จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | DVDไทย |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
Channel 7 : นารีลุยไฟ บทประพันธ์ เกตุวดี บทโทรทัศน์ วรพันธ์ รวี กำกับการแสดง วัชรา แสงสุวรรณ นำแสดงโดย 1. สวิช เพชรวิเศษศิริ แสดงเป็น ภูธิชย์ 2. ทราย เจริญปุระ แสดงเป็น นารี 3. ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น เฉิด 4. รติพงษ์ ภู่มาลี แสดงเป็น ภูธน 5. อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา แสดงเป็น ปรัง 6. ปรางค์วลัย เทพสาธร แสดงเป็น กนกนาฏ 7. อัญชลี ชัยศิริ แสดงเป็น แจ๋ว 8. อานนท์ ภูรีเลิศวาณิชย์ แสดงเป็น หัสชัย 9. สุภัสสร มามีเกตุ แสดงเป็น รุจี 10. เลอสรรค์ คงเจริญ แสดงเป็น พุฒิ 11. ด.ญ.พลอย ยมาภัย แสดงเป็น นารี (เด็ก) 12. ด.ญ.วริษฐา เขียวสุทธิ แสดงเป็น ธิตา (เด็ก) 13. สรยุทธ คณานุรักษ์ แสดงเป็น นัทธี ออกอากาศ ทุกวัน เวลา 18.30 น. ช่อง 7
เรื่องย่อ นารี สาวสวยคนเก่ง ขยัน เธออยู่กับแม่และน้องสาวคือ นางเฉิด และธิตา ตั้งแต่พ่อของเธอตายไป นารีก็ต้องกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวโดยปริยาย เธอทำงานหนักและเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งไปพร้อมกัน นารีต้องหาเงินให้มากพอสำหรับ 3 ชีวิต และต้องเผื่อให้นางเฉิดสำหรับเล่นไพ่ ต้องมีเงินสำหรับค่าหน่วยกิตของธิตาน้องสาวคนสวยที่แสนจะบอบบางเพื่อเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งธิตาเรียนอยู่นานจนจะเป็นย่าของมหาวิทยาลัยอยู่แล้วก็ยังเรียนไม่จบ ขณะที่นารีเป็นน้องทั้งเรียนและทำงานไปพร้อมกัน นารีก็ยังเรียนจบก่อนธิตา ยิ่งไปกว่านั้นธิตาก็ขยันหาเรื่องมาให้นารีร้อนใจอยู่เสมอ จนบางครั้งเธอสงสัยว่านอกจากความสวยแล้ว ธิตามีสมองหรือไม่ แต่ไม่ว่าธิตาจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมา และนารีต้องตามแก้ปัญหาเพียงใด นารีก็ไม่เคยที่จะคิดทิ้งแม่และน้องสาวไปมีชีวิตที่สุขสบายตามลำพังเลยสักครั้ง แต่วันนี้นารีก็อยากจะตายหรือหนีไปให้พ้นจากภาระที่ต้องรับอยู่นี้ เมื่อรู้ว่าน้องสาวคนสวยสะเพร่าทำเงินของชมรมกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยหายไป เงินนั้นมากถึงหนึ่งแสนบาท นารีโกรธจนหัวหมุน ยิ่งเห็นมารดาเอาแต่ร้องไห้ขอร้องให้เธอช่วยธิตาอีกครั้งก็เหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาโดยไม่คิดจะช่วยหาทางหาเงินเลย ซ้ำร้ายธิตาเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะรับผิดชอบอะไรเช่นกัน นอกจากร้องไห้คร่ำครวญพร้อมสรุปง่าย ๆ ว่านารีต้องทำได้ นารีต้องช่วยไม่เช่นนั้นพวกเพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัยจะไปแจ้งความแล้ว ธิดาก็จะต้องถูกจับเป็นข่าว ธิตาอายที่ไม่มีเงินไปใช้หนี้ นารีรู้สึกอยากจะคลั่งเมื่อเธอหมดความอดทน โวยวายดุธิตา ธิตาก็กรี๊ดแล้วนิ่งไป นางเฉิดก็แทบจะเป็นลมตามธิตาไปด้วย เพราะนางรักและทะนุถนอมธิตามาก เนื่องจากธิตาป่วยเป็นโรคหัวใจ ด้วยเหตุนี้ ธิตาจึงเป็นสาวน้อยที่บอบบาง กระทบอะไรนิดหน่อยก็พาลจะตาย นารีมองภาพมารดาที่ฟูมฟายกลัวธิตาจะตายอย่างอ่อนใจ และน้อยใจ เธอสงสัยว่าถ้าเรื่องนี้เกิดกับเธอ มารดาจะทำอย่างไร นารีถอนใจยาวก่อนจะไปละลายยาหอม หยิบยาดม และผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้น้องสาว นางเฉิดสีหน้าดีขึ้นเมื่อเห็นธิดาเริ่มรู้สึกตัว ธิตาจับมือนารีมากอดไว้พลางสรุปอย่างรวดเร็วว่านารีจะเอาเงินมาให้เธอได้เมื่อไหร่ เธออายและไม่อยากถูกทวงหนี้ นารีมองหน้าน้องสาวและมารดาอย่างน้อยใจที่สุด ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปเงียบ ๆ นารีไปหา พุฒิ เพื่อนชายคนสนิท พุฒิกับนารีไม่ได้ต่างกันเลยในเรื่องฐานะและการดิ้นรนหาเงิน เลี้ยงตัวเองกับครอบครัว พุฒิจึงเข้าใจถึงความลำบากของนารีได้ดี เขาทั้งคู่จึงเป็นเพื่อนคู่ปรับทุกข์และคู่ปรึกษาซึ่งกันและกันเสมอมา เมื่อพุฒิรู้เรื่องเขามองนารีอย่างเห็นใจ เงินจำนวนมากขนาดนี้นารีจะทำอย่างไร ทุกวันนี้เธอทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในเวลากลางวัน กลางคืนเป็นบาร์เทนดี้ในผับ แถมเมื่อเวลานางเฉิดร้อนเงินเพราะเสียไพ่ หรือธิตาเปิดเทอมต้องการค่าหน่วยกิต นารีทำแม้กระทั่งขายเลือด นารีบ่นกับพุฒิอย่างอึดอัดใจ เธอประชดว่าหนี้สินคราวนี้ของธิตา เธอคงต้องขายตัวหาเงินมาปลดหนี้แน่ๆ พุฒิรู้ดีว่านารีดีแต่พูดเรื่องขายตัว ทุกวันนี้นารีต้องหาวิธีสารพัดในการที่จะรักษาตัวให้พ้นจากบรรดาเฒ่าหัวงูหรือหนุ่มเจ้าชู้ทั้งหลายที่วนเวียนมาจีบเธอถึงที่ผับ เพราะนารีสวย และเซ็กซี่มากแม้จะแต่งตัวเรียบร้อยเสมอ เมื่อนารีบ่นอยากเบิกเงินก้อนมาใช้หนี้ พุฒิจึงนึกได้ถึงประกาศรับสมัครงานของภิธิชัยฟาร์มที่ต้องการพนักงานใหม่เป็นชายหนึ่งคนและหญิงหนึ่งคน โดยที่จะจ่ายเงินล่วงหน้าให้ 1 ปีครบตามสัญญาจ้าง พุฒิส่งหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นให้นารีเพื่อส่งจดหมายสมัครงานไป นารีรับหนังสือพิมพ์นั้นมาก่อนกลับบ้านอย่างเพลียใจ เธอหลับไปได้ไม่นานก็ต้องตื่นเพราะนางเฉิดมาปลุก นางบอกเธออย่างตื่นเต้นว่างานที่ภูธิชัยฟาร์มจะช่วยแก้ปัญหาครั้งนี้ได้แน่นอน นางบอกให้นารีรีบเขียนจดหมายทันที นารีรับหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นมาดูประกาศรับสมัครงานที่แปลกประหลาดนั้นอีกครั้ง นารีตัดสินใจทันที งานครั้งนี้อาจจะดูแปลกแต่ก็เป็นวิธีเดียวที่จะแก้ปัญหาได้ สำหรับเธอแล้วถ้าจะต้องลุยไฟก็คงต้องยอมเพื่อแม่และน้องสาว นารีจะทิ้งทั้ง 2 คนนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน ทางด้าน ภูธิชย์ เจ้าของไร่กำลังปวดหัวกับ ภูธน น้องชายคนเดียวอย่างมาก ภูธนเจ้าชู้มาก พนักงานหญิงสาว ๆ ต้องมีอันลาออกหรือถูกให้ออกพร้อมเงินปลอบขวัญก้อนโตเสมอ เพราะภูธนจะหาโอกาสปล้ำเสียทุกคน ภูธนไม่สนใจว่าผู้หญิงจะรักเขาหรือไม่ เขารู้แต่ว่าถ้าเขาชอบเขาต้องได้ เรื่องก็จะลงเอยตรงที่ภูธนจะปล้ำหรือข่มขืนเพื่อให้ได้ดังใจทุกครั้ง ผู้หญิงเหล่านั้นแทบทุกคนท้องและต้องทำแท้ง ตามคำสั่งของภูธนก่อนจะออกจากบ้านไปพร้อมเงินก้อนโต ภูธนไม่เคยยอมรับเลยว่าเป็นฝีมือของเขา ภูธนจะปฏิเสธเสมอ ภูธิชย์เองแม้จะรู้อยู่แก่ใจแต่ก็ไม่ให้ความสำคัญจะเอาจริงเอาจัง เพราะตัวเขาเองก็ไม่เห็นค่าและความหมายของผู้หญิงเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพราะทั้งแม่ของเขาและแม่ของภูธนต่างก็หอบผ้าหนีตามชู้ไปทั้งคู่ ภูธิชย์จึงดูถูกผู้หญิงเสียด้วยซ้ำไป ที่ภูธิชย์รำคาญใจและปวดหัวก็เพราะเขาขี้เกียจหาพนักงานใหม่ พอจะฝึกงานเป็นและคล่อง ภูธนก็ทำเรื่องเสียทุกครั้ง แล้วงานด้านเอกสารผู้หญิงก็มักจะละเอียดและรอบคอบกว่าเสียด้วย อีกประการหนึ่งเขากลัวว่าถ้าผู้หญิงพวกนั้นไปฟ้องร้องและแจ้งความภูธนก็ต้องติดคุก ที่สำคัญงานของภูธิชย์ยุ่งมากจนไม่มีเวลาจะมาช่วยน้องชายขึ้นโรงขึ้นศาลบ่อย ๆ ภูธิชย์ลืมคิดไปว่าการช่วยน้องชายแก้ปัญหาด้วยการใช้เงินปิดปากผู้หญิงเหล่านั้นมันยิ่งทำให้ภูธนได้ใจ เพราะคิดว่าไม่มีใครทำอะไรเขาได้ เพียงแค่เขาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเดี๋ยวภูธิชย์ก็จ่ายเงิน แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ภูธนเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าพี่ชายต่างมารดาของเขาฉลาดเป็นกรด ไม่มีใครหลอกภูธิชย์ได้ง่ายๆ ยกเว้นแต่ว่าเขาจะไม่สนใจเท่านั้นเอง ที่ร้ายก็คือภูธิชย์ดุมาก เขาสามารถชกใครได้ง่าย ๆ ทั้งที่หน้าเฉย ๆ หรือยิ้ม ๆ ด้วยซ้ำ ถ้าคน ๆ นั้นขัดคำสั่งพูดจาไม่รู้เรื่อง หรือกวนประสาทเขา แต่ภูธิชย์ไม่ใช่คนเกเร อันธพาล เขาเป็นคนตรงไปตรงมาเป็นคนจริง ซึ่งถ้าภูธิชย์ไม่เป็นอย่างนี้ เขาคงไม่สามารถกอบกู้ฐานะครอบครัวจากการที่แทบล้มละลายกลับมามีทรัพย์สินเป็นร้อยล้านได้อย่างนี้ ภูธนจึงกลัวภูธิชย์มากพอ ๆ กับอิจฉา เขาคิดง่าย ๆ ว่าภูธิชย์โกงและรวบอำนาจไว้คนเดียว เขาเองกว่าจะใช้เงินได้ต้องขอแล้วขออีก ที่ทำให้ภูธนเจ็บใจก็คือภูธิชย์ให้เขาไปรับเงินจากปรัง ซึ่งเป็นผู้จัดการไร่และเป็นมือขวาของภูธิชย์ ภูธนคิดแค้นว่าภูธิชย์เชื่อปรังมากกว่าเชื่อเขาเสียอีก ภูธนไม่เคยสำนึกเลยว่าตัวเองไม่เคยทำงานเป็นชิ้นเป็นอันไม่เคยช่วยหาเงิน ดีแต่ช่วยให้จนถึงขั้นผลาญเงินมากกว่า ภูธิชย์เรียกปรังมาถามเรื่องพนักงานคนใหม่ ปรังส่งแฟ้มให้ทันที เขาบอกภูธิชย์ว่ามีส่งจดหมายมาสมัครหลายคน แต่เขาเลือก 2 คนแรกในแฟ้ม แต่ถ้าภูธิชย์จะเปลี่ยนก็ได้อีกเหมือนกัน ภูธิชย์รับแฟ้มมาเปิดดูภาพของผู้สมัครติดอยู่กับใบสมัครเรียบร้อย ภูธิชย์ดูรูปของของสาวน้อยหน้าหวานแต่ตาดุและมีแววเอาจริงของนารีอย่างพอใจ ภูธิชย์ตกลงตามที่ปรังเสนอ ดังนั้นพนักงานใหม่ของภูธิชย์ฟาร์มคือ นารีกับพุฒินั่นเอง ปรังจึงรีบโทรเลขบอกให้ทั้งคู่เตรียมตัวมาทำงานโดยเร็วที่สุด นารีรับโทรเลขของปรังจากธิตามาดูอย่างไม่ค่อยตื่นเต้นนัก เธอไม่รู้ว่าพุฒิก็สมัครงานไว้ที่นี่เช่นกัน คนที่มีความสุขกับงานใหม่ของนารีก็คือนางเฉิดและธิตา ทั้งสองคนคำนวณเงินเดือนของนารีเรียบร้อยแล้วว่าค่าจ้างล่วงหน้าทั้งปีนั้นพอใช้หนี้อย่างแน่นอน แถมยังเร่งให้เธอโอนเงินกลับมาให้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันใช้หนี้ นารีถอนใจยาวอย่างเหนื่อยหน่าย เธอจัดกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งน้ำตาจะอย่างไรก็ตามเธอไม่เคยต้องจากบ้านไปทำงานไกลๆ นานถึงขนาดนี้เลย 1 ปีที่ขอนแก่น ที่ไร่ภูธิชย์ฟาร์ม นารีคิดว่าคงทรมานที่สุดสำหรับเธอ เช้าวันรุ่งขึ้นนารีก็พร้อมจะเดินทาง เธอต้องการไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งตามลำพัง แต่นางเฉิดกับธิตาก็อ้างความเป็นห่วงและจะไปส่งเธอที่ท่ารถ นารีต้องห้ามจนเหนื่อยถึงได้ออกจากบ้าน แต่ขณะที่เธอรอรถแท๊กซี่อยู่ที่หน้าบ้านโดยมีนางเฉิดและธิตาตามออกมาด้วย รถโฟร์วิลด์คันหรูก็ปราดเข้ามาจอดตรงหน้า ผู้ชายที่ลงมาจากรถสูงใหญ่ แถมไว้หนวดเคราดูรุงรัง ผมยาวรวบไว้ง่าย ๆ ก็ลงมา เขาถือรูปมาด้วย เขามองรูปสลับกับมองนารี พลางพูดห้วน ๆ ว่าเธอจะไปภูธิชย์ใช่หรือไม่ ถ้าพร้อมจะไปก็ขึ้นรถได้เลย นารีตกใจในครั้งแรกแต่เมื่อชะโงกดูรูปแล้ว เธอจำได้ว่าเป็นรูปที่เธอส่งไปสมัครงานที่ภูธิชย์ฟาร์ม นารีมองนายเคราดกอย่างหวาดระแวง แต่เมื่อเขาย้ำอีกครั้งแล้วทำท่าจะไม่รอนารีก็ตัดสินใจทันที เธอเข้าใจว่าเขาคือคนขับรถที่ทางฟาร์มส่งมา นารีจึงออกเดินทางไปพร้อมกับเขา นารีไม่รู้ว่านายเคราที่เธอคิดว่าเป็นคนขับรถนั้นคือภูธิชย์นายจ้างของเธอเอง ดังนั้นระหว่างการเดินทางภูธิชย์แวะซื้อเหล้า นารีเตือนเขาว่าเจ้าของไร่คือคุณภูธิชย์คงไม่รู้ว่าคนขับรถแวะซื้อเหล้าเพื่อดื่มเวลาขับรถ คำพูดของนารีทำให้ภูธิชย์เกือบสำลัก เขานึกขำที่นารีตาต่ำเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่คิดจะบอกความจริงกับเธอ เพราะคิดว่าไม่จำเป็น ภูธิชย์แวะค้างคืนที่โคราช ขณะที่นารีเริ่มโวยวายภูธิชย์จึงให้เธอขับเอง นารีจึงยอมแพ้เพราะเธอขับรถไม่คล่อง ท่าทีข่มขู่และดุของภูธิชย์ทำให้นารีหมั่นไส้ เธอจึงรวนกับเขาบ้างเพราะนารีก็ได้ชื่อว่าเป็นจอมเฮี้ยวเหมือนกัน กว่าจะถึงไร่ทั้งคู่ก็เป็นคู่กัดกันตลอดทาง เธอเรียกเขาประชด ๆ ว่านายเครา ชื่อใหม่นี้ทำให้ภูธิชย์ทั้งโกรธและขำ เขาเริ่มถูกใจที่นารีดุและเข้ม เพราะมาดอย่างนี้ภูธนคงทำอะไรไม่ได้ง่าย ๆ เมื่อถึงภูธิชย์ฟาร์ม ปรังออกมารับที่รถทันที นารีแปลกใจที่นายเครารีบคว้าแขนปรังไปกระซิบกระซาบอยู่สักครู่ก่อนจะผละไป ปรังมองนารีอย่างเอ็นดูก่อนให้แจ๋ว สาวใช้วัยรุ่นพาเธอไปที่ห้องพัก นารีถึงกับอึ้งไปเมื่อเห็นห้องพักของเธอ เพราะห้องนั้นกว้าง ตกแต่งอย่างอ่อนหวานด้วยสีชมพู เฟอร์นิเจอร์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบ นารีรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องพักของโรงแรมหรู ๆ มากกว่าในบ้านกลางไร่อย่างนี้ แจ๋วมองนารีขำๆ จนเธอรู้สึก แจ๋วพูดอะไรบางอย่างเป็นเชิงให้เธอระวังตัวจนนารีเข้าใจว่าภูธิชย์คงเป็นตัวอันตราย นารีได้พบกับภูธนที่โต๊ะอาหารในเวลากลางวัน นารีไม่ชอบสายตากรุ้มกริ่มโลมเลียของภูธนที่มองเธอเหมือนเป็นเหยื่ออันโอชะ ยิ่งไปกว่านั้นภูธนวางมาดสุภาพบุรุษดูแลเธอ แต่ทำแบบปากว่ามือถึงจนนารีโกรธ เธอไม่ชอบวิธีการหลอกแต๊ะอั๋งของภูธน นารีเตือนภูธนตรง ๆ ด้วยมาดเข้ม ๆ ตาดุ ๆ จนภูธนต้องถอยเหมือนกัน นารีคิดว่าถ้าน้องชายเป็นอย่างนี้ พี่ชายคงไม่แตกต่างกันมากนัก นารีดีใจที่พกเครื่องมือป้องกันตัวสำหรับผู้หญิงมาด้วย บ่ายวันนั้นปรังให้เธอเซ็นสัญญาว่าจ้าง พร้อมกับเซ็นรับเช็คค่าจ้างของเธอทั้งปีด้วย นารีตัดสินใจจะโอนเงินให้มารดาโดยเร็วที่สุด ปรังมอบงานให้เธอทำเลยทันที นารีลุยงานจนค่ำ เมื่อกลับถึงห้องพักเธอก็ได้รับโทรเลขจากมารดาว่ากำลังมาภูธิชย์ฟาร์มพร้อมกับธิตาและจะถึงในวันรุ่งขึ้น นารีอยากจะร้องกรี๊ดในความดื้อรั้นของมารดาและน้องสาว เธอสังหรณ์ใจว่าทั้งคู่คงมาทำให้เธอวุ่นวายอีกแน่ๆ นารีจำใจต้องขออนุญาตปรังเข้าเมืองในวันรุ่งขึ้น เธอบอกเขาตามตรงเรื่องมารดาและน้องสาว ปรังรับปากจะบอกภูธิชย์ให้ ปรังพานรีไปรับมารดาและน้องสาว โดยบอกว่าเขาต้องไปรับพนักงานอีกคนหนึ่งอยู่แล้ว เมื่อถึงสถานีขนส่งที่ในเมือง นารีดีใจมากเมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมงานคนใหม่ของเธอคือพุฒินั่นเอง ปรังบอกนารีว่าภูธิชย์อนุญาตให้มารดาและน้องสาวของเธอพักที่ไร่ได้ เมื่อกลับถึงไร่ธิตากรี๊ดกร๊าดกับห้องพักที่สวยงามและบรรยากาศสวย ๆ ในไร่ นารีต้องสั่งอย่างเด็ดขาดว่าห้ามทั้ง 2 คนออกไปเพ่นพ่านข้างนอกและเธอจะให้ทั้งคู่กลับกรุงเทพโดยเร็ว นารีรีบกลับไปทำงาน พอคล้อยหลังนารี ธิตาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองน่ารัก และออกไปเดินเล่นโดยการสนับสนุนของนางเฉิด ภูธนพบธิดาขณะเธอเดินเล่นอยู่ในสวน เขาเข้าไปแนะนำตัวทันทีและชวนเธอไปกินข้าวกลางวันข้างนอก ธิตารับคำชวนอย่างอ่อนหวานทันที นารีโกรธจนหัวหมุนเมื่อกลับมาแล้วรู้ว่าธิตาออกไปกับภูธน คืนนั้น ขณะที่นารียืนคิดหาทางส่งมารดาและธิตากลับกรุงเทพ เธอมองไปในสวนเห็นปรังนั่งคุยอยู่กับนายเครา ท่าทางของปรังนอบน้อมเกินไปกว่าจะพูดกับคนขับรถ นารีจึงฉุกใจคิดได้ว่าเธอยังไม่ได้พบภูธิชย์เจ้านายของเธอเลยสักครั้ง แล้วท่าทางของปรังและคำพูดของแจ๋วทำให้นารีอยากร้องไห้ เมื่อสรุปได้ว่านายเคราก็คือภูธิชย์เจ้านายของเธอนั่นเอง วันรุ่งขึ้นนารีบอกปรังว่าเธออยากพบภูธิชย์เพื่อขอโทษเขาที่เข้าใจผิด ปรังพาเธอไปพบกับภูธิชย์ที่ห้องทำงาน นารีขาสั่น ใจสั่น เมื่อสบตาคมเข้ม ดุของเขา นารีคิดว่าเธอทำผิดโดยบริสุทธิ์ใจเพราะเธอไม่รู้จักภูธิชย์มาก่อน เธอพยายามบังคับตัวเองให้พูดอย่างสุภาพโดยเสียงไม่สั่น นารีไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอต้องใจสั่นขนาดนี้ ทั้งที่ไม่ใช่ความกลัวอย่างแน่นอน เมื่อนารีพูดจบภูธิชย์ยิ้มให้ก่อนที่จะมอบงานให้เธออีกแฟ้มโตๆ นารีทำงานอย่างเต็มที่ เธอเริ่มสนุกกับงานและชอบที่นี่มากขึ้น สิ่งเดียวที่กวนใจเธอก็คือ ธิตากับนางเฉิดซึ่งไม่ยอมกลับกรุงเทพ โดยอ้างว่าภูธนอนุญาตให้อยู่ต่อ แล้วคืนนั้นนารีก็ต้องอารมณ์เสียอีกเมื่อรู้ว่าธิตาออกไปกินข้าวกับภูธิชต์ เมื่อเธอต่อว่ามารดาที่ไม่เตือนธิตา นางเฉิดกลับบอกว่านารีน่ะโง่ทำแต่งาน ธิตาฉลาดกว่าที่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรจึงจะพ้นความจนได้ นารีเศร้าใจเมื่อเดาได้ว่าธิตาคงหว่านเสน่ห์เพื่อจีบใครสักคนระหว่างภูธิชย์และภูธน นารีไม่อยากเดือดร้อนและตกงาน ถ้าภูธิชย์และภูธนจะต้องมาผิดใจกันเพราะน้องสาวของเธอ ส่วนธิตารู้สึกเหมือนเธอเป็นหญิงสาวที่มีความสุขที่สุดเมื่อมีหนุ่มหล่อมาดดีเป็นเศรษฐีมาแย่งเอาใจเธอถึง 2 คน แต่ธิตาก็มีความสุขไม่นาน เมื่อวันต่อมาขณะที่ธิตาแต่งตัวสวยเดินนวยนาดลงมาจากห้องพักเพื่อเตรียมออกไปกับภูธน เธอก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งลงจากรถคันหรูด้วยมาดเปรี้ยว เฉี่ยว เย่อหยิ่ง เธอมองธิตาอย่างดูถูกก่อนถามดุๆ ว่าเป็นใคร ยังไม่ทันที่ธิตาจะตอบ แจ๋วกับภูธนก็เข้ามา ท่าทางทั้งคู่เอาใจเธอมาก ธิตารู้สึกเป็นส่วนเกินทันที เธอรีบกลับเข้าห้องอย่างอารมณ์เสียที่ภูธนไม่สนใจเธอเลย ภูธิชย์สั่งให้ปรัง นารี พุฒิ รวมถึงนางเฉิดกับธิตากินข้าวกลางวันพร้อมกันกับเขา นารีไม่พอใจนักแต่ก็ต้องยอม ทุกคนคือจึงได้รู้ว่าสตรีสาวผู้นั้นคือ กนกนาฏ ญาติห่าง ๆ ของภูธิชย์และภูธน กนกนาฏเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของภูธิชย์ฟาร์มด้วย เพียงพบกันครั้งแรกกนกนาฏก็หมั่นไส้นารีและธิตาอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งนารีไม่ยอมไหว้เธอเมื่อได้รับการแนะนำ กนกนาฏถึงกับลุกออกจาโต๊ะอาหารทันที ภูธิชย์มองตามอย่างไม่สบายใจนัก เขาหันมาย้ำกับทุกคนที่เหลืออีกครั้งว่ากนกนาฏเป็นเจ้าของบริษัทเช่นกันกับเขา ตลอดเวลาที่พูด ภูธิชย์สบตานารีเหมือนจะบอกกับเธอโดยตรง นารีได้แต่นิ่งทั้งที่เริ่มโกรธเหมือนกัน ส่วนกนกนาฏนั้นแม้จะเป็นลูกของลุงภูธิชย์นับกันได้เป็นญาติห่าง ๆ แต่กนกนาฏพยายามทำทุกอย่างให้นารีรู้และเข้าใจว่าภูธิชย์เป็นคนรักของเธอ ขณะที่วางแผนกันธิตาออกจาก ภูธิชย์โดยหันไปสนับสนุนภูธนให้จับธิตาแทน กนกนาฏเสนอให้ธิตามาทำงานเป็นเลขาของเธอ และให้นางเฉิดเป็นแม่บ้าน นารีไม่พอใจมาก เธอรู้ทันกนกนาฏว่าต้องการอะไร นารีพยายามขอร้องไห้ธิตากับมารดากลับกรุงเทพแต่ไม่สำเร็จ ธิตาดีใจที่จะได้ทำงานเพื่อจะได้อยู่ใกล้ภูธน กนกนาฏแกล้งเอาใจด้วยการยกเสื้อผ้าสวย ๆ แต่ใช้แล้วของเธอให้ธิตา ธิตาก็ยิ่งปลื้มกนกนาฏอย่างออกนอกหน้า ส่วนารีได้แต่แค้นใจที่ธิตาไม่รู้ทันกนกนาฏเสียเลยว่าแกล้งจิกเอาไว้เป็นคนใช้ เมื่อนารีเตือนมาก ๆ เข้าเรื่องภูธน ทั้งคู่ก็ทะเลาะกัน นางเฉิดเข้าข้างธิตาอีกตามเคย จนนารีตัดใจ เธอประกาศว่าจะไม่ยุ่งกับธิตาอีกแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม นารีทำอย่างปากว่าเช่นกัน เธอมุทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง ส่วนภูธิชย์แรก ๆ ก็สนใจธิตาแต่เมื่อไปเที่ยวกัน 2-3 ครั้งเขาก็เบื่อ ประกอบกับงานยุ่ง กนกนาฏเองก็วุ่นวายกับเขาจน ภูธิชย์รำคาญ ภูธิชย์จึงทำงานมากขึ้น ภูธิชย์กับนารีจึงใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วย และต่างก็มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน แม้ว่าต่อหน้าต่างก็วางมาดเข้มแข็งในงานอย่างเต็มที่ก็ตาม ติดตามเรื่องราวของ ความใกล้ชิด คือ บ่อเกิดแห่ง ความรัก อุปสรรค คือขวากหนามที่ เขา และ เธอ ต้องฝ่าฟันเข้มข้น ได้ใน นารีลุยไฟ ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |