จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | DVDญี่ปุ่น |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
Tiger& Dragon พยัคฆ์ตัดมังกร<ซับไทย
เรื่องนี้นั่งดูเพราะนักแสดงนำล้วนๆเลยค่ะ ก็ไม่ใช่ใครอื่น นางาเสะ โทโมยะ (คนขวา) สุดหล่อของเรานั่นเอง ละครเรื่องนี้เป็นละครที่ทำให้โทโมยะได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมของญี่ปุ่น ก็เลยค่อนข้างสนใจว่ามันเป็นยังไง พอเปิดมาดูได้ 3 นาทีแรก งงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ความรู้สึกเหมือนตอนนั่งเรียนวิชาฟิสิกส์ เห้ยมันพูดเรื่องไรกันอยู่ฟะเนี่ย !!ด้วยความที่ตัวละครพูดเร็วสุดๆทำให้ตามเรื่องไม่ค่อยทัน หรือไม่ก็เพราะว่าคนแปล แปลได้ไม่รู้เรื่องหรือเพราะตัวละครมันโผล่ทีเดียวมาเป็นสิบก็ไม่รู้ (แรกๆจำได้แต่โทโมยะ)หรืออาจเพราะทั้ง3 เหตุผลนี้ผสมกันนั่นล่ะอิชั้นจึงงงอย่างรุนแรง แต่ด้วยความที่มีสติปัญญาล้ำเลิศ (ขอโม้หน่อย) พอผ่านช่วง 3 นาทีแรกไปแล้วก็พอจะดูรู้เรื่องขึ้นมานิดนึง พอจะจับใจความเนื้อเรื่องและตัวละครได้บ้าง และก็พบว่าเรื่องนี้สนุกกว่าที่คิดไว้มาก เนื้อเรื่องคร่าว ๆ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ยากูซ่าคนหนึ่งชื่อ ยามาซากิ โคโทระ (แสดงโดยโทโมยะ) หรืออีกชื่อหนึ่งว่าโทราจิ ต้องการจะออกจากแก๊งตัวเองและเลิกเป็นยากูซ่า เงื่อนไขของหัวหน้าแก๊งคือเขาต้องไปทวงหนี้ให้ครบตามจำนวนกำหนดจึงจะถอนตัวจากการแก็งยากูซ่าได้ และโคโทระก็ไปต้องทวงเงินจากลูกหนี้คนหนึ่งที่ติดเงิน4 ล้าน ชื่อว่า ยานากะ โชวคิจิ แต่ว่าโชวคิจิยังไม่สามารถหาเงินมาจำนวนเยอะขนาดนั้นได้ทันที โคโทระก็เลยต้องหาวิธีแก้ไข โดยที่โคโทระรู้มาว่าโชวคิจิมีอาชีพเป็นนักเล่าเรื่องราคุโกะ ราคุโกะ เป็นศิลปะอย่างหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่น จากที่เราสังเกต (เอาเอง) จากละคร มันจะเป็นแบบนี้นะคือ จะมีนักแสดงคนเดียวใส่ชุดกิมิโนถือพัดด้ามหนึ่งออกมาเล่าเรื่อง ตอนแรกเราเข้าใจว่าเล่าเรื่องตลก แต่จริงๆเป็นเรื่องที่ไม่ตลกก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ตลกนะ (พูดยังไงวะงง) เหมือนเป็นเรื่องสั้นๆแต่แฝงคติอะไรสักอย่าง และเรื่องที่เล่านี้จะมีอยู่ไม่กี่เรื่อง คือ เหมือนเป็นแบบฉบับการเล่าของเขาเลยอ่ะ สังเกตเอาเองจากในละคร เวลามีคนออกมาเกริ่นเรื่องนิดนึง คนดูก็จะรู้แล้วว่าเรื่องนี้คือเรื่องอะไร ถ้าให้เปรียบก็เหมือนเล่านิทานอีสปละกันที่คนส่วนใหญ่จะรู้เรื่องมาแล้ว และคนที่มาดูส่วนใหญ่มีแต่คนแก่ด้วย เรื่องที่เล่าก็จะเกิดขึ้นในสมัยเอโดะ (ยุคโบราณเลย)แต่ถ้าถามว่ามันสนุกตรงไหนที่มาฟังเรื่องที่เรารู้เรื่องแล้ว อันนี้ก็ไม่รู้แฮะแต่ถ้าจะให้เดา เราว่าน่าจะเป็นเพราะคนเล่าเรื่องราคุโกะแต่ละคนจะมีวิธีการเล่าที่แตกต่างกัน คงเหมือนอย่าง โรมิโอแอนด์จูเลียต หรือ บ้านทรายทอง มั้ง ที่คนส่วนใหญ่รู้เรื่องแล้วก็ยังจะดูอีก เพราะถ้านักแสดงและคนกำกับเป็นคนละคนกัน เรื่องก็น่าจะออกมาคนละแบบกันด้วย จริงมั้ยคราวนี้พระเอกก็เริ่มสนใจว่า ราคุโกะมันเป็นยังไงหว่า และก็อยากลองทำอาชีพนี้ดู เผื่อในอนาคตออกจากแก๊งยากูซ่าแล้วจะได้มาเป็นนักเล่าเรื่องราคุโกะมั่ง โคโทระก็เลยฝากตัวขอเป็นศิษย์ของโชวคิจิให้เขาช่วยสอนวิธีเล่าเรื่องราคุโกะ แล้วโคโทระก็จะจ่ายเงินให้ทุกเดือนถือเป็นค่าสอน เพื่อที่โชวคิจิจะได้มีเงินมาปลดหนี้ด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว มาดยากูซ่าเล่าราคุโกะแต่โคโทระ (ชื่อแปลว่าเสือน้อย)มีนิสัยแบบยากูซ่า เป็นคนตรงไปตรงมา และเส้นลึก มักจะไม่เก็ตมุขอะไรง่ายๆ ดังนั้นเขาจึงเล่าเรื่องราคุโกะได้ไม่สนุกสุดๆเพราะไม่เก็ตว่าตรงไหนมันตลก ทั้งยังเป็นคนความจำไม่ค่อยดี ทำให้แรกๆที่หัดจำบทไม่ได้อีกตะหาก สรุปคือเป็นคนที่เล่าเรื่องราคุโกะห่วยแตกมากๆนั่นเอง ริวจิก็เท่นะ โคโทระมีเพื่อนชื่อ ยานากะ ริวจิ (มังกร) ซึ่งเป็นลูกชายของอาจารย์โชวคิจิ ริวจิเล่าเรื่องราคุโกะเก่งมาก แต่เขาไม่ชอบอาชีพนี้ เขาอยากทำเสื้อผ้าขายมากกว่า จึงหนีออกจากบ้านและไปเปิดร้านขายเสื้อผ้า ซึ่งเสื้อผ้าแต่ละชิ้นมัน... เรียกว่าทำให้คนใส่กลายเป็นนกแก้วได้เลยอ่ะ กินจิโร่ไม่ค่อยถูกกันกับริวจินอกจากนี้ตัวละครก็มี กินจิโร่ ลูกชายหัวหน้าแก๊งซึ่งนับถือโคโทระเป็นพี่ชาย (คือจริงๆพระเอกเป็นเด็กเก็บมาเลี้ยง) แล้วก็ที่ร้านของริวจิก็มีเด็กสาวน่ารักคนหนึ่งชื่อ ริสะ(คนเล่นคือน้องยู อาโออิ ซึ่งหน้าตาน่ารักมาก เคยแสดงหนังดังๆอย่าง All About Lily Chou-Chou และ Hana & Alice มาแล้ว) ริสะจังแล้วก็ยังมีเมกุมิ (แสดงโดยอิโตะ มิซากิ คนนี้หน้าคุ้นเพราะเล่นหลายเรื่องมาก) ผู้หญิงที่สวยและหุ่นดีสุดๆมีอาชีพเป็นไกด์นำเที่ยว ซึ่งผู้ชายทุกคนรวมทั้งริวจิหลงใหล ยกเว้นพระเอกที่เฉยๆ แต่เธอกลับมาหลงรักพระเอกซะงั้น เมกุมิกับโคโทระ และริวจิ (หันหลังอยู่เสือ ในที่นี้ก็หมายถึงโคโทระนั่นเอง ส่วนมังกรก็เป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากริวจิเรื่องราวส่วนใหญ่จึงเกี่ยวพันกับตัวเอกสองคนนี้เป็นหลักเรื่องราวในแต่ละตอนจะดำเนินเรื่องคล้ายคลึงกัน (จริงๆเพิ่งดูไป 4 ตอนเอง) คือ เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องสะเปะสะปะ มักจะเป็นเหตุการณ์รอบตัวพระเอก เกี่ยวกับคนโน้นคนนี้ แล้วพระเอกมักจะไปช่วยแก้ไขหรือไม่ก็คอยสังเกตการณ์ แล้วระหว่างเรื่องอจ.สอนราคุโกะก็จะสอนพระเอกเล่าเรื่องราคุโกะเรื่องหนึ่งตามต้นฉบับ แล้วสุดท้ายพระเอกก็จะมาเล่าเรื่องราคุโกะอีกรอบ แต่ดัดแปลงตามใจตนเองโดยเอาเหตุการณ์รอบๆตัวมาเกี่ยวข้อง สิ่งที่ละครเรื่องนี้ทำได้มหัศจรรย์มากคือการนำเรื่องราคุโกะมาดัดแปลงเป็นอีกเรื่องหนึ่งแต่เรื่องราวเหมือนกันเด๊ะ เรื่องราวในแต่ละตอนจะขนานไปกับเรื่องเล่าราคุโกะจากตอนต้นๆที่คนดูอาจงงกับทิศทางการเล่าของเรื่อง ที่เดี๋ยวก็เล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้แต่พอมาดูถึงตอนจบ (ในแต่ละตอน) เรื่องที่เล่ามาทั้งหมดกลับขมวดปมเป็นเรื่องเดียวกันได้ !! ดูแล้วทึ่งกับคนเขียนบทมาก ๆ ตอนที่ชอบมากคือตอนที่ 3 พิธีชงชา(Spoiled ตอนที่ 3ตอนต้นๆอาจารย์ของพระเอกจะมาเล่าเรื่องราคุโกะ เนื้อเรื่องก็จะเกี่ยวกับเศรษฐีชายแก่คนหนึ่งที่ร่ำรวยมาจากการค้าขาย แต่ตัวเองไม่ได้เป็นชนชั้นผู้ดีอะไรมาก่อน วันหนึ่งเกิดอยากจะจัดพิธีชงชาอย่างที่พวกชนชั้นสูงเขาทำกัน ก็เลยเชิญชาวบ้านแถวๆนั้นมาร่วมงานแต่เผอิญตัวเองไม่เคยร่วมงานแบบนี้มาก่อนก็เลยไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ก็ให้ลูกน้องคนสนิทช่วยสอน ลูกน้องคนสนิทก็ไม่รู้เรื่องพอกัน ทั้งคู่ก็เลยมั่วเอาตามที่เคยได้ยินมา (มันเอาแป้งผสมกับรากไม้อะไรสักอย่างมากินอ่ะ ไม่ใช่ชาเลย แต่สีเขียวเหมือนชาเขียว) คราวนี้พวกชาวบ้านเองก็ไม่เคยร่วมงานพิธีชงชามาก่อนเหมือนกัน ต่างคนก็เลยกะว่าดูคนข้างๆละกันว่าปฏิบัติตัวยังไง แล้วก็ทำตามเขาเอา (ตรงนี้จะฮา เพราะชาที่กินมันก็ไม่ใช่ชา จึงไม่อร่อยอย่างแรง ขนมที่นำมาเสิร์ฟพร้อมชาก็รสชาติไม่ได้เรื่องเลยแต่ทุกคนก็ต้องทำเป็นเหมือนว่ามันอร่อยมากอ่ะ) และพิธีชงชานี้ก็จัดบ่อยขึ้น ชาวนาคนหนึ่งที่บ้านอยู่ข้างๆเศรษฐีชายแก่ก็มักจะเจอขนมที่บรรดาชาวบ้านบ้วนทิ้งมาตกอยู่ในสวนบ้านเขา ทุกครั้งที่เขาพบเศษขนมก็ได้แต่บ่น เฮ้อ สงสัยวันนี้คงมีงานพิธีชงชาอีกแล้วนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า... (อ่าวไม่ใช่นิทานอีสปนี่นา ^^'ส่วนเรื่องราวในเรื่องเริ่มที่ วันหนึ่งมีดีไซเนอร์ชื่อดังมาที่ร้านของริวจิ ดีไซเนอร์คนนี้มีชื่อเสียงว่าหากเขาบอกว่าแบรนด์ไหนมาแรง แบรนด์นั้นก็จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คนจะนิยมกันทันที ดีไซเนอร์คนนี้ก็ชื่นชมร้านของริวจิว่ามีสีสันดูแนวๆดี แล้วบอกว่าเขาจะจัดงานคืนสู่เหย้าดรากอนไนท์ (คงคล้ายฟูลมูนปาร์ตี้อะไรประมาณนั้น)เลยขอให้ริวจิออกแบบแถบรัดข้อมือเพื่อใช้เป็นบัตรผ่านเข้างานให้ที และให้วางขายที่ร้านของริวจิด้วยริวจิดีใจมากจึงออกแบบแถบรัดข้อมือมาหลากหลายแนว ล้วนแต่มีลวดลายและสีสันจัดจ้านสะดุดตาทั้งนั้น แต่สุดท้ายตาดีไซเนอร์คนนั้นก็ไม่เอาแบบที่ริวจิทำ กลับคิดแบบขึ้นมาเองซึ่งเป็นแบบเรียบๆและไม่สวยเลยสักนิด (เป็นผ้าสีเหลืองอ๋อยและเขียนตัวหนังสือสีดำว่า"ดรากอนไนท์ริวจิโมโหก็เลยไปถามดีไซเนอร์คนนั้น เขากลับตอบมาว่า "แบบมันจะเป็นยังไงก็ช่างเหอะ ได้วางขายที่ร้านคุณก็ดีแล้วนี่ ผมช่วยให้ร้านคุณดังขึ้นมาไม่ดีหรอริวจิกลับไปที่ร้านแบบเซ็งๆ แถบรัดข้อมือขายดีมากทำให้คนเข้าเต็มร้านแต่เขาก็ไม่ดีใจเลยสักนิด จนกระทั่งตอนหนึ่งเมกุมิแวะมาที่ร้านพร้อมโคโทระ เมกุมิเป็นสาวพูดตรง เธอบอกว่าแถบรัดข้อมือที่ขายอยู่นี่ไม่เห็นสวยเลย ไม่ใช่สไตล์ของริวจินี่ แล้วเธอก็ทักแถบรัดข้อมือที่อยู่บนข้อมือของริวจิ(ซึ่งเป็นอันที่เขาออกแบบเอง)ว่า อันนี้สิเท่กว่าตั้งเยอะ คำพูดนั้นคงทำให้ริวจิคิดอะไรได้บางอย่าง เขาจึงกลับไปหาดีไซเนอร์และเอาแถบรัดข้อมือทั้งหมดไปคืน เพราะริวจิพบว่าเขาไม่อาจจะขายความเป็นตัวเอง ได้ ร้านของเขาก็กลับมาคนน้อยเหมือนเดิม แต่ริวจิก็เป็นสุขใจ สุดท้ายโคโทระก็เล่าราคุโกะสรุปว่า งานดรากอนไนท์นั้นอยู่ติดกับวัดแห่งหนึ่ง เช้าวันไหนก็ตามที่นักบวชในวัดมากวาดพื้นและพบแถบรัดข้อมือสีเหลืองทิ้งเกลื่อนกลาดทั่วลานวัด นักบวชคนนั้นก็ได้แต่ถอนใจและกล่าวว่า เฮ้อ เมื่อคืนคงมีงานดรากอนไนท์อีกแล้วล่ะสิตอนนี่พระเอกหรอเนี่ย ยังดูเรื่องนี้ไม่จบเลยที่จริง แต่คิดว่าตอนต่อๆไปก็คงจะสนุกเหมือนกันแหละมั้ง (ถ้าดูจบแล้วมีอะไรที่เราอยากเพิ่มเติมอาจจะมาเขียนอีกที)เราชอบเรื่องราคุโกะแต่ละเรื่องนะ สนุกและตลกกว่าที่คิดอ่ะ มีเสียดสีหน่อยๆด้วยสำหรับคนที่คิดอยากจะดูแต่ตัดสินใจไม่ถูก เชิญได้เลย รับรองว่าเรื่องนี้มีอะไรดีๆมากมาย และตลกมากๆด้วย (ดูหน้าพระเอกข้างบนสิ) เออ ตอนหาข้อมูลเพิ่มเพิ่งรู้ว่าละครเรื่องนี้ได้รับรางวัลเยอะนอกเหนือไปกว่าที่โทโมยะได้รางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมอีก (ละครยอดเยี่ยม ว้าว 45th Television Drama Academy Awards: Best Actor: Nagase Tomoya (คนนี้สุดยอดของการแสดงจริงๆ) 45th Television Drama Academy Awards: Best Supporting Actor Nishida Toshiyuki (คนที่เล่นเป็นอจ.สอนราคุโกะก็แสดงเก่งนะ 45th Television Drama Academy Awards: Best Screenwriter: Kudo Kankuro (กะแล้วว่าคนเขียนบทควรจะได้รางวัลด้วย สุดยอดของการเขียนบทเลยครับท่าน 45th Television Drama Academy Awards: Best Music Arrangement: Nakashini Kyo (อืม...เพลงในเรื่องก็ดี จริงๆไม่ได้สังเกตมาก) 45th Television Drama Academy Awards: Best Opening: Katayama Osamu (อันนี้สงสัยคงเป็นเพราะเรางงเองป่าววะ เราว่าเค้าเปิดเรื่องด้วยบทสนทนาที่เร็วโคดอ่ะ อืม... แต่คนญี่ปุ่นอาจจะฟังทันก็ได้มั้ง (แน่ล่ะ) สรุปเราผิดเองที่อ่านซับไม่ทันค้นพบเพิ่มเติมว่าเรื่องนี้ฉายปี 2005 ซึ่งฉายก่อนเรื่อง My Boss My Hero ในปี 2006(แต่เราดู My Boss My Hero ก่อน) ก็ทำให้เข้าใจได้ว่า เพราะโทโมยะเล่นเรื่องนี้ในบทยากูซ่าได้สุดยอดมาก (หยั่งกะยากูซ่าจริงๆ) เลยทำให้เขาได้เล่นบทยากูซ่าอีกครั้งในเรื่อง My Boss My Hero (ซึ่งก็สุดยอดของความฮาอีกนั่นแหละ) พอมาดูเรื่องนี้เลยรู้สึกว่าโทโมยะเหมาะกับบทยากูซ่าจริงๆว่ะ และค้นพบว่าโทโมยะแสดงเก่งมาก ไม่ว่าจะบทโหด บทเก๊กหล่อ บททำหน้าประหลาดๆพี่แกทุ่มสุดตัว แม้จะต้องแต่งตัวเป็นอะไรพิลึกกึกกือ ทำได้หมด!! ขอคารวะ...อีกอย่างพบว่าริงโทนมือถือของโทโมยะทั้งสองเรื่องเป็นเพลงเดียวกัน!! หรือว่าจะเป็นริงโทนที่ใช้จริงๆในชีวิตของเขาข้อควรระวังก่อนการชม (สำคัญมาก)* 1. ระวัง 3 นาทีแรกอาจทำให้คุณเอ๋อจนปิดทีวีได้ 2. กรุณาดูอย่างต่อเนื่อง เพราะทุกตอน (ที่ดูเหมือนจะไร้สาระ) มีความสำคัญต่อเรื่องอย่างไม่น่าเชื่อ 3. ไม่เหมาะสำหรับคนที่สมาธิสั้นและปะติดปะต่อเรื่องไม่เก่ง (ละครนี้เหมือนระดับ advance ในการปะติดปะต่อเรื่องอ่ะ) หากรู้ตัวว่ายังไม่เก่งพอ ควรไปฝึกดูละครญี่ปุ่นแนวตลกเรื่องอื่นๆก่อนดีกว่า ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |