เจ้าของร้านค้านี้ ไม่ได้เข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลา 25 วัน แล้ว
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
ในฝัน
แสดงโดย ฉัตรชัย สินจัย วรุฒ หมิว
เรื่องย่อ : : "พิรียพงศ์" เจ้าชายแห่งแคว้นพรหมมินทร ได้ถูกเจ้าพ่อส่งตัวมายังแคว้นกุสารัฐเพื่อศึกษาต่อ พิรียพงศ์เข้าเฝ้าเจ้าลุงทันทีที่ถึง เจ้าลุงจึงจัดให้มีงานเลี้ยงต้อนรับ... พิรียพงศ์ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเจ้าชายชัยฉัตร ทั้งคู่คุยกันอย่างถูกคอ เจ้าลุงเสด็จมาพร้อมกับเจ้าหญิงรัชทายาทซึ่งเดินเกาะมือชายคนหนึ่งออกมา เจ้าหญิงสวยงามตามคำร่ำลือ ส่วนชายนั้นแต่งกายด้วยผ้ากำมะหยี่สีม่วงเข้ม แลดูเรียบจนพิรียพงศ์เดาไม่ออกว่าเป็นใคร... เจ้าลุงถามถึงวิชาที่พิรียพงศ์อยากเรียน พิรียพงศ์บอกว่า วิชาสำหรับกษัตริย์ ชัยฉัตรและรัชทายาทถึงกับหัวเราะเพราะวิชานี้ไม่มีในตำรา ชายผู้นั้นพูดว่าพิรียพงศ์พูดถูกแล้วที่อยากเรียนวิชาสำหรับกษัตริย์ เพราะต่อไปจะได้เป็นกษัตริย์ กษัตริย์ไม่จำเป็นต้องเป็นนักรบที่เข้มแข็ง ชำนาญการยุทธ แต่ต้องชำนาญการปกครอง... พิรียพงศ์แปลกใจเมื่อชายนั้นรับเขาเป็นศิษย์คนแรก เจ้าลุงยินดีที่พิรียพงศ์ได้เป็นศิษย์ของ "เจ้าชายโอริสสา" หรือที่เรียกกันว่า "เจ้าชายเสนาบดี" พิรียพงศ์ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นนายทหารอัศวนึก แห่งบุระเนินฟ้าของเจ้าชายโอริสสา พิรียพงศ์ย้ายจากเรือนหลวงมาอยู่กับโอริสสา โดยมี "มรุต" ราชองครักษ์ของโอริสสามาคอยรับ... พิรียพงศ์อยู่ที่นี่เหมือนทหารทั่วๆ ไป เช้าต้องออกไปฝึกกับมรุต ตอนสายต้องฝึกทำหน้าที่ราชเลขานุการ เรียนการปกครอง การทูต กฎหมายต่างประเทศ ซึ่งเจ้าชายโอริสสาดำรงตำแหน่งเสนาบดีมหาดไทยและเสนาบดีต่างประเทศอยู่... พิรียพงศ์พยายามศึกษานิสัยของโอริสสาจากมรุต ได้รับการฝึกและเรียนหนักจนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นราชเลขานุการของโอริสสาเหมือนมรุต โอริสสาและพิรียพงศ์ไปงานเลี้ยงตามคำเชิญของรัชทายาท ชัยฉัตรก็มาเช่นกัน พิรียพงศ์ได้รู้จักกับเทวีศุลีพรจากบุระสุรียรัตน์และคุยกันถูกใจ... ทหารได้เข้ามาบอกโอริสสาว่ามีคนต้องการพบด่วน โอริสสารีบออกไป พิรียพงศ์เห็นชายคนหนึ่งส่งกล่องงาช้างให้ โอริส- สากลับเข้ามาพร้อมมอบกล่องนั้นให้พิรียพงศ์... รุ่งขึ้น โอริสสาขอกล่องคืน พิรียพงศ์ตกใจมากเมื่อกล่องได้หายไป โอริสสาจึงสอนให้รู้ว่า การเมืองไว้ใจใครไม่ได้ ต้องระวังตัวตลอดเวลา เป็นบทเรียนแรกของพิรียพงศ์ ส่วนเอกสารในกล่องถูกสับเปลี่ยนก่อนที่โอริสสาจะส่งให้เขา... ระยะต่อมา โอริสสากับพิรียพงศ์และมรุตต้องเข้าประชุมบ่อย ทั้งได้ข่าวของ "เจ้าชายบุษกร" ที่ไปเรียนวิชากฎหมายจากฝรั่งเศสกำลังจะกลับมา งานเลี้ยงต้อนรับบุษกรผ่านไปด้วยดี พิรียพงศ์ประทับใจสร้อยไข่มุกสีกุหลาบของโอริสสามาก ตั้งใจจะหาซื้อส่งไปเป็นของขวัญวันเกิดพี่สาวคือ "เจ้าหญิงพรรณพิลาศ" แต่หาซื้อไม่ได้ โอริสสารู้จึงชวนเล่นสกาแล้วแกล้งแพ้ ให้สร้อยเป็นของบูชาครูสอนสกาแก่พิรียพงศ์ เมื่อพิรียพงศ์ส่งสร้อยไปให้พี่สาวพร้อมจดหมาย พรรณพิลาสศอ่านจดหมายก็รู้ว่าโอริสสาจงใจให้สร้อยกับน้อง จึงส่งสร้อยกลับคืน โอริสสาจึงเขียนจดหมายชี้แจงเหตุผลให้เข้าใจและส่งสร้อยไข่มุกกลับไปอีก... โอริสสาได้รับจดหมายตอบจากพรรณพิลาศพร้อมกับสิงโตหยกเป็นของตอบแทน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างทั้งสอง แคว้นกุสารัฐมีเรื่องวุ่นวาย เพราะเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมเสียชีวิต เจ้าชายโอริสสาต้องเตรียมการประชุมเพื่อลงมติหาคนใหม่มาแทน มีผู้ถูกเสนอชื่อเหลือ 3 คนสุดท้ายคือ นายพลสุริยเทพ เจ้าชายบุษกร ท่านชัยวัตร... ผลการคัดเลือกได้แก่ ท่านชัยวัฒน์ สร้างความเคืองใจให้กับบุษกรมาก แต่เจ้าลุงก็ยังให้บุษกรดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางกฎหมาย ซึ่งเป็นข้อขัดแย้งที่โอริสสาจะต้องจัดการ ว่าด้วยเรื่องอำนาจของที่ปรึกษาทางกฎหมายกับเสนาบดียุติธรรม... โอริสสาพูดถึงบุษกรให้พิรียพงศ์ฟังว่า บุษกรวางแผนลดอำนาจการบริหารของเสนาบดียุติธรรมลง เพื่อให้ตัวเองมีบทบาทมากขึ้น... แต่โอริสสาก็สามารถ รักษาบทบาทและอำนาจของเสนาบดียุติธรรมไว้ได้... การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างโอริสสากับบุษกรได้เริ่มขึ้นแล้ว พิรียพงศ์นึกถึงคำพูดที่พรรณพิลาศเขียนบอกว่าให้ระวังตัวจากบุษกร เพราะฉลาดและอันตรายซึ่งดูเหมือนจะจริง และพรรณพิลาศยังย้ำให้ระมัดระวังและคอยจับตาบุษกรไว้ เพราะบุษกรไม่พอใจการปกครองของโอริสสา... พิรียพงศ์พบกับบุษกรในพิธีรับตำแหน่งเสนาบดีใหม่ และบุษกรชวนให้ไปงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บุระของตน ซึ่งเป็นแผนการสร้างฐานอำนาจให้ตัวเอง พิรียพงศ์ต้องไปงานเลี้ยงคนเดียวเพราะโอริสสาไม่สบาย ก่อนไปงาน โอริสสาให้ข้อคิดว่า "จงรู้จักคนให้มาก แต่คบคนให้น้อย" โอริสสาเดาออกว่าจุดประสงค์ของงานนี้ เพื่อหาพวกจากคนเก่าๆ ที่คุ้นเคย ที่งานเลี้ยงพิรียพงศ์พบชัยฉัตร ซึ่งตอนนี้เข้าคู่กับบุษกรได้เป็นอย่างดี รวมทั้งนายพลสุริยเทพและเทวีศุลีพรก็มาในงานนี้ด้วย พิรียพงศ์รู้ว่าการกล่าวสุนทรพจน์ยืดยาวของเจ้าชายบุษกร ก็คือการหยั่งเสียงทางการทูต ตรงตามที่โอริสสาคาดหมาย งานนี้ทำให้พิรียพงศ์ได้เรียนรู้ทางการเมืองและการทูตได้อย่างดี เมื่อกลับมาถึงบุระเนินฟ้าก็ยังพบโอริสสาทำงานอยู่ พิรียพงศ์ยิ่งศรัทธามากขึ้นจนมั่นใจว่าบุษกรไม่สามารถจะปกครองกุสารัฐได้ดีเท่าโอริสสา การติดต่อทางจดหมายระหว่างโอริสสากับพรรณพิลาศนับวันยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น โอริสสาเล่าเรื่องการเมืองและเรื่องส่วนตัวให้พรรณพิลาศรู้อยู่เสมอ ส่วนพรรณพิลาศก็ตอบมาด้วยความเป็นห่วงและส่งภาพวาดต้นสนที่ถูกหิมะปกคลุมทั้งต้นมาให้โอริสสา เพื่อเตือนมิให้ทำงานหนักเกินไป โอริสสาตั้งชื่อภาพว่า "ความอดทน" หลังจากหายป่วยโอริสสาชวนพิรียพงศ์ไปเล่นเลื่อนน้ำแข็ง มรุตได้โอกาสอยากให้โอริสสามีความสุข จึงท้าโอริสสาแข่งกับพวกทหารชิงรางวัลตุ๊กตาทองของมรุตเอง ผลปรากฏว่าโอริสสาเป็นผู้ชนะ มรุตจึงต้องมอบตุ๊กตาดินปั้นทางสีทองให้เป็นรางวัล โอริสสาหัวเราะอย่างเป็นสุขเมื่อเห็นรางวัลของมรุต แต่เมื่อกลับมาถึงบุระ มหาดเล็กรายงานว่า เจ้าลุงประชวรต้องการพบด่วน โอริสสาจึงเข้าวังพร้อมพิรียพงศ์ เจ้าลุงขอร้องให้ช่วยดูแลเรื่องงานปีใหม่แทน โอริสสาจำต้องรับหน้าที่เพียงผู้เดียว ทำให้บุษกรไม่พอใจ ระยะนี้ชัยฉัตรไม่ได้เข้ามาวุ่นวายนักเพราะต้องซ้อมสวนสนาม การเมืองในกุสารัฐจึงดูเหมือนสงบราบเรียบ พิรียพงศ์เพิ่งจะรู้ว่า โอริสสารู้จักกับพรรณพิลาศ เพราะโอริสสาเคยไปแคว้นพรหมมินทร์สมัยยังเป็นเด็ก... เช้าวันปีใหม่ โอริสสาให้มหาดเล็กนำของขวัญไปแจกคนในบุระ ตอนเย็นต้องไปงานในวัง พิรียพงศ์วางแผนกับมรุตเพื่อให้โอริสสาแปลกใจ... ในงานเลี้ยงเจ้าหญิงรัชทายาทมาพร้อมกับบุษกรและชัยฉัตร เธอดีใจที่โอริสสามางานเพราะแอบหลงรักโอริสสาอยู่ เมื่องานเลิก โอริสสากับพิรียพงศ์กลับมาบุระก็ต้องแปลกใจที่เห็นคนในบุระทั้งหมดมายืนคอยถวายพระพรพร้อมมอบของขวัญให้ พิรียพงศ์อดแปลกใจไม่ได้เพราะวางแผนไว้เพื่อโอริสสาคนเดียว มรุตกลับทำนอกแผน แต่ก็สร้างความสุขให้กับทุกคน โอริสสารู้ข่าวการเยี่ยมแคว้นพรหมมินทรของเจ้าชายโสภณาแห่งแคว้นสาละวัณ เพื่อสัมพันธไมตรีและแฝงด้วยการเมือง เพราะข่าวความยุ่งยากภายในกุสารัฐแพร่ไปทั่วทุกแคว้น บุษกรกำลังวางแผนก่อความไม่สงบภายในแคว้นกุสารัฐ โอริสสาไม่หนักใจเท่าไร ถ้าโสภณามาเยือนด้วยเหตุผลทางการเมือง นอกจากจะมุ่งหวังพรรณพิลาศ จึงมีจดหมายเตือนให้ระวังตัว เพราะโสภณาฉลาด ชั้นเชิงการเมืองดีเยี่ยม ในอดีตแคว้นสาละวัณเป็นคู่แข่งแย่งชิงกันเป็นแคว้นเอกในการปกครองสมาพันธรัฐ เมื่อกุสารัฐเกิดความยุ่งยาก จึงเป็นโอกาสดีของสาละวัณที่จะดำเนินแผนทางการเมือง แต่โอริสสาก็มิได้วางใจ มีจดหมายติดต่อกับพรรณพิลาศเป็นประจำ รวมทั้งได้ทบทวนคำสัญญา ครั้งวัยเยาว์ ทำให้พรรณพิลาศรู้ว่าโอริสสานั้นรักเธออยู่ เมื่อโสภณามาถึงพรหมมินทร ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับพรรณพิลาศ มีงานเลี้ยงต้อนรับหรูหรา โสภณาพยายามตีสนิทกับพรรณพิลาศ แต่เธอก็หาทางเลี่ยงเสมอ ที่กุสารัฐเริ่มเข้าสู่ฤดูที่ดอกหยาดฝนเริ่มบานแล้ว โอริสสาให้มหาดเล็กจัดใส่แจกันในห้องหนังสือทุกวัน พิรียพงศ์สังเกตเห็นทุกครั้งที่โอริสสาเครียดกับงาน ก็จะมานั่งดูดอกหยาดฝนเป็นเวลานานๆ เหมือนกำลังคิดถึงใคร... ความยุ่งยากในกุสารัฐทวีความรุนแรงทั้งภายในและภายนอก ชัยฉัตรมาหาโอริสสาเพื่อปรึกษาราชการ เป็นครั้งแรกที่ชัยฉัตรและโอริสสาหันหน้าเข้าหากัน เมื่อชัยฉัตรกลับ มรุตเข้ามาถามเรื่องงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตต่างประเทศ โอริสสาให้ไปเชิญชัยฉัตรมางานนี้ด้วย รวมทั้งปล่อยข่าวให้บุษกรรู้ ในงานนี้แผนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวของโอริสสาวางด้วยความประณีตและระมัดระวังที่สุด พิรียพงศ์มาดูความเรียบร้อยก่อนถึงเวลา โอริสสาชวนเขาไปเดินเล่นและระบายความในใจให้ฟัง พิรียพงศ์รู้ว่าโอริสสาต้องการจะวางมือจากการเมือง โดยให้เขาทำหน้าที่แทนทุกอย่าง... ทั้งสองกลับมาถึงก็พบชัยฉัตรเข้ามาในงานแล้ว เมื่อคณะทูตชาวต่างประเทศมาถึง โอริสสาได้แสดงให้แขกทุกคนรู้ว่าชัยฉัตรมีความสำคัญเทียบเท่าเขา ซึ่งทำให้ชัยฉัตรพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้ว่าคณะทูตจะมาประชุมหารือด้วย... ในขณะที่การเจรจากำลังจะเริ่ม บุษกรก็เข้ามาที่งานตามแผน โอริสสาขอร้องให้ชัยฉัตรช่วยดูแลแขกแทน ส่วนเขากับหัวหน้าคณะทูตได้ขึ้นดูศิลปะแบบอมริตสาบนบุระ ซึ่งแท้จริงแล้วคือการไปปรึกษาราชการกันนั่นเอง พิรียพงศ์เพิ่งจะเข้าใจแผนว่า ชัยฉัตรจะไม่มีทางรู้ข้อราชการและเป็นการสร้างความแตกแยกระหว่างชัยฉัตรกับบุษกรในคราวเดียวกัน... หลังเลิกงาน โอริสสาชวนพิรียพงศ์กับมรุตไปนั่งเล่น มรุตเอาขลุ่ยไม้อ้อมาให้ พิรียพงศ์จึงรู้ว่าโอริสสายังเล่นดนตรีเป็นอีกด้วย กำหนดการเยือนแคว้นพรหมมินทรของโสภณาผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากกลับ โสภณาต้องการอยู่ใกล้ชิดกับพรรณพิลาศต่อไปอีก และยังวาดรูปเจ้าหญิงเพื่อนำกลับไปแคว้นสาละวัณด้วย เพราะเริ่มรักพรรณพิลาศแล้ว พิรียพงศ์เห็นโอริสสาค่อนข้างหงุดหงิด แม้แต่เจ้าหญิงรัชทายาทยังถูกกริ้วเพราะไปทำสิงโตหยกของพรรณพิลาศตกจากโต๊ะหนังสือ... โอริสสาเข้าเฝ้าเจ้าลุงที่วังโดยปล่อยให้พิรียพงศ์คุยกับรัชทายาท บุษกรจะมาเฝ้าเช่นกันจึงได้ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันด้วย โอริสสาบอกว่าคณะทูตต้องการให้ทางแคว้นส่งคนไปดูกิจการทหารที่ประเทศเขา บุษกรคิดหาทางจะเป็นตัวแทน โอริสสารู้ทันแต่ทำเฉย ... งานเลี้ยงส่งคณะทูต บุษกรแสดงความสามารถให้ใครๆ ได้เห็นแต่ไม่มีใครสนใจ ในงานพิรียพงศ์พบเทวีศุลีพร สักพักเธอขอตัว ผ้าคลุมไหล่ปลิวตก พิรียพงศ์ก้มลงเก็บ ขณะก้มศุลีพรจึงหย่อนของลงในกระเป๋าเสื้อเขาแล้วเดินไป พิรียพงศ์ได้รู้ว่าของนั้นคือกล่องงาช้างที่เขาทำหายไป การประชุมเสนาบดีหลังคณะทูตกลับจะเป็นการชี้ว่าแผนของโอริสสาจะสำเร็จหรือไม่ ก่อนเข้าประชุมพิรียพงศ์กับมรุตคอยที่เฉลียง บุษกรกำลังคุยกับเสนาบดีกลุ่มใหญ่เรื่องหลักการทูต มรุตว่าที่บุษกรพูดอยู่มาจากหนังสือ การทูตและสันติ พิรียพงศ์เลยอดหัวเราะไม่ได้ บุษกรพูดเพื่อให้เสนาบดีทั้งหลายเห็นว่า หัวหน้าคณะทูตควรจะเป็นตัวเอง ... ชัยฉัตรกับเสนาบดีกลาโหมมาถึงช้าที่สุด ชัยฉัตรทำหน้าที่ ผู้ช่วยเสนาบดีกลาโหม ในการประชุมคราวนี้ เจ้าลุงกับรัชทายาทมาเป็นประธาน วาระการประชุมได้แก่ การกำหนดพิกัดอัตราภาษีอากรใหม่และระเบียบการคลัง การสร้างถนนสายใหม่ บุษกรสนับสนุนแบบแปลนที่ชาวต่างชาติเสนอมา แต่โอริสสาไม่เห็นด้วย และให้ชัยฉัตรเป็นผู้ชี้แจง ทุกฝ่ายยอมรับข้อเสนอของโอริสสา ส่วนเรื่องที่จะส่งทูตไปดูงานทหาร เจ้าลุงเสนอบุษกรเพราะเคยอยู่ต่างประเทศมา โอริสสาเสนอชื่อชัยฉัตรเพราะเป็นทหารและเป็นเรื่องของทหาร คนไปดูงานต้องได้งานมาด้วย บุษกรแค้นมากขึ้น ... แผนสร้างความแตกแยกระหว่างบุษกรกับชัยฉัตรสำเร็จอีกขั้น พรรณพิลาศมีจดหมายถึงโอริสสาเพื่อเล่าเรื่องโสภณาว่า เธอเริ่มเบื่อความวุ่นวายของเขามาก แต่เมื่อได้ทราบจากเจ้าแม่ว่าโสภณากำลังจะกลับแล้วก็ดีไจ... เมื่อได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าคณะทูต ชัยฉัตรมาหาโอริสสาบ่อยขึ้นเพื่อปรึกษาเรื่องต่างๆ เพราะต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทาง ... พิรียพงศ์จึงมีโอกาสพบชัยฉัตรพร้อมโอริสสา โอริสสายังจัดเลี้ยงให้ชัยฉัตรเนื่องในวันเกิดซึ่งเขาเองลืมเสียสนิท นี่คือเเผนขั้นสุดท้ายที่ชัยฉัตรยอมสยบให้กับโอริสสา จากนั้นโอริสสาก็รีบไปเฝ้าเจ้าลุง แต่เมื่อกลับมากลับมีสีหน้าผิดปกติ พิรียพงศ์จึงได้รู้ว่าเจ้าลุงต้องการคำตอบเรื่องรัชทายาทซึ่งหมายถึงการแต่งงาน โอริสสาบอกพิรียพงศ์ว่าจะไปนอกเมืองสองสามวัน พิรียพงศ์รู้ทันทีว่าไปที่ไหน... โอริสสาเดินทางแต่เช้าโดยมอบงานไว้ให้พิรียพงศ์จัดการแทน... หลังฝึกทหาร พิรียพงศ์ถูกเชิญไปพบรัชทายาท ... รัชทายาทเล่าว่าเจ้าลุงต้องการให้ประกาศหมั้นกับโอริสสาในวันครบรอบวันเกิดของเธอ โดยให้เวลาตัดสินใจภายในสามวัน ซึ่งเธอเองรู้ดีว่าคำตอบคือการปฏิเสธ เธอบรรยายถึงความรู้สึกที่มีต่อโอริสสาให้พิรียพงศ์ฟัง และบอกว่าโอริสสาต้องการให้เธอแต่งงานกับพิรียพงศ์ พิรียพงศ์เข้าใจทันทีและนึกถึงคำ ปริญญาของวิชากษัตริย์ก็คือการเป็นกษัตริย์ ของโอริสสา ตัวเขาถูกโอริสสาวางแผนชีวิตตั้งแต่มาอยู่กุสารัฐและแผนนี้ก็ได้ผลอย่างสมบูรณ์... โอริสสามาถึงแคว้นพรหมมินทรขณะกำลังมีงานเลี้ยงส่งโสภณา นางกำนัลมาบอกพรรณพิลาศว่ามีคนขอเข้าเฝ้าเจ้าหลวงด่วน เมื่อเธอออกมาจากงานก็พบชายผู้สูงสง่ายืนหันหลังอยู่ เมื่อเข้าไปใกล้ชายนั้นก็หันกลับมาพร้อมยื่นจดหมายที่พิรียพงศ์ฝากมาให้ เธอถึงกับชาไป เมื่อรู้ว่าเขาคือโอริสสา... พรรณพิลาศกลับเข้างานและถูกโสภณาขอแต่งงานแต่เธอปฏิเสธ... รุ่งเช้าโสภณาจึงเดินทางกลับ เมื่อส่งโสภณาแล้วพรรณพิลาศจึงได้พบกับโอริสสาตามลำพัง จากนั้นครูวาดเขียนจึงมาบอกให้เข้าพบเจ้าหลวงได้ โอริสสาเข้าพบเพื่อพูดเรื่องการแต่งงานของพิรียพงศ์และมาขอเจ้าหญิงพรรณพิลาศด้วย พรรณพิลาศรู้ว่าจะต้องถูกนมขวัญูซักไซร้จึงยั่วเธอเล่น เมื่อโอริสสากลับกุสารัฐูเจ้าลุงก็ให้เข้าเฝ้าและผิดหวังที่โอริสสาปฏิเสธ แต่โอริสสาได้เสนอพิรียพงศ์ให้แต่งงานกับรัชทายาทดีกว่า อีกสองสามวันทางกุสารัฐได้ส่งคณะทูตพร้อมราชสาส์นไปแคว้นพรหมมินทรเพื่อเจรจาเรื่องการแต่งงานของพิรียพงศ์ ทุกคนต่างยินดีกับข่าวนี้... กุสารัฐจัดงานเลี้ยงส่งชัยฉัตรไปดูงานต่างประเทศ พิรียพงศ์ได้ออกงานกับรัชทายาทเป็นครั้งเเรก ชัยฉัตรจึงอวยพรล่วงหน้าก่อนเดินทาง... ข่าวไม่สู้ดีมีมาถึงโอริสสา ทั้งเรื่องก่อการกบฏและแผนลอบปลงพระชนม์เจ้าชายด้วย มรุตสั่งให้ทหารคอยคุ้มกันโอริสสาตลอดเวลา... เจ้าลุงเกิดประชวรแต่ก็สั่งให้รวมงานวันเกิดของรัชทายาทกับงานหมั้นเป็นงานเดียวกัน ข่าวการก่อปฏิวัตมีเข้ามาไม่เว้น โอริสสาสั่งทุกคนปิดเป็นความลับเพื่อให้พวกก่อการตายใจ สายลับส่งข่าวว่าจะมีการประชุมใหญ่โดยมีประธานมาด้วย โอริสสาส่งมรุตไปดูลาดเลา โอริสสาเข้าเฝ้าเจ้าลุงและได้พบบุษกรกำลังคุยกับพิรียพงศ์พร้อมรัชทายาทจึงเข้าไปคุยด้วย บุษกรคุยว่าจะเข้าป่าล่ากระทิงเถื่อนและขอตัวเข้าเฝ้าเจ้าลุง โอริสสากับพิรียพงศ์ต่างรู้ว่าในแคว้นกุสารัฐหากระทิงเถื่อนยาก จึงส่งคนไปสังเกตดูบุษกรซึ่งเป็นไปตามที่คิด บุษกรเตรียมตัวอย่างที่พูด โอริสสาส่งข่าวให้มรุตรู้และตัวเองจะตามไป เขาขอพบรัชทายาทเพื่อบอกให้รู้ว่าบุษกรกำลังจะก่อการกบฏ เขาต้องการให้รัชทายาทเข้าเฝ้าเป็นการด่วนเพื่อให้เจ้าลุงแต่งตั้งให้เจ้าหญิงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จากนั้นจึงมีการประชุมเสนาบดีด่วน ท้ายสุดจึงมีราชโองการแต่งตั้งเจ้าหญิงรัชทายาทเป็นผู้สำเร็จราชการ เจ้าหญิงได้มีหมายสั่งจับผู้ก่อการกบฏทันที... โอริสสารีบออกเดินทางและให้พิรียพงศ์ดูเหตุการณ์ทางนี้ ปล่อยข่าวว่าตัวเองไม่สบายเพื่อกันพวกบุษกรไหวตัว ปลอมตัวเป็นชาวบ้าน มรุตตามมาบอกว่าจะมีการประชุมใหญ่อีก โอริสสาวางแผนด่วนโดยแบ่งเป็นสองพวก พวกแม่นปืนให้ล้อมที่ประชุม อีกพวกให้อยู่ใกล้หัวหน้าใหญ่ เมื่อเห็นสัญญาณให้ล้อมจับทันทีและจับเป็น จนถึงเวลาโอริสสาปะปนกับชาวบ้านที่หลงเชื่อไปประชุม ชายคนหนึ่งโพกผ้าบังหน้ามากล่าวบนแท่น โอริสสาจำได้ว่าเป็นเสียงของบุษกรจึงส่งสัญญาณทันที ความชุลมุนเกิดขึ้น มรุตบาดเจ็บ ตัวหัวหน้าถูกจับได้ยกเว้นบุษกร มรุตบอกว่าคนที่ยืนบนแท่นไม่ใช่บุษกรแต่เป็นคนที่คล้ายมากเพราะหลังแท่นที่ยืนมีซอกหินมีความกว้างที่คนจะเข้าไปได้อีก โอริสสารู้ว่าบุษกรคงอยู่หลังแท่นนั้นตอนกล่าวจึงให้คุมตัวหัวหน้าเข้าเมือง การเดินทางต้องรีบมากเพราะต้องถึงเมืองก่อนบุษกร เมื่อถึงบุระก็นำนักโทษไปขังและให้ท่านชัยวัฒน์มาพบเพื่อให้รีบทำการสอบสวนพวกก่อการกบฏโดยเร็ว... บุษกรกลับเข้าวังเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่ชัยวัฒน์กำลังปรึกษากับโอริสสา ที่คุมขังรายงานว่าคนที่ปลอมตัวเป็นบุษกรตายแล้ว โอริสสาให้ปล่อยข่าวว่าคนๆ นั้นยังไม่ตายแต่สาหัสและชัยวัฒน์สอบสวนอยู่... เจ้าชายโอริสสาเป็นประธานการสอบสวนคนร้ายที่จับมาได้ทั้งหมด และมาบอกพิรียพงศ์ว่าบุษกรถูกจับได้แล้ว การพิจารณาคดีบุษกรได้มีขึ้น โดยรัชทายาทเป็นประธาน ท่านชัยวัฒน์อ่านคำรายงานการสอบสวน คณะลูกขุนลงมติให้ปลดเจ้าชายบุษกรออกจากราชการทุกตำแหน่ง เป็นความพ่ายเพ้ครั้งสุดท้ายของบุษกร แต่พิรียพงศ์มั่นใจว่าบุษกรคงไม่ยอมเลิกราแน่... โอริสสามีจดหมายถึงพรรณพิลาศเพื่อบอกข่าวดีว่าเจ้าลุงจะจัดงานแต่งงานของพิรียพงศ์กับรัชทายาทเร็วขึ้นและจากนั้นก็จะมีพิธีสู่ขอพรรณพิลาศมาเป็นสะใภ้หลวง โอริสสาสั่งให้จัดการตบเเต่งราชนิเวศน์ที่อมริตสาด่วน เจ้าพ่อเจ้าแม่เดินทางจากพรหมมินทรมากุสารัฐเพื่อร่วมงาน... พรรณพิลาศต้องอยู่ทำงานแทน... งานอุปภิเษกได้จัดอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ เจ้าลุงได้ประกาศเป็นทางการว่าได้รับเจ้าหญิงพรรณพิลาศเป็นสะใภ้หลวงแล้ว ขณะทุกคนกำลังสุขสมหวัง มรุตมาบอกโอริสสาว่ามีคนวางแผนลอบฆ่าเขาแต่โอริสสาไม่สนใจ หลังจากงานนี้อีกสามสี่วันก็จะเป็นงานสวนสนามครั้งใหญ่ โอริสสาตั้งใจว่าจะร่วมซ้อมรบเพื่อถวายเจ้าลุงด้วย หลังการหมั้นหมายของโอริสสาและพรรณพิลาศ เจ้าแม่ได้นำของหมั้นกลับไปแคว้นพรหมมินทรก่อน... ส่วนเจ้าพ่อยังอยู่ดูสวนสนามตามคำเชิญ พรรณพิลาศได้รับของที่โอริสสาส่งให้ มีแหวนเพชรสีชมพูซึ่งเคยเป็นเครื่องหมายแห่งความรักของเจ้าแม่ของโอริสสา ผ้าทอสีเหลืองอ่อนที่โอริสสาต้องการให้ใช้ในวันแต่งงาน ชัยฉัตรกลับจากดูงานกิจการทหารพร้อมกับความสำเร็จอย่างงดงาม... ก่อนถึงวันสวนสนาม พิรียพงศ์ได้ข่าวลือการลอบฆ่าโอริสสาจึงบอกให้รู้แต่โอริสสาก็ยังไม่สนใจ... งานสวนสนามและการซ้อมรบครั้งใหญ่ใช้อาวุธจริงทุกอย่าง ยกเว้นกระสุนปืนที่ใช้กระดาษอัดแทน เจ้าลุงมาพร้อมกับเจ้าพ่อแห่งพรหมมินทร พิรียพงศ์และรัชทายาท โดยมีโอริสสา ชัยฉัตรและมรุตคอยต้อนรับ ยกเว้นบุษกร... โอริสสาไม่ได้แต่งชุดทหารแต่กลับแต่งชุดปกติสีม่วงเข้ม... ก่อนถึงเวลาซ้อมโอริสสาควบม้าออกไปเพื่อเตรียมตัว มรุตจะตามไปแต่ถูกห้ามไว้ พิรียพงศ์เกิดสังหรณ์ใจจึงพูดกับชัยฉัตร ชัยฉัตรได้เลี่ยงออกไปจากที่ประทับ... จากแผนที่วางไว้โอริสสาจะต้องอยู่เต๊นท์ฝ่ายรุก แต่เมื่อชัยฉัตรไปถึงกลับไม่พบจึงสอบถามมีผู้เห็นโอริสสาไปทางหนองน้ำชายป่า ชัยฉัตรจึงตามไปและขณะที่มองหาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ชัยฉัตรนึกว่าเป็นการซ้อมรบ แต่พอไปถึงก็เห็นโอริสสาถูกยิงฟุบบนหลังม้า ชัยฉัตรเข้าไปประคองมานอนบนเนินหญู้า พอดีมีทหารผ่านมาจึงสั่งให้ไปตามหมอโดยด่วน... พิรียพงศ์มาถึงขณะที่หมอกำลังดูอาการ มรุตตามมาด้วย แววตาของเจ้าชายโอริสสาบอกถึงความเจ็บปวดยิ่ง พยายามสั่งงานกับพิรียพงศ์ให้แต่งตั้งเจ้าชายชัยฉัตรเป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ให้มรุตเป็นเสนาบดีมหาดไทย ส่วนกระทรวงต่างประเทศให้พิรียพงศ์รับหน้าที่เอง อาการของโอริสสาทรุดลงอีก จึงหันไปมองดอกหยาดฝนที่อยู่ใกล้ๆ ชัยฉัตรโน้มกิ่งที่ใกล้ที่สุดส่งให้ โอริสสาเอามือรูดกลีบดอกหยาดฝนโรยลงมาบนหน้าอกพร้อมพึมพำว่า พรรณพิลาศ...พรรณพิลาศของริสา เป็นคำพูดครั้งสุดท้าย เจ้าหลวงแห่งพรหมมินทรรีบเดินทางกลับ... ทันทีที่เจ้าหญิงพรรณพิลาศรู้ข่าวก็เหมือนกับทุกอย่างในชีวิตได้แหลกสลายลง ภาพในอดีตของโอริสสาเข้ามาในความนึกคิดของพรรณพิลาศไม่ขาดระยะ... พิรียพงศ์ส่งกล่องที่บรรจุเครื่องแต่งองค์สีม่วงซึ่งเป็นชุดที่โอริสสาใส่มาให้เป็นที่ระลึก... ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ กลิ่นธูปควันเทียน... ณ ที่บรรทมครั้งสุดท้ายของโอริสสาได้ถูกประดับด้วยดอกหยาดฝนที่งามที่สุด ดอกหยาดฝนนั้นเปรียบเสมือนตัวแทนความรักของโอริสสาที่มีต่อพรรณพิลาศ คนเรานั้นหาความแน่นอนแห่งชีวิตไม่ได้เลย ดังคำพูคของโอริสสาที่ว่าสิ่งต่างๆ ที่เราเห็นอยู่นั้น ไม่คงทนแน่นอน...สิ่งที่เราประสบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น ที่แท้ก็เหมือนภาพมายา มันเปลี่ยนแปลงได้ สูญสลายได้เหมือนอย่างเรานอนฝัน พอลืมตาตื่นขึ้นก็หายไปหมด................
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ร้านค้านี้ยังไม่ได้กำหนดวิธีการชำระเงิน กรุณา ติดต่อกับทางร้าน เกี่ยวกับรายละเอียดในการชำระเงิน
ทางร้านยังไม่ได้ทำการเพิ่มบัญชีรับเงิน กรุณาติดต่อ เจ้าของร้าน
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านorange-shop2
orange-shop2
ขายแผ่น
เบอร์โทร : 0628022626
อีเมล : orangeshop2@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม