Byakkotai "ยุวชนทหาร" ซีรีล่าสุดของ ยามะพี (ซับไทย) Dvd 2 แผ่น <ซึ้งมาก ๆ>

Byakkotai "ยุวชนทหาร" ซีรีล่าสุดของ ยามะพี (ซับไทย) Dvd 2 แผ่น <ซึ้งมาก ๆ>

เป็นละครที่นำมาสร้างใหม่ หลังจากที่เคยสร้างมาแล้วในปี ค.ศ. 1986 ซึ่งมีเรทติ้งสูงสุดถึงแปดสิบเปอร์เซนต์ในเขตไอซุ ที่เขตฟุคุชิม่า
ละครเรื่องนี้เป็นละครย้อนประวัติศาสตร์ ที่มีหนุ่มวัยรุ่นที่เป็นลูกหลานของซามูไรเบียคโคะไตไปที่พิพิธภัณฑ์เบียคโคะไต ซึ่งย้อนกลับไปเกี่ยวข้องกับสงครามสมัยนั้นที่เรียกว่าสงครามไอซุ ซึ่งยามาชิตะรับบทเป็นทั้งลูกหลานของซามูไรเบียคโคะไตที่ชื่อชินทาโร่ ซาไกและซามูไรเบียคโคะไต
เป็นเหตุการณ์ในสมัยเอโดะตอนปลาย ช่วงที่จะเข้าสู่สมัยเมจิ ญี่ปุ่นในตอนนั้นที่เอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) รัฐบาลเป็นผู้ปกครองอยู่ ซึ่งก็เริ่มเสื่อมอำนาจแล้วแหละ ส่วนที่เกียวโต ก็เป็นที่อาศัยของจักรพรรดิ และในขณะนั้นก็เกิดสงครามที่ ไอซึ (จังหวัดฟุคุชิมะ) ระหว่างจักรพรรดิ และรัฐบาล สงครามกินพื้นที่แทบทั้งประเทศ จักรพรรดิจะยึดอำนาจคืนจากรัฐบาล

ยามะพี หรือ ซาไค มิเนจิ เป็นทหารฝ่ายรัฐบาล ในเรื่องจะอายุ 16-17 ปีเอง แต่ที่อายุเท่านี้ก็ต้องไปรบ นั่นแปลว่าใกล้แพ้แล้วหล่ะ

ตามประวัติศาสตร์ จักรพรรดิยึดอำนาจคืนได้สำเร็จ และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ดังนั้นฝ่ายรัฐบาลก็แพ้ไป จะได้เห็นถึงความพยายามในการมีชีวิตอยู่ของผู้คน ความรับผิดชอบ ความรักชาติบ้านเมือง รวมถึงความอดอยาก และเสื่อมโทรมทางจิตใจ ของผู้คนสมัยสงครามอีกด้วย



เรื่องย่อ

ซากาอิ ชินทาโร่ และชิโนะ กิชาโร่เป็เพื่อนซี้กัน ทั้ง 2 คนเที่ยวเตร่ไปวันๆตามประสาวัยรุ่น
แต่แล้ววันหนึ่งช่วงเวลาของความสุขของทั้งสอง ก็ต้องหายไป เมื่อคุณย่าของชินทาโร่มาพักที่บ้าน
ด้วยความเข้มงวดของคุณย่า ที่คอยแต่จะกักตัวทั้งสองไว้ในบ้านทำให้ทั้งสองคน วางแผนจะหนีออกจากบ้าน
แม้ว่าแผนนี้จะไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้งที่คุณย่ามาพักที่บ้าน แต่คราวนี้ทั้งสองกลับนี้ออกมาได้
และตัดสินใจที่จะไปหลบอยู่ที่บ้านคุณย่าที่ต่างจังหวัดโดยถือคติที่ว่า "ที่ๆอันตรายที่สุดคือที่ๆปลอดภัยที่สุด"
โดยไม่รู้เลยว่าการเดินทางครั้งนี้ จะเปลี่ยนชีวิตของเด็กทั้งสองไปตลอดกาล...
เมื่อเดินทางกลับไปถึงบ้านคุณย่า ทั้งสองพบคุณตาซึ่งแนะนำให้เขาไปที่พิพิธภัณฑ์ "เบียกไคโต"
ที่นี่เองที่เขาได้พบว่า บรรพบุรุษของตัวเองต้องต่อสู้กับอะไรมาบ้าง ก่อนที่ชีวิตของลูกหลานในปัจจุบันจะสุขสบาย
ได้ขนาดนี้ โศกนาฏกรรมของเหล่ายุวชนทหารและผู้คนที่อยู่ในยุคนั้นโหดร้านเพียงไร อะไรที่ทำให้ความคิดของชินทาโร่
กิซาบุโร่ต้องเปลี่ยนไปตอดกาล....................

นักแสดง

Yamashita Tomohisa - Sakai Mineji and Sakai Shintaro
Tanaka Koki - Shinoda Gisaburo and Shinoda Yusuke
Fujigaya Taisuke - Itou Matahachi



i wish i could stop lovin' you~
2007/Jan/31
[Review] Byakkotai / Yamap's Drama
อัพบลอกซะหน่อย
ฝุ่นเกาะเต็มเลย 55

เพิ่งดูละครพีเรียดเรื่อง Byakkotai หรือที่แปลว่า "ยุวชนทหาร"
ละครที่ยามะพีเล่นนั่นเอง ฉายไปตั้งแต่วันที่ 6-7 มกรา



เป็นเหตุการณ์ในสมัยเอโดะตอนปลาย ช่วงที่จะเข้าสู่สมัยเมจิ
ญี่ปุ่นในตอนนั้นที่เอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) รัฐบาลเป็นผู้ปกครองอยู่ ซึ่งก็เริ่มเสื่อมอำนาจแล้วแหละ ส่วนที่เกียวโต ก็เป็นที่อาศัยของจักรพรรดิ และในขณะนั้นก็เกิดสงครามที่ ไอซึ (จังหวัดฟุคุชิมะ) ระหว่างจักรพรรดิ และรัฐบาล สงครามกินพื้นที่แทบทั้งประเทศ จักรพรรดิจะยึดอำนาจคืนจากรัฐบาล

ยามะพี หรือ ซาไค มิเนจิ เป็นทหารฝ่ายรัฐบาล ในเรื่องจะอายุ 16-17 ปีเอง แต่ที่อายุเท่านี้ก็ต้องไปรบ นั่นแปลว่าใกล้แพ้แล้วหล่ะ

ตามประวัติศาสตร์ จักรพรรดิยึดอำนาจคืนได้สำเร็จ และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว
ดังนั้นฝ่ายรัฐบาลก็แพ้ไป จะได้เห็นถึงความพยายามในการมีชีวิตอยู่ของผู้คน ความรับผิดชอบ ความรักชาติบ้านเมือง รวมถึงความอดอยาก และเสื่อมโทรมทางจิตใจ ของผู้คนสมัยสงครามอีกด้วย


เรื่องนี้แตนดูแล้วก็ร้องไห้นะ อิน รู้สึกซาบซึ้ง สะเทือนใจมากๆ
ทั้งๆที่ดูไม่ได้รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ ต้องอ่านประวัติศาสตร์ควบคู่กันไป
ดูจนจบยังไม่มั่นใจว่าคนไหนคือจักรพรรดิ 55

~จุดที่ชอบ~
- ตอนที่พวกเบียกโคไตกลับมาที่เมืองแล้ว ขณะนั้นก็โดนยิงระเบิดจากฝ่ายจักรพรรดิอยู่เรื่อยๆ มีเสียงระเบิดไม่ขาดสาย ตอนนั้นพวกผู้หญิงและเด็กกำลังช่วยกันรักษาคนเจ็บ และช่วยกันทำอาหาร พวกข้าวปั้นให้พวกทหาร เพราะต้องไปรบกันอีก (ทั้งๆที่จะแพ้อยู่แล้ว)

เด็กคนหนึ่งวิ่งไปถาม "หนูกินข้าวปั้นได้มั้ย?"
ผู้หญิง "ไม่ได้นะ อันนี้สำหรับทหาร ถ้าหิวก็กินน้ำไปก่อน"
แล้วเด็กก็วิ่งไปที่หม้อน้ำ เปิดฝาออก ในน้ำมีเศษหิน เศษไม้ จากแรงระเบิดลอยอยู่เต็มไปหมด
"สกปรกแล้วอ่ะ กินไม่ได้แล้วนี่"

สะท้อนให้เห็นว่าชีวิตช่วงสงครามยากลำบากแค่ไหน มีให้กินก็ไม่ได้กิน
ต้องเก็บอาหารไว้ให้คนที่สำคัญ

- ตอนที่ปราสาทใกล้พังแล้ว มีผู้ชายคนนึงตาย พันศีรษะด้วยผ้าลายดอกไม้ ผู้หญิงนั่งล้อมรอบอยู่
ทุกคนต่างบอกว่า "พ่อตายอย่างสมศักดิ์ศรีแล้วหล่ะ" (มันมีค่านิยมว่า ตั้งแต่เด็กให้ฝึกฝนตัวเองให้เก่ง เพื่อที่จะได้ตายอย่างมีเกียรติ หรือก็คือตายเพื่อชาติอะไรแบบนั้น)
แล้วจู่ๆผู้หญิงคนนั้นก็โดนลูกหลงปืนยิงใส่ ตายไปอีกคน
เด็กสองคนก็พูดขึ้นว่า "แม่ก็ตายอย่างสมศักดิ์ศรีเหมือนกัน" "แม่ก็จะมีดอกไม้เหมือนพ่อ"

มันสะเทือนใจอ่ะ... เหมือนเห็นคนตายกันเยอะจนรู้สึกเฉยๆ
ทำให้รู้สึกว่าพวกเราในตอนนี้โชคดีแค่ไหน ที่ได้เกิดในสังคมที่สงบสุข

นอกจากนี้เรื่องนี้ก็ฮาราคีรีกันไปเยอะเหมือนกัน
เพื่ออะไร? ... ก็เพื่อให้ตายอย่างมีเกียรติ ...


ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะยังไม่มีซับออกมา
แต่ก็เป็นละครที่ดีทีเดียว รู้สึกถึงจิตวิญญาณของคนญี่ปุ่นสมัยก่อน
สะเทือนใจแถมยังได้ความรู้อีกด้วย อยากให้ลองดูกันนะ

ว่าแต่มีใครเข้าใจตอนใกล้จบมั่งมั้ย ให้ที่ตัดผ้าแดงกันอ่ะ ไม่ค่อยเข้าใจ