จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | DVDญี่ปุ่น |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
1 Litre of Tears หรือ DIARY OF TEARS เศร้ามากกกกกกเสียน้ำตาเป็นลิตร ๆ ตามชื่อเรื่องเลยค่ะ T^T ทั้งเรื่องมีทั้งหมด 11 ตอน ร้องไห้ตั้งแต่ตอนที่ 1 ยันตอนสุดท้ายเลย T-T ซีรี่ย์เรื่องนี้ได้สร้างมาจากเค้าโครงเรื่องจริงค่ะ...
เรื่องย่อ (อิจิ ริตโตรุ โนะ นามิดะ หรือ 1 litre of tears) เป็นละคอนที่สร้างจากบันทึกประจำวัน (diary) ของเด็กผู้หญิงชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ชื่อ คิโตะ อายะ ที่ป่วยด้วยโรคที่ชื่อว่า spinocerebellar degeneration ซึ่งเป็นโรคที่น่ากลัวและไม่มีทางรักษา โดยสาเหตุที่แท้จริงของโรคนั้น มาจากไหน ก็ยังไม่มีใครทราบ โรคนี้มันจะทำให้แกนสมองของผู้ป่วยค่อยๆเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับสภาวะของโรค ซึ่งจะแตกต่างกันไปในผู้ป่วย แต่ละคน แกนสมองเป็นส่วนที่ควบคุมกล้ามเนื้อและส่วนต่างๆของร่างกาย ให้ทำงานตามที่เราคิด เมื่อแกนนี้มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ก็จะมีผลทำให้ร่างกายเกิดการผิดปกติ โดยจะเริ่มจะ ไม่สามารถควบคุมร่างกายให้เดินอย่างปกติได้ อาจจะทำให้เซไปเซมา ต่อมาก็จะทำให้การกะระยะด้วยสายตา คลาดเคลื่อน ทำให้เห็นวัตถุใกล้หรือไกลกว่าความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมีผลกับการหยิบจับสิ่งของ แม้การเขียนก็จะเป็นไปอย่าง ลำบากมากขึ้น ส่วนต่างๆของร่างกายก็จะเริ่มไม่ทำงานตามที่เราต้องการ จนถึงระยะสุดท้ายที่แม้แต่การพูดก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเมื่ออ้าปาก ก็ไม่สามารถบังคับให้ลมผ่านกล่องเสียงออกมาได้ โดยขณะที่ส่วนต่างๆของร่างกายนั้นไม่ทำงาน สมองของผู้ป่วยยังคงเป็นปกติทุกประการ รับรู้และเข้าใจ สภาวะรอบด้าน แต่ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือโต้ตอบได้อย่างที่ต้องการ และเมื่อแกนสมองหดเล็กลงจนหายไป ก็จะมีผลทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โรคของ อายะ ถูกตรวจพบระยะเริ่มแรกเมื่อเธออายุได้ 15 ปีเท่านั้น โดยหมอได้ให้เธอเขียนเหตุการณ์ที่ผิดปกติในแต่ละวัน เป็นบันทึก หรือจะเขียนเป็นไดอารี่ของชีวิตประจำวันก็ได้ แล้วทุกอาทิตย์หมอก็จะนำมอ่านเพื่อศึกษาและดูแล การเปลี่ยนแปลงของอาการ มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายสำหรับเด็กอายุ 15 ปีที่ต้องมารับรู้ว่า ตัวเองป่วยเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ ทุกวันที่ผ่านไปก็หมายถึงบางสิ่งบางอย่าง ที่เธอต้องเสียสละไป และเวลาของชีวิตที่น้อยลงทุกที แต่แม้ว่า อายะ จะรู้ว่าโรคของตัวเองนั้น ไม่มีทางรักษาได้ เธอก็ไม่เคยคิดยอมแพ้ เธอทำทุกอย่างที่เธอทำได้อย่างเต็มความสามารถ อายะจดบันทึกมุมมองของชีวิต ประสปการณ์ และสิ่งต่างๆลงในไดอารี่ของเธอ ตั้งแต่อายุ 15 ปี จนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต เมื่อโรคนี้ทำให้เธอไม่สามารถที่จะจับปากกา ขึ้นมาเขียนเรื่องราวของเธออีกต่อไป อายะเสียชีวิตเมื่อเธอมีอายุได้ 25 ปี นับเป็นระยะเวลากว่า 10 ปีที่เธอต้องต่อสู้กับโรคร้ายนี้ หลังจากที่เธอเสียชีวิตไป ก็ได้มีการนำเอาไดอารี่ของเธอออกมาตีพิมพ์ในชื่อว่า "1リットルの涙" เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ได้ต่อสู้ต่อไป จวบจนปัจจุบัน ไดอารี่ของอายะ จำหน่ายไปแล้วกว่า 18ล้านเล่ม สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนหลายล้าน ในญี่ปุ่น ด้วยถ้อยคำและเรื่องราวที่ไม่ยอมแพ้ให้กับโชคชะตาของเธอ ใครที่ยังไม่ดูไม่อยากให้พลาดเลยนะคะ อยากให้ทุกคนได้ชมเรื่องนี้ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เป็นละครที่ประทับใจมากๆค่ะ เช่นเดียวกับมิซาของเกาหลีเลย มิซาเศร้าแบบรันทด แต่เรื่องนี้เศร้าแบบอบอุ่น ซาบซึ้งใจ เพลงประกอบละครเพราะทั้ง 3 เพลงเลยค่ะ เศร้าๆเข้ากันมาก ทำให้ดูหนังแล้วลงตัวไปหมดทุกอย่างเลย ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |