเขา
ถึงแม้ว่าตัวอำมาตย์เองจะร่ำรวยและมีอำนาจแต่เขาก็ยังต้องการเงินมากเพื่อ
แจกจ่ายให้กับลูกน้องในความพยายามยึดบัลลังก์จากพระราชา
ผู้กำลังประชวรอยู่ พระองค์ทรงพระนามว่าพระเจ้าบุรีรมย์
ถึงแม้ว่าพระราชาผู้ประชวรอยู่จะไม่เป็นอุปสรรคในการ
ขึ้นสู่บัลลังก์ของเขาอีกต่อไปแล้ว
แต่ข้าราชบริพารหลายคนก็ยังจงรักภักดีต่อพระราชาองค์ก่อนอยู่
และพวกเขาอาจจะไม่พอใจกับความทะเยอทะยานของเขาก็ได้
ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เงินมากล่อคนมาเป็นพรรคพวกของตนให้มากที่สุด
ในขณะที่พวกทหารกำลังพักผ่อนและไม่ได้สนใจตัวประกันอยู่นั้น
ขวานฟ้าตัดสินใจปล่อยชายผู้มีฐานะดีและช่วยให้เขาหนี
แต่เนื่องจากเขาแก่แล้วจึงวิ่งไม่เร็วพอที่จะหนีทหารที่ไล่ตามมาได้
เมื่อทหารเข้ามาใกล้แล้ว
ขวานฟ้าก็ได้สวดมนต์และขอความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
พระอินทร์เองก็พอใจกับการทำความดีครั้งแรกของขวานฟ้า
อย่างไรก็ตามผู้ที่ช่วยเขาหนีก็คือเจ้าพ่อเขาเขียว
ท่านบันดาลให้เกิดหมอกควันขึ้นเพื่อบดบังขวานฟ้าและชายผู้มีฐานะดีไว้ไม่ให้
ทหารเหล่านั้นเห็น
เมื่อไม่สามารถตามจับชายผู้มีฐานะดีได้
ทหารจึงไปแจ้งให้อำมาตย์แสงเพชรทราบ
ซึ่งทำให้เขาโกรธจัดและสั่งให้จับขวานฟ้าและบิดามารดาของเขาไว้ด้วย
เพี่อหนีการจับกุมในครั้งนี้ขวานฟ้าและบิดามารดาจึงหนีไปคนละทิศคนละทาง
หลังจากนั้นพวกเขาก็ขาดการติดต่อกันไประยะหนึ่ง
ในช่วงนี้เองที่ขวานฟ้าได้เพื่อนรักชื่อจ้อย
ทั้งสองเดินทางไปด้วยกันในช่วงที่ประสบความลำบากนี้
ในระหว่างผจญภัยในป่า
ขวานฟ้าและจ้อยก็มาพบกับค้างคาวผีซึ่งจะดูดเลือดของทั้งสอง
โชคดีที่เทพารักษ์เข้ามาขัดขวางและช่วยขับไล่สัตว์ดูดเลือดออกไป
และแล้วเทพารักษ์ก็อวยพรให้เขาทั้งสองโชคดี
เด็กทั้งสองออกเดินทางต่อและพบกับอันตรายมากมายหลายอย่าง
ในที่สุดแห่งการเดินทางทั้งคู่ก็พบกับนกกายักษ์และผีเสื้อน้ำดุร้าย
และด้วยความช่วยเหลือของเทพารักษ์และเทวดาอื่น ๆ
ทั้งคู่ก็สามารถหนีรอดจากภัยอันตรายทั้งปวดได้สำเร็จ
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ขวานฟ้าและจ้อยช่วยพระราชาของ
เมืองหนึ่งปราบกบฏได้สำเร็จ และชิงบัลลังก์คืนมาให้พระองค์
ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขาทั้งสอง
เมืองนี้ก็กลับมามีความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง
ข่าวการทำความดีของขวานฟ้าไปถึงสวรรค์
และก็คาดว่าอีกไม่นานเขาก็จะได้กลับไปสวรรค์อีกครั้งหนึ่ง
หลังจากเดินทางมาไกลแล้ว
ขวานฟ้าและจ้อยก็คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนของตน
ขวานฟ้าเองก็คิดถึงบิดามารดาซึ่งพลัดพรากจากกันมานานแล้ว
เมื่อมาถึงบ้านเขาก็พบว่าบิดามารดาของตนกลายเป็นคนตาบอด
เพราะอำมาตย์แสงเพชรโกรธเขาจึงสั่งให้ควักลูกตาของบิดามารดาของเขา
เพื่อเป็นการแก้แค้นที่เขาขัดขวางแผนการใหญ่ของตน
เพื่อแก้แค้นคนที่ทรมานบิดามารดาของเขา
ขวานฟ้าจึงใช้ขวานฟ้าฆ่าอำมาตย์แสงเพชร
และนำความสงบสุขกลับมาสู่บ้านเมืองอีกครั้ง
ด้วยความกตัญญูที่มีต่อบิดามารดาของเขานี้เอง
ที่ทำให้พระอินทร์เกิดความสงสารบิดามารดาของเขา
ดังนั้นจึงมอบดวงตาคู่ใหม่ให้สองสามีภรรยา
ซึ่งทำให้กลับมามองเห็นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
หลังจากประกอบคุณงามความดีเหล่านี้แล้ว ขวานฟ้าก็กลับไปสวรรค์
ดังนั้นเรื่องเด็กหน้าดำผู้มาจากสวรรค์เพื่อประกอบคุณงามความดีโดยการช่วย
เหลือคนจึงจบลงเพียงเท่านี้
แง่คิด : ไม่มีคำว่าสายสำหรับการประกอบคุณงามความดี
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ร้านค้านี้ยังไม่ได้กำหนดวิธีการชำระเงิน กรุณา ติดต่อกับทางร้าน เกี่ยวกับรายละเอียดในการชำระเงิน
ทางร้านยังไม่ได้ทำการเพิ่มบัญชีรับเงิน กรุณาติดต่อ เจ้าของร้าน
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านorange-shop2
orange-shop2
ขายแผ่น
เบอร์โทร : 0628022626
อีเมล : orangeshop2@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม