" ตี๋ใหญ่ " ละครยอดฮิตเวอร์ชั่นดั้งเดิม นำโดย ฉัตรชัย เปล่งพานิช

เรื่องที่หลายคนลืมหรือยังไม่รู้ เกี่ยวกับละครทีวี "ตี๋ใหญ่" เมื่อ 22 ปีที่แล้ว "ตี๋ใหญ่" เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อ ๒๕-๓๐ ปีที่แล้ว ต่อมาก็นำเรื่องราวดังกล่าวมาทำเป็นละครโทรทัศน์ จนถึงปัจจุบันมีมาแล้วสองสามครั้ง ครั้งแรกสุดเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๘ และตี๋ใหญ่ฉบับละครทีวีครั้งแรกนี้ก็ยังคงเป็นที่ถวิลหาของแฟนหนังแฟนละครจนถึงปัจจุบัน แม้จะลืมไปแล้ว ๒๒ ปี สิ่งที่เคยรู้นั้นแฟนละครเรื่องตี๋ใหญ่คงพอจะทราบดี แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่แฟนละครผู้ที่ผ่าน พ.ศ.๒๕๒๘ ลืมไปบ้าง และผู้ที่เกิดไม่ทัน พ.ศ. ๒๕๒๘ ยังไม่รู้ คงแน่นอนว่ามีบางสิ่งที่มีความสัมพันธ์ระหว่างละครกับเรื่องราวที่ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นละครด้วย -ละครเรื่อง "ตี๋ใหญ่" ผลิตโดย "คณะส่งเสริมศิลปิน" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกันตนานั่นเอง ออกอากาศทุกบ่ายวันเสาร์ และ อาทิตย์ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๕ ใช้เวลาลงโปรแกรมนานเกือบครึ่งปีละครก็อวสานลง ผลปรากฏว่าละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงจนเอาชนะรายการของสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆที่ออกอากาศในวันเวลาเดียวกันซึ่งมักจะเป็นรายการภาพยนตร์จากต่างประเทศและรายการปกิณกะ -กำกับการแสดงโดย "ชูศักดิ์ สุธีรธรรม" ที่ปัจจุบันเป็นผู้กำกับการแสดงให้กับละครเรื่องต่างๆที่ออกอากาศทางช่อง ๓ -"นิรัตติศัย กัลย์จาฤก" ไม่ได้กำกับการแสดง แต่รับหน้าที่ควบคุมการผลิต -ที่เลือก "ฉัตรชัย เปล่งพานิช" รับบทตี๋ใหญ่ เพราะเขามีความผูกพันกับคุณพ่อ(พล.ต.ต.ถวิล เปล่งพานิช) ซึ่งเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีตี๋ใหญ่ จึงเลือกเอาบุตรของผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จริงมารับหน้าที่ถ่ายทอดเป็นตี๋ใหญ่ในละครโทรทัศน์ซะเลย -ละครเรื่องนี้มีบุคคลสำคัญมาร่วมแสดงจำนวนหนึ่ง อาทิ "ธงชัย ประสงค์สันติ" มาโผล่ในตอนแรกๆ ผู้สร้างกันตนา "ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก" ก็ร่วมแสดงด้วย หรือแม้แต่ "ครูบุญเลิศ กระบวนแสง" แห่งบุญเลิศลีลาศ ก็มาปรากฏตัวในตอนที่ตี๋ใหญ่แฝงตัวเข้าไปฝึกเต้นรำ -มีการนำบทละครเรื่องตี๋ใหญ่มาเรียบเรียงเพื่อตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ "ข่าวสด" (สมัยที่ยังไม่เป็นข่าวสดกับมติชน) ทุกวันศุกร์และเสาร์ ฉะนั้นผู้ที่อ่านบทละครในไทยรัฐหรือเดลินิวส์ในยุคนั้นคงต้องหันไปอ่านข่าวสดกันบ้าง -ละครเรื่องตี๋ใหญ่ เมื่อโด่งดังเพราะมีผู้ชมเฝ้าดูกันมากแล้วจะไม่รับรางวัลได้ยังไง การประกาศผลรางวัล "เมขลา" ประจำปี ๒๕๒๘ ผลปรากฏว่า "ตี๋ใหญ่" ได้รับรางวัลผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) ส่วนรางวัลอื่นๆอีกหลายรางวัล.....
ตี๋ใหญ่ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีช่อง 5 ปี พ.ศ. 2528 บทโทรทัศน์ วิลาสิณี กำกับการแสดง ชูศักดิ์ สุธีรธรรม นักแสดง ฉัตรชัย เปล่งพานิช ฐาปกรณ์ ดิษยนันท์
ถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์ 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2528 ทางช่อง 5 ผู้ที่รับบทตี๋ใหญ่ คือ ฉัตรชัย เปล่งพานิช พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ รับบทโดย ฐาปกรณ์ ดิษยนันท์ และในปี พ.ศ. 2543 ทางช่อง 3 ผู้รับบทตี๋ใหญ่ คือ ศรราม เทพพิทักษ์ และ พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ รับบทโดย ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์ตี๋ใหญ่ มีชื่อจริงว่า กรประเสริฐ ช่างเขียน เป็นชาว อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เมื่อยังเด็ก ตี๋ใหญ่มักถูกเพื่อน ๆ วัยเดียวกันกลั้นแกล้งรังแกอยู่เสมอ ๆ จึงทำให้เป็นคนกล้าสู้คนขึ้นมาโดยสภาพแวดล้อมแถวบ้านเป็นเรือกสวนไร่นา ตี๋ใหญ่จึงมักจะตัดก้านบัวเป็นหลอดอมเข้าปากเพื่อหายใจในน้ำเสมอ ๆ ซึ่งต่อมา นี่เป็นวิธีที่ตี๋ใหญ่ใช้ในการหลบหนีตำรวจวิธีหนึ่งตี๋ใหญ่ โด่งดังจากการเป็นโจรปล้นฆ่าชื่อเสียงโด่งดัง ในราวก่อนปี พ.ศ. 2520 โดยจะปล้นฆ่าไปทั่วแถบบริเวณ จ.ราชบุรีและหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง และบางส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีเสียงเล่าลือกันว่า ตี๋ใหญ่ เป็นโจรใจเด็ด เคยหนีตำรวจโดยกระโดดลงจากรถไฟมาแล้ว และสลัดกุญแจมือด้วยการซ่อนตัวอยู่ใต้สะพานให้รถไฟทับให้ขาด นอกจากนี้ยังเชื่อว่ากัน ตี๋ใหญ่ เป็นโจรจอมขมังเวทย์ มีคาถาอาคมกำบังหายตัวได้ จึงทำให้หลุดรอดจากการจับกุมของทางการอยู่เสมอ ๆนอกจากนี้แล้ว ตี๋ใหญ่ ยังเป็นโจรเจ้าชู้ กล่าวกันว่ามีภรรยาหลายคน เพราะเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง โดยตี๋ใหญ่โกหกชื่อตนว่าชื่อ แจ็ค บ้าง ไพโรจน์ บ้าง เป็นต้น โดยที่ภรรยาเหล่านี้บางคนยังไม่ทราบเสียด้วยซ้ำว่า สามีของตนนั้นเป็นโจรตี๋ใหญ่ มักจะอยู่ไม่เป็นที่ ต้องคอยหลบหนีตลอด โดยเวลานอนจะจุดธูปหนีบไว้ที่นิ้วเท้าเมื่อธูปหมดดอก ก็จะย้ายไปที่อื่น ตี๋ใหญ่มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือ มักจะแต่งกายด้วยเสื้อเชิร์ตลายสก๊อต กางเกงยีนส์สีดำ สวมแว่นตาดำ และรองเท้าผ้าใบ เวลาตี๋ใหญ่ออกปล้นมักจะฆ่าเจ้าทรัพย์ด้วยความโหดเหี้ยม โดยจะส่งเสียงขู่ด้วยน้ำเสียงที่น่าหวาดกลัว แต่ก็เสียงเล่าลือกันอีกว่า ในบางครั้งตี๋ใหญ่ก็ปล้นแต่เฉพาะคนรวย และใครเคยช่วยเหลือก็ไม่เคยลืมบุญคุณและจะนำทรัพย์สินที่ปล้นได้มาแบ่งให้ โดยวางทิ้งไว้ที่หน้าบ้านตี๋ใหญ่ได้เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2524 โดยตำรวจโดยการนำของ พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ (ยศในปัจจุบัน - อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล) เล่ากันว่าที่ ตี๋ใหญ่ เสียชีวิตนั้น เพราะกำลังหลบหนี ก่อนหน้านั้นหนึ่งวันได้ให้น้องลูกขับรถกระบะไปรับเพื่อไปหาพระเกจิอาจารย์ รูป คือ หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ที่ จ.สมุทรสาครเพื่อไปขอพระจากหลวงปู่สุดเพราะของเดิมผู้ที่รู้บางท่านบอกว่า โดนเพื่อนขโมยไป ทั้งตะกรุด และ พระ แต่ไม่พบ ขณะที่เดินทางกลับ จึงถูกตำรวจวางแผนจับและถูกยิงถล่มจนเสียชีวิตภายหลังจากการเสียชีวิตแล้ว ยังมีเสียงเล่าลือกันว่า ตี๋ใหญ่แท้จริงยังไม่ตาย บ้างก็ลือกันว่าตี๋ใหญ่ได้หนีไปอยู่สหรัฐอเมริกา บ้างก็เชื่อว่าที่ตี๋ใหญ่เสียท่าแก่ตำรวจ เพราะได้หลบไปซ่อนอยู่ใต้ผ้าถุง อาคมในตัวจึงเสื่อม เป็นต้น เรื่องราวของตี๋ใหญ่ยังถูกเล่าขานต่อ ๆ กันมา ตี๋ใหญ่ มีชื่อจริงว่า กรประเสริฐ ช่างเขียน เป็นชาว อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เมื่อยังเด็ก ตี๋ใหญ่มักถูกเพื่อน ๆ วัยเดียวกันกลั้นแกล้งรังแกอยู่เสมอ ๆ จึงทำให้เป็นคนกล้าสู้คนขึ้นมา โดยสภาพแวดล้อมแถวบ้านเป็นเรือกสวนไร่นา ตี๋ใหญ่จึงมักจะตัดก้านบัวเป็นหลอดอมเข้าปากเพื่อหายใจในน้ำเสมอ ๆ ซึ่งต่อมา นี่เป็นวิธีที่ตี๋ใหญ่ใช้ในการหลบหนีตำรวจวิธีหนึ่ง ตี๋ใหญ่ โด่งดังจากการเป็นโจรปล้นฆ่าชื่อเสียงโด่งดัง ในราวก่อนปี พ.ศ. 2520 โดยจะปล้นฆ่าไปทั่วแถบบริเวณ จ.ราชบุรีและหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง และบางส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีเสียงเล่าลือกันว่า ตี๋ใหญ่ เป็นโจรใจเด็ด เคยหนีตำรวจโดยกระโดดลงจากรถไฟมาแล้ว และสลัดกุญแจมือด้วยการซ่อนตัวอยู่ใต้สะพานให้รถไฟทับให้ขาด นอกจากนี้ยังเชื่อว่ากัน ตี๋ใหญ่ เป็นโจรจอมขมังเวทย์ มีคาถาอาคมกำบังหายตัวได้ จึงทำให้หลุดรอดจากการจับกุมของทางการอยู่เสมอ ๆ นอกจากนี้แล้ว ตี๋ใหญ่ ยังเป็นโจรเจ้าชู้ กล่าวกันว่ามีภรรยาหลายคน เพราะเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง โดยตี๋ใหญ่โกหกชื่อตนว่าชื่อ แจ็ค บ้าง ไพโรจน์ บ้าง เป็นต้น โดยที่ภรรยาเหล่านี้บางคนยังไม่ทราบเสียด้วยซ้ำว่า สามีของตนนั้นเป็นโจร ตี๋ใหญ่ มักจะอยู่ไม่เป็นที่ ต้องคอยหลบหนีตลอด โดยเวลานอนจะจุดธูปหนีบไว้ที่นิ้วเท้าเมื่อธูปหมดดอก ก็จะย้ายไปที่อื่น ตี๋ใหญ่มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือ มักจะแต่งกายด้วยเสื้อเชิร์ตลายสก๊อต กางเกงยีนส์สีดำ สวมแว่นตาดำ และรองเท้าผ้าใบ เวลาตี๋ใหญ่ออกปล้นมักจะฆ่าเจ้าทรัพย์ด้วยความโหดเหี้ยม โดยจะส่งเสียงขู่ด้วยน้ำเสียงที่น่าหวาดกลัว แต่ก็เสียงเล่าลือกันอีกว่า ในบางครั้งตี๋ใหญ่ก็ปล้นแต่เฉพาะคนรวย และใครเคยช่วยเหลือก็ไม่เคยลืมบุญคุณและจะนำทรัพย์สินที่ปล้นได้มาแบ่งให้ โดยวางทิ้งไว้ที่หน้าบ้าน ตี๋ใหญ่ได้เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2524 โดยตำรวจโดยการนำของ พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ (ยศในปัจจุบัน - อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล) เล่ากันว่าที่ ตี๋ใหญ่ เสียชีวิตนั้น เพราะกำลังหลบหนี ก่อนหน้านั้นหนึ่งวันได้ให้น้องลูกขับรถกระบะไปรับเพื่อไปหาพระเกจิอาจารย์ รูป คือ หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ที่ จ.สมุทรสาครเพื่อไปขอพระจากหลวงปู่สุดเพราะของเดิมผู้ที่รู้บางท่านบอกว่า โดนเพื่อนขโมยไป ทั้งตะกรุด และ พระ แต่ไม่พบ ขณะที่เดินทางกลับ จึงถูกตำรวจวางแผนจับและถูกยิงถล่มจนเสียชีวิต