เจ้าของร้านค้านี้ ไม่ได้เข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลา 27 วัน แล้ว
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
ปากกาหัวใจกับไมโครโฟน

ชื่อเรื่อง ปากกาหัวใจ กับไมโครโฟนแนวละคร โรแมนติกคอมมาดี้รายชื่อนักแสดง- ซาร่า ผุงประเสริฐ เป็น อิงนภา ลีโอ พุฒ,ซาร่า ผุงประเสริฐ,ธรากร สุขสมเลิศ,สุมนต์รัตน์...- ลีโอ พุฒ เป็น คีตะ และดาราสมทบอีกมากมายออกอากาศ ทุกวันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 21.30-22.30 น. ทางไอทีวี เริ่ม 17 มกราคมนี้ คีตะ ดีเจหนุ่มอารมณ์ดี ผู้มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่หยุดนิ่ง วัย 22 ปี เสียงของเขาเริ่มจะคุ้นหู้ผู้ฟัง แต่ยังไม่เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตา คีตะโด่งดังขึ้นมาด้วยลีลาการจัดที่สนุก แต่ไม่ไร้สาระ คีตะคลั่งไคล้ในเสียง เพลงมากและใฝ่ฝันว่า จะต้องแต่งเพลงดี ๆ ให้ได้สักวันอิงนภา คอลัมนิสต์สาวมือใหม่ไฟแรง วัย 22 ปี เจ้าของนามปากกา "ชิงช้าช่างฝัน" แห่งนิตยสาร บันเทิง Weekly Entertain ซึ่งเป็นหนังสือบันเทิงที่มียอดขายสูงสุด แม้ว่างานวิจารณ์ของอิงจะมีลักษณะแข็งกร้าว แต่จริง ๆ แล้ว เธอ เป็น คนอ่อนไหวง่าย และติดจะซุ่มซ่ามเล็กน้อย อิงมีความฝันอยากจะเขียนพ็อกเก็ต บุ๊คของตัวเองสักเล่มแต่เธอ ยังไม่มีสิ่งใดสิ่ง หนึ่งมา เป็นแรงบันดาลใจให้เขียนออกมาได้ แคท นางแบบวัยรุ่นผู้ก้าวมาเป็นนักร้องดังในชั่วข้ามคืน เจ้าของฉายานาม สาวน้อยมหัศจรรย์ แต่ชื่อเสียง และสิ่งต่าง ๆ ที่พุ่งเข้ามาหาเธอนั้น สร้างความสับสน และเหน็ดเหนื่อยเกินจะ รับสำหรับเด็กอายุแค่ 18-19 ปี อย่างเธอ แคทต้องการชีวิตดังเดิม ที่ตรงข้ามกับ สาวน้อยมหัศจรรย์ อาร์ม เด็กหนุ่มวัย 18-19 ปี น้องชายของอิง อาร์มคลั่งดนตรีเป็นที่สุดถึงขนาดตั้ง วงดนตรีกับ เพื่อน ที่มหาวิทยาลัย อาร์มฝันว่าวันหนึ่งเขาจะต้องเป็น นักดนตรีอาชีพ ให้ได้อาร์มมีความสดใสและ เต็มไปด้วยพลังที่จะ เดินทางสู่ฝัน ของตนอย่างไม่ย่อท้อ วิศิษฐ์ นัก แต่งเพลงมือเก๋าวัย 35 ผู้ชึ่งแต่งเพลงรักโรแมนติคที่ดังค้างฟ้ามากมาย วิศิษฐ์เป็นคน ที่อบอุ่นกว้าง และเข้าใจแง่มุมต่าง ๆ ของความรักเป็นอย่างดี แง่คิดบางประการของชัชชัยนั้นอาจทำให้ใครบางคนฟื้นจากอาการท้อ หรือตัดสินใจอะไรในชีวิตได้ง่ายขึ้นเลยก็เป็นได้ คฑา โปรดิวเซอร์หนุ่มวัยใกล้ 30 คฑาเป็นคนดูดีในสายตาผู้หญิงหลาย ๆ คน และถ้าคฑาคิดจะปั้น ศิลปินคนไหนก็เป็นได้ยาก ที่คนนั้นจะไม่ดัง คฑาเป้นคนมีชื่อเสียง และค่อนข้างมีอำนาจในค่ายเพลง เขาเป็นคนเจ้าชู้และ หวัง อะไรหลาย ๆ อย่างกับศิลปินสาว ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีแคทด้วย ส้มซ่า ดีเจสาววัย 25 ฉายา ปากปลาร้าค้างปี ดีเจส้มซ่าจัดรายการโหวก เหวกโวยวายน่ารำคาญ วัยรุ่นก็ติดใจฟังทุกวี่วัน รายการของเจ้าหล่อนนั้นไร้สาระไปวัน ๆ ซึ่งผู้ฟังและคนในสถานีมักจะ นำมาเปรียบเทียบกับคีตะ ส้มซ่าจึง ไม่ค่อยชอบขี้หน้าคีตะเท่าใดนัก เธอจึงคอยโจมตีข้อผิดพลาดของคีตะทุกครั้งที่มีโอกาส เรื่องย่อเขา คีตะ คือดีเจหนุ่มที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะความเป็น คนอารมณ์ดีไม่ไร้สาระ และมีบุคลิกโดดด่นเฉพาะตัวเวลาจัดรายการ จึงทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดัง ในหมู่เด็กวัยรุ่นด้วยเวลาอันรวดเร็ว คีตะเป็นคน คลั่งไคล้ในเสียงเพลงมาก และเคยคิดไว้ว่า อยากจะแต่ง เพลงดี ๆ ให้ได้สักเพลงเหมือนอย่าง วิศิษฐ์ นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ รุ่นพี่ฝีมือเก๋า ซึ่งแต่งเพลงรัก โรแมนติคในดวงใจ คีตะไว้มากมายส่วนเธอ อิงนภา คือ คอลัมนิสต์สาวหน้าใหม่ เจ้าของนาม ปากกา ชิงช้าช่างฝัน ถึงจะหน้าใหม่ แต่ความเฉียบคมในความคิด และสำนวนที่มันหยด ก็ส่ง ให้อิงนภาสามารถแย่งชิง พื้นที่คอลัมน์วิจารณ์เพลง ของ หนังสือ WE (Weekly Entertainment) ซึ่งเป็นหนังสือบันเทิงที่มี ยอดขายถล่มทลายมาได้ อิงนภา (ซึ่งต่อไปนี้พวกเราจะ เรียกว่า อิง เฉย ๆ) ใฝ่ฝัน จะมีผลงานพ็อกเก็ตบ๊คของตนเองออกมาสักเล่ม แต่ด้วยงานประจำที่รัดตัว เธอจึงไม่มีเวลาให้กับฝัน นั้น เต็มที่นัก ที่ทำงานของทั้งสองอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน โดยมีร้านกาแฟน่ารักร้านหนึ่งอยู่ใกล้ ๆ แล้วโชคชะตา ก็นำพาทั้งสองมาเจอกัน ในเช้า อันสดใสของวันหนึ่ง ที่ร้านกาแฟนั้นเองทั้งคู่ได้พบกันโดยบังเอิญ และได้นั่งโต๊ะเดียวกันเพราะโต๊ะอื่นเต็มหมด แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้คุย กันเพียง แต่สังเกตรายละเอียดของกัน และกัน และยิ้มให้กันคีตะ มีคนรักอยู่แล้วชื่อ แคท สาวน้อยนางแบบซึ่งก้าวขึ้นมา เป็นนักร้องครองใจวัยรุ่นในชั่วข้ามคืน โดย ที่ตัวแคทเองก็ไม่เคย คาด ฝันมาก่อน คีตะคบกับแคทมาตั้งแต่สมัย ที่แคทยังเป็นนางแบบไม่มีชื่อเสียง ทั้งคู่เจอกันที่ผับแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นคีตะ เพิ่งเริ่ม ฝึก งาน เป็นดีเจอยู่ที่นั่น และด้วยชื่อเสียงของแคท ในปัจจุบัน ทำให้ทั้งสองยิ่งห่างเหินกันไป แล้วเรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อ อิง เขียน จารณ์เพลง เลิฟ แซต ซึ่งเป็นเพลงสุดฮิต ในอัลบั้มของแคทไปในทางลบ เพราะอิงคิดว่าเนื้อเพลงที่กล่าวถึง การพบรักกันทาง อินเตอร์เนตนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ และเป็นไปไม่ได้ที่คนทั้งสองคน จะมีความรักโดยไม่มีความผูกพันใด ๆ ต่อกันเมื่อ คีตะได้อ่าน คอลัมน์นี้ ก็เกิดอาการคันปากอยาก ตอบโต้ขึ้นมาทันที เพราะคีตะเชื่อเรื่อง พรหมลิขิตมาแต่ไหนแต่ไร และเชื่อว่าความรักเป็นเรื่อง ละเอียดอ่อนยากจะคาดเดา และที่สำคัญเพลง นี้ร้องโดย แคท แฟนสาวของเขา โดยผู้แต่งคือ พี่วิศิษฐ์ฮีโร่ใน ดวงใจของเขาอีก ต่างหากคืนนั้น คีตะเลย โต้คำวิจารณ์ของ อิง ออกอากาศในรายการของเขา โดยหวังว่าเจ้าของนามปากกา ชิงช้าช่างฝัน คงจะฟัง อยู่ และก็เป็นอย่างนั้น เพราะ อาร์ม น้องชายของ อิง ซึ่งติดใจในการจัดรายการของคีตะ และต้องฟังเป็นประจำ ได้รีบวิ่งแจ้น มาบอกอิง ว่า ดีเจคนโปรดพูดวิจารณ์งานของเธอด้วย คีตะได้บรรเลงฝีปากกระแนะกระแหน อิงอย่างร้ายกาจจนอิงทน ไม่ได้ถึงขั้น ต้องโทรเข้า ไปในรายการของคีตะเดี๋ยวนั้น และการปะทะคารมอย่างเมามันของ ทั้งคู่ก็ได้ออกอากาศสดไปทั่วประเทศ ซึ่งแน่นอน ว่าดีเจสาว ส้มซ่า ฉายา ปากปลาร้าค้างปี คู่อริของคีตะก็ไม่มีรีรอ ที่จะคาบข่าวไปฟ้อง บก. ในวันรุ่งขึ้น ว่าคีตะเสียจรรยาบรรณทะเลาะ กับผู้ฟัง ออกอากาศสดด้วย แต่ปรากฎว่าการทะเลาะกันครั้งนี้ เป็นที่ชื่นชอบของผู้ฟังมาก มีโทรศัพท์เข้ามาร่วมออกความคิด เห็นจน รับ สาย ไม่ทัน เรทติ้งพุ่งกระฉูด เลยกลายเป็นว่าคีตะได้ขยาย เวลาจัดรายการเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก และเช้าวันรุ่งขึ้นนั้นเอง หลังจากเพิ่งผ่านพ้นค่ำคืน แห่งการเฉือดเฉือนคารม คีตะและอิงก็มาเจอกันโดยบังเอิญ ที่ร้านกาแฟร้านเดิม และ บังเอิญซ้อนบังเอิญเข้าไปอีก เมื่อทั้งคู่ได้นั่งโต๊ะเดียวกันอีกจน ได้และทั้งคู่ก็ยังไม่ได้คุยกันอีกตามเคย ได้แต่มองกันไป มองกัน มาอย่าง เคอะเขินพอคีตะตัดสินใจจะเริ่มสนทนา โทรศัพท์ของอิงก็ดังขึ้นก่อน และอิงก็รีบผลุนผลันออกจากร้าน ไปโดยลืมปากกา ไว้บนโต๊ะ และคีตะจะวิ่งเอาออกไปคืนแต่ไม่ทัน เขาจึงได้แต่เก็บปากกาของเธอเอา ไว้เป้นที่ระลึก หลังเหตุการณ์ปะทะคารมา อิง และคีตะพยายามจับผิดกันเพื่อหาช่องโหว่โจมตีกันแบบหยิกแก้มหยอกด้วยอาวุธที่ แต่ละคนมี คือไมค์ของคีตะ และปากกาของอิงและ จากการที่ต้องศึกษางานของ ฝ่ายตรงข้ามเพื่อหาช่องโจมตีนั่นเอง ทั้งสองก็เหมือนหนึ่ง ได้รู้จักกับตัวตนของกัน และกันมากขึ้น อิงเริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับตัวเอง คล้ายกับประทับใจใน ความเป็นดีเจอารมรณ์ดี แต่ไม่ไร้สาระของคีตะมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายต่อหลาย ครั้งที่เธอรู้สึกว่าคีตะให้ข้อคิดดี ๆ กับวัยรุ่นที่ฟังรายการของเขา ต่างกับดีเจส้มซ่าที่โหวกเหวกไร้สาระไปวัน ๆ อิงเริ่มรู้สึกว่าความ เกลียด ที่ตนมีให้คีตะนั้นชักจะ เป็นความเกลียดแบบแปลก ๆ ซะแล้วเช่นเดียวกัน เมื่อคีตะได้อ่านคอลัมน์ที่อิงเขียน แม้จะถูกกัด เรื่องการจัดรายการบ้าง แต่ข้อคิดเห็นในงานวิจารณ์ของเธอ เข้าท่าและได้ถ่ายทอดความรู้สึกจริง ๆ ออกมา เป็นความจริงใจ ที่คีตะ สัมผัสได้ ยิ่งไปกว่านั้นในงานวิจารณ์ ภาพยนตร์ของเธอหลายต่อหลายเรื่อง คีตะก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความละเอียด อ่อนของผู้หญิง ที่ใช้นามปากกาว่า ชิงช้าช่างฝัน มากขึ้นทุกวันระ หว่างที่คีตะวุ่นอยู่กับงานนั่นเอง ความห่างเหินระหว่างเขากับ แคทก็ยิ่งทวีมากขึ้น และการที่อยู่ ๆ ก็เกิดมีชื่อเสียง ในชั่วข้ามคืน อย่างแคทนี้ทำให้เธอสับสน ต้องการใครสักคนดูแลอย่างใกล้ชิด แคทจึงไปสนิทเป็นพิเศษกับ คฑา โปรดิวเซอร์ผู้จัดคอนเสิร์ต ชื่อดังแห่งค่าย Music Icon ต้นสังกัดของเธอนั่นเอง เรื่องนี้เหมือนจะเป็นข่าวร้ายที่สุดสำหรับคีตะ เขาเสียใจมาก แต่เขา ก็รู้สึก มาตลอดว่า ต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นสักวัน คืนนั้นหลังจากที่หนังสือพิมพ์บันเทิง ประโคมข่าวของแคทกับคฑา แฟน ๆ รายการ ของคีตะต่าง โทรมาให้กำลังใจหลายสาย และฝากเพลงมาให้มากมาย แต่เพลงไหนก็ไม่โดนใจคีตะเหมือนกับ เพลงที่ฝาก มาทาง เพจเจอร์ลงชื่อ ชิงช้าช่างฝัน และคำขอบคุณท้ายเพลงของคีตะ คือ การพูดอย่างเป็นมิตรกับชิงช้าช่างฝัน โดยออก อากาศ เป็นครั้งแรกเหตุการณ์ ในคืนนั้นทำให้คีตะ และอิงประทับใจกันอย่างบอกไม่ถูก แต่ด้วยเหตุที่คีตะเลือกเปิดเพลง ที่อิงขอซึ่งเป็นเพลงของค่าย ตรงข้ามที่คลื่นของคีตะสังกัดอยู่จึงเป็นช่องโหว่ให้ดีเจส้มซ่าเล่นงานได้ บอสใหญ่จำเป็นต้องตัดสินใจ สั่งคีตะให้ห่างจากหน้า ไมค์สัก ระยะ เพราะเขาทั้งหัวรั้นและ กำลังตกเป็นข่าวคาวทางหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ คีตะถูกส่งไปเป็นพิธีกรใน งานโชว์ตัวแคทที่ต่างจังหวัด ช่วงที่เสียงของคีตะหายไปจากคลื่น วิทยุนี้เองทำให้อิงรู้สึกกังวลใจ โดยที่หาเหตุผล ไม่ได้ว่าทำไมอิงเฝ้าเปิด Crazy FM. ทุกวันแต่ ก็ไม่ได้ยิน เสียงคีตะดังที่เธอหวัง ในงานโชว์ตัวแคทนั่นเอง คฑาเกิดความรู้สึกหึงหวงที่แคท ดูเหมือนจะยังมีใจให้คีตะผสมกับ ความรู้สึกหมั่นไส้ในท่าทาง ยียวนกวน ประสาทของคีตะ ทั้งคู่จึงเกิดวิวาทกันขึ้นเหตุการณ์นี้ส่ง ผลให้คีตะถูกเรียกตัวกลับทันที และสั่งย้ายสถานีในวันต่อมา แต่เหมือนว่า เหตุการณ์นี้จะกลับเป็นเรื่องดีกับคีตะ เพราะเขาถูกย้ายไปจัดรายการที่ Indy Radio สถานีที่พี่ วิศิษฐ์ ที่เขาชื่นชมเป็น ผู้ดูแล นั่นเอง เป็นครั้งแรกที่คีตะได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับวิศิษฐ และเมื่อคุยถึงเพลง เลิฟ แซต คีตะก็ได้เห้นถึงความใจ กว้าง ของวิศิษฐ์ ซึ่งก็ทำให้เขาได้เข้าใจ ชิงช้าช่างฝัน มากขึ้นด้วย ในที่ สุด การจัดรายการประกวดวงดนตรีก็เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างค่าย Music Icon กับ Indy Radio มีวงดนตรีจากกลุ่ม วัยรุ่นมากมายส่งเทป Demo เข้ามาเพื่อให้คัดเลือกหนึ่งในนั้นก็มีวงของอาร์ม น้องชายของอิง ซึ่งใฝ่ฝันอยากเป็นนักดนตรีอาชีพ มาตลอดด้วย อาร์มฝากเทป Demo ของวงตนเองมากับอิง ให้อิงไปส่งให้เพราะตึกของ Indy Radio อยู่ใกล้กับตึกนิตยสาร WE ซึ่งอิง จะต้องไปส่งบทวิจารณ์อยู่แล้ว ใน เช้าวันนั้น คีตะก็มาเจอกับอิงที่ร้านกาแฟโดยบังเอิญอีกครั้ง ทั้งคู่ได้สนทนากันเป็นครั้งแรก เมื่อคีตะเอ่ยถึงปากกาด้ามที่อิงลืมทิ้ง ไว้คราวก่อนซึ่งคีตะเก็บไว้ที่โต๊ะทำงานของเขาประจวบเหมาะกับที่อิงกำลังจะ ไป Indy Radio ทั้งคู่จึงเดินขึ้นตึกไปด้วยกัน ระหว่างทาง ที่คุยกันอย่างถูกคอนั้น อิงก็ส่งต้นฉบับของเธอให้คีตะอ่าน พอทั้งคู่เดินมาถึงหน้าสถานี Indy นั้นเสียงเรียกชื่อ คีตะ ก็ดังขึ้นเป็น เวลาเดียวกับที่คีตอ่านต้นฉบับ ของอิงจบและเห็นนามปากกา ชิงช้าช่างฝัน ทั้งคู่ก็ได้รู้พร้อมกันตอนนั้น นั่นเองว่าคนที่อยู่ตรงหน้า ก็คือคนที่ทะเลาะกันมาตลอดนั่นเองความรู้สึกงง อึ้ง และอายเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ก่อนที่ทั้งคู่จะบอกลากันอย่างสั้น ๆ และเคอะเขิน แล้วคีตะก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้คืนปากกาให้อิง จากเหตุการณ์ วันนั้นเอง ร้านกาแฟร้านเดิมก็ไม่สมบูรณ์อีกต่อไป ถ้าไม่มีอีกฝ่ายหนึ่งมานั่งวันรุ่งขึ้น อิงไปนั่งทานกาแฟเป็นกิจวัตร โดยที่หัวใจเฝ้า รอว่าเมื่อไหร่ประตูหน้าร้าน จะถูกเปิดด้วยดีเจหนุ่มปากจัดคนนั้น อิงรอจนรู้สึกว่าตัวเองฟุ้งซ่าน จึงตัดสินใจออกจาก ร้าน ระหว่างที่อิงกำลังจะเดินออกจากประตู คีตะก็เดินเข้ามา ทั้งคู่ตกใจ และทักทายกันสั้น ๆ อีกครั้งนับแต่วันนี้ไป ทั้งคู่ได้สานต่อ ความรู้สึกดี ๆ ต่อกันผ่านสื่อที่ตนมี บทความวิจารณ์เพลงรักของอิงก็แฝงความนัยโดยที่คีตะสัมผัสได้ไม่ยาก ส่วนถ้อยคำในการจัด รายการของคีตะ ก็เหมือนจะส่งตรงมายังหัวใจ ของอิงทุกคืนรวมถึง เพลงที่ทั้งคู่ฟังพร้อมกัน ได้เป็นแรงส่งให้ทั้งคู่พัฒนา ความรู้สึกต่อ กันไปสู่ความรักอย่างที่ทั้งคู่ไม่ทันตั้งตัว ความสัมพันธ์ของคีตะ และอิงดำเนินควบคู่ไปกับการ ฝ่าด่านเข้ารอบการประกวดวงดนตรีของอาร์ม คีตะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ การแต่ง เพลงมากขึ้นจากวิศิษฐ และมีความรู้สึกที่อยากบอก กับอิงผ่านเสียงเพลง เขาจึงเริ่มเขียนเพลงเพลงแรกของเขา ขณะที่อิงก็เริ่มรู้สึก เชื่อว่าความรักอาจก่อตัวขึ้นโดยปราศจากเงื่อนไขของความใกล้ชิด อิงก็เริ่มเขียนหนังสือเช่นกัน แม้ว่าวงดนตรีของอาร์มจะไม่ได้ที่ 1 ในการประกวด แต่ก็โดดเด่นพอที่วิศิษฐ์จะเล็งเห็นแววศิลปิน ในตัวของอาร์มความฝัน ของอาร์มเข้าใกล้ความจริงไปอีก เมื่อเขา ได้เซ็นสัญญากับ Music Icon โดยมีวิศิษฐ์เป็นผู้ดูแลเพลงในอัลบั้มของเขา เหตุการณ์ ทุกอย่างที่ดูเหมือนว่า กำลังจะไปได้ด้วยดีกลับต้องชะงัก เมื่อแคทกลับมาหาคีตะในคืนหนึ่งพร้อม คราบน้ำตาข่าว ประโคม เหมือนพายุเมื่อ สาวน้อยมหัศจรรย์สลัดรัก โปรดิวเซอร์คู่ใจกลับมาหา ดีเจหนุ่มความรู้สึก อิง พังทลายลง เธอคิดว่าความสัมพันธ์ร่วม 2 ปี ของแคท และคีตะคงไม่อาจถูกแทรก ด้วยความสัมพันธ์ผิวเผินของตน ความรู้สึกผิดหวังในสิ่งที่เธอกำลัง จะเชื่อนั้นทำให้อิง ไม่สามารถเขียนงานได้อีก เธอจึงตัดสินใจเดินทางหนี ความวุ่นวายกลับสู่บ้านไร่แสนสงบ และชิงช้าที่คุ้นเคยของเธอในวัยเด็ก ซึ่ง อาร์มก็เข้าใจความรู้สึกของอิง และไม่มีเหตุผลใดที่จะขวางทางอิงเอาไว้ ขณะเดียวกัน คีตะก็กำลังสับสนระหว่าง ความรักที่มีต่อ อิง และ ความสงสารที่มีต่อ แคท เขาไม่สามารถเขียนเพลงต่อได้แต่ถ้อยคำ เพียงไม่กี่ประโยคของ วิศิษฐ์ก็ทำให้คีตะเข้าใจ ความรู้สึกที่ แท้จริงของตนเอง คีตะตัดสินใจไปบอกความรู้สึกที่แท้จริง กับอิงแต่ช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีอิงไป แล้วและอาร์มก็ไม่สามารถ บอกที่อยู่ ของบ้านที่ต่างจังหวัดได้ เพราะเขารับปากกับอิงไว้ แล้วอย่งมั่นคงว่าจะไม่บอกใคร แล้วช่วงเวลาที่อาร์มใกล้ จะออกอัลบั้มนั่นเอง อาร์มได้ใกล้ชิดกับแคท ความรักของทั้งคู่ได้งอกเงย ขึ้นระหว่างงานนั่นเอง แต่อาร์ม ก็พยายามห้ามใจ เพราะเข้าใจว่าแคท กับคีตะกลับมาคืนดีกัน ขณะที่คีตะยังคงรอคอย อิง ที่ร้านกาแฟร้านเดิม ทุกเช้าแต่ก็ต้อง ผิดหวังทุกเช้าเช่นเดียวกัน ที่ใต้ร่มไม้ชิงช้าตัวโปรดของอิง อิงก็ไม่อาจหนีหัวใจตนเองได้ แม้จะหนีมาไกลแสนไกล อิงยังคงคิดถึงคีตะ และโต๊ะกาแฟตัวนั้นเธอจึง เริ่มเขียนงานพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มเล็ก ที่เธอตั้งใจจะเขียนนานแล้ว โดยถ่ายทอดความรู้สึกรัก ทั้งหมดของ เธอลงไปในงาน ช่วงที่อารมณ์ ของคีตะถึงขีดสุด เขาอยากบอกความรู้สึกของตนเองที่มีต่ออิงสักครั้งคีตะตัดสินใจแต่งเพลง "ความรัก" จนเสร็จและ ขอร้องให้พี่วิศิษฐ์ช่วย นำไปให้อาร์มร้องในวันเปิด อัลบั้มของอาร์มด้วย และในวันคอนเสิร์ตเปิด อัลบั้มของอาร์มนั้นเอง อาร์มได้ ร้องเพลง "ความรัก" โดยบอกผ่านไปยังพี่สาวตนว่า คนเขียนเพลงนี้ก็คือ คีตะซึ่งอยากมอบเพลงนี้ให้อิง ส่วนอาร์มในฐานะ ผู้ร้อง ก็ขอมอบเพลงนี้ให้แคท เมื่อเพลงความรักเริ่มบรรเลง ทุกคนก็ได้พบหัวใจตนเองแล้วในวันรุ่งขึ้นนั่นเอง เมื่อคีตะไปที่ร้านกาแฟ เขาก็ได้พบอิงนั่งดื่มกาแฟอยู่แล้ว พร้อมด้วยงานที่เขียน ที่เสร็จสมบรณ์ของเธอ ซึ่งเมื่อคีตะอ่านจบก็พบว่า เป็นงานเขียนที่ดีที่สุด เท่าที่อิงเคยเขียนมา
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ร้านค้านี้ยังไม่ได้กำหนดวิธีการชำระเงิน กรุณา ติดต่อกับทางร้าน เกี่ยวกับรายละเอียดในการชำระเงิน
ทางร้านยังไม่ได้ทำการเพิ่มบัญชีรับเงิน กรุณาติดต่อ เจ้าของร้าน
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านorange-shop2
orange-shop2
ขายแผ่น
เบอร์โทร : 0628022626
อีเมล : orangeshop2@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม