นะหน้าทอง ละครดังในอดีต < Dvd จบในชุด > นำโดย สวิช + พรรัมภา

Channel 7 : นะหน้าทอง บทประพันธ์ โบตั๋น บทโทรทัศน์ วรพันธ์ รวี กำกับการแสดง จรูญ ธรรมศิลป์
นำแสดงโดย 1. สวิช เพชรวิเศษศิริ แสดงเป็น หมอต้น 2. พรรัมภา สุขได้พึ่ง แสดงเป็น ทองทราย 3. ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น มณี 4. ชมพูนุช ปิยธรรมชัย แสดงเป็น ทอรุ้ง ออกอากาศ ทุกวัน เวลา 18.30 น. ช่อง 7 เรื่องย่อ ทองทราย เด็กสาววัย 19 ปี ทำงานที่ร้านไอศกรีแห่งหนึ่งเพื่อหารายได้มาเรียนหนังสือ ทองทรายอยู่กับแม่ชื่อ สิถิล สิถิลแต่งงานกับทองขาวลูกชาวสวนมะพร้าวและมีอาชีพเคี่ยวน้ำตาลขาย ทองขาวเจ้าชู้มากซ้ำยังไม่มีความรับผิดชอบ เขาตกงานบ่อย ๆ ทองขาวกับสิถิลมีลูกสาว 2 คน คือ ทองทรายกับ ทอรุ้ง ความเจ้าชู้ของทองขาวทำให้สิถิลทนไม่ไหว ทั้งคู่เลิกกัน สิถิลหนีมาทำงานในกรุงเทพก่อนจะแต่งานใหม่กับ ปึง เซลล์แมนขายเครื่องสำอาง ปึงกับสิถิลมีลูกชายด้วยกันชื่อ ปัญญ์ แต่แล้วปึงกับสิถิลก็ไปด้วยกันไม่ได้ ปึงซ้อมสิถิลบ่อย ๆ เมื่อเขาเมา สิถิลจึงเลิกกับปึง ส่วนทองทรายกับทอรุ้ง เมื่ออยู่กับปู่และย่า ทั้งคู่ต้องช่วยทำงานปีนต้นมะพร้าว ปาดตาล เคี่ยวน้ำตาล เมื่อทองทรายรู้ว่าแม่เลิกกับพ่อเลี้ยง ทองทรายจึงย้ายออกจากบ้านปู่และย่ามาอยู่กับแม่เพราะเป็นห่วงและอีกประการหนึ่งเธอสอบเรียนต่อในระดับมัธยมได้ที่โรงเรียนซึ่งอยู่ใกล้บ้านแม่ ทองทรายถูกสบประมาทจากบรรดาอา ๆ ทั้งหลายว่าเธอจะไปไม่รอดจะต้องซมซานกลับมาบ้าน ทองทรายไม่ยอมแพ้ เธอดิ้นรนไปทำงานที่ร้านขายไอศครีมในห้างสรรสินค้าหลังเกเรียนและวันหยุด เงินเดือนกับทิปที่ได้รับพอให้เธอเป็นค่าเล่าเรียน มีเงินซื้อขนมให้น้องกับแม่ ส่วนทอรุ้งยังคงปีนมะพร้าวทำน้ำตาลต่อไป แม้จะสอบเข้าโรงเรียนเดียวกับทองทรายได้ แต่ทอรุ้งก็ยังอยู่กับปู่ย่า เธอเป็นห่วงว่าไม่มีใครช่วยปู่ย่าทำน้ำตาล อาทุกคนของทองทรายกับทอรุ้งเหมือนทองขาวพ่อของเธอในเรื่องความฟุ่มเฟือย ไม่รับผิดชอบ ทอรุ้งได้เงินจากการช่วยปู่ย่านี่เองมาเรียนหนังสือ วันหนึ่งทองทรายพบกับมณีซึ่งเป็นป้าที่ร้านไอศกรีม มณีเป็นลูกคนโตของปู่กับย่า และเป็นคนเดียวที่มีความเป็นอยู่ดีกว่าใคร มณีรวยมากแต่ก็ถูกนินทาจากน้อง ๆ ว่าขี้เหนียวและใจดำ ทองทรายไม่คุ้นกับมณีนักแต่ก็อดเชื่อตามคำที่อา ๆ พูดไม่ได้ พบกันวันนั้นมณีบอกให้ทองทรายไปหาบ้าง เธอรับคำแกน ๆ ทองทรายกลับมาเล่าให้สิถิลฟัง สิถิลจึงบอกว่ามณีนั้นค่อนข้างสู้ชีวิตมาตั้งแต่ยังสาวและเป็นคนรู้ค่าของเงิน จึงอาจจะทำให้ญาติบางคนไม่พอใจหาว่ามณีใจดำ มณีรับขวัญหลานทุกคนด้วยสร้อยคอทองคำกับพระเลี่ยมทอง ของทองทรายกับทอรุ้งสิถิลยังเก็บไว้ให้อย่างดี ทองทรายไม่คิดจะไปขอความช่วยเหลือจากมณ จนกระทั่งวันหนึ่งทองทรายต้องออกจากงานด้วยความจำเป็นที่ต้องเรียนหนังสือและเธอไม่อยากกลับไปให้อาทั้งหลายดูถูก ทองทรายจึงให้สิถิลพาไปหามณี มณีจ้างทองทรายดูแลคนแก่ในเวลากลางคืน ค่าจ้างที่มณีบอกทำให้ทองทรายพอใจ ทว่าเมื่อถึงเวลาทำงานจริงๆ คุณตาทรงก็ทำเอาทองทรายแทบแย่ แกทั้งบ่น งอแง ราวกับเด็ก ที่แย่มากก็คือ แกชรามากจนไม่สามารถบังคับการขับถ่ายได้ แต่ทองทรายก็อดทน มณีเฝ้าสังเกตการทำงานของทองทรายตลอดเวลา และพอใจมากเพราะทองทรายอดทนและพยายามดิ้นรนช่วยตัวเองก่อนจะหวังพึ่งคนอื่นไม่เหมือนอย่างน้อง ๆ ของเธอ คุณตาทรงมักจะบ่นด่าว่าลูกสาวของแกเสมอที่หนีตามผู้ชายไป คุณตาทรงเลยพาลเกลียดหลานชายคนเดียวของแกอย่างที่สุด ซึ่งทองทรายมารู้ว่าหลานของแกก็คือ หมอต้น นักศึกษาทันตแพทย์ ซึ่งหมั่นมาเยี่ยมตาทรงเสมอ แต่มาทีไรตาทรงก็ด่าว่าแรง ๆ จนทองทรายสงสารทุกครั้งไป มณีพยายามสอนให้ทองทรายทำงานทุกอย่าง ไม่มีใครรู้ว่าทำไมมณีถึงใช้งานทองทรายหนักนัก มีแต่มณีที่รู้ว่าเธอต้องการลองใจหลานสาวคนนี้เพื่อหวังจะให้เป็นตัวแทนของเธอต่อไป ในช่วงปิดเทอมทองทรายชวนทอรุ้งมาช่วยเก็บมะขามเทศในไร่ของมณี สองสาวทำงานและรับค่าจ้างเหมือนคนงานคนหนึ่งในไร่ แม้กระทั่งหมอต้นเองก็ตามก็ต้องขับรถขนมะขามเทศไปส่งในตลาด ต้นสนใจทอรุ้งจนออกนอกหน้า เพราะทอรุ้งสวย คม เก๋กว่าทองทราย ซ้ำยังช่างพูดช่างแหย่ แม้จะปากจัดอยู่บ้างตามประสาวัยรุ่นใจร้อน แต่หมอต้นก็ไม่ถือ ทองทรายบอกกับทอรุ้งว่าต้นคือทายาทตัวจริงและเป็นเจ้าของโรงสีที่มณีดูแลอยู่ เพราะหมอต้นเป็นทายาทสายตรงคนเดียวของคุณตาทรง ส่วนมณีเป็นเพียงสะใภ้ของลูกชายบุญธรรมของตาทรงเท่านั้น ทอรุ้งกลับไปเล่าให้ปู่กับย่าฟัง เรื่องจึงรู้ไปถึงนิลระยับ อาคนหนึ่งของทอรุ้ง นิลระยับวางแผนให้พลอยระยิบ ลูกสาวไปหาทางรู้จักกับหมอต้นทันที พลอยระยิบสวยมาก แต่เรียนไม่เก่งจึงไม่ยอมเรียนต่อ เธอไปทำงานเป็น บีเอ ของเครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง เมื่อพลอยระยิบหาเรื่องไปพบต้นถึงในไร่โดยอ้างว่าไปหาทองทรายกับทอรุ้ง ภาพของสาวสวยแต่งตัวเปรี้ยว ทำให้หมอต้นสนใจทันที การกระทำของพลอยระยิบ ทองทรายกับทอรุ้งมองอย่างรู้ทัน นิลระยับปล่อยให้พลอยระยิบไปไหนมาไหนกับหมอต้นตามสบาย เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งเธอก็เริ่มเปรยกับมณีเพื่อให้รวบรัดหมอต้นให้หมั้นกับพลยอระยิบ มณีตกใจเพราะไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน มณีรู้จักนิลระยับกับพลอยระยิบดีว่าต้องการเงินมรดกของต้นจึงเข้ามาวุ่นวายอย่างนี้ มณีจึงให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ ไปเที่ยวทะเลเพื่อให้รู้จักกันดีขึ้น มณีสั่งให้ทองทรายคอยเป็นก้างขวางคอ ไม่ให้พลอยระยิบกับหมอต้นมีอะไรเกินเลยกัน แต่ทองทรายไม่ยอม ไม่ว่ามณีจะขู่อย่างไรทองทรายก็ไม่ยอม เธอรับปากเพียงจะดูห่างๆ แต่จะไม่ไปแทรกระหว่างคนทั้งคู่เด็ดขาด มณีต้องยอมแพ้ ที่ชะอำ พลอยระยิบทำตัวยั่วยวนใกล้ชิดกับหมอต้นอย่างเต็มที่ กลางคืนทุกคนออกไปกินข้าวกัน ส่วนหมอต้นกับพลอยระยิบเลยไปฟังเพลงกันต่อ ทองทรายรอที่บังกะโลจนดึก ทั้งคู่จึงกลับมาหลังจากอาบน้ำแล้วพลอยระยิบออกไปคุยกับหมอต้นต่อที่ระเบียง เธอตั้งใจจะรู้ให้ได้ว่าทำไมตอนบ่ายหมอต้นจึงโกรธเธอหนักหนาเมื่อจะให้ถอดเสื้อลงเล่นน้ำ พลอยระยิบฉีกเสื้อนอนของหมอต้นเธอร้องกรี๊ดลั่นเมื่อสัมผัสถึงรอยแผลเป็นเต็มหลัง เสียงร้องของพลอยระยิบปลุกคนทั้งบาน ทองทรายรีบออกไปเป็นคนแรก ภาพที่เห็นทำให้ทองทรายสงสารหมอต้นที่สุด หมอต้นนั่งกอดเข่าทอดอาลัย เขาเสียใจที่พลอยระยิบรังเกียจเขา เขาทั้งโกรธและเสียใจ เมื่อพลอยระยิบวิ่งหนีเข้าห้องพร้อมทั้งโวยวายว่าหมอต้นเป็นเอดส์ หมอต้นหันมากอดทองทราย เขาจับมือทองทรายให้สัมผัสกับรอยแผลอย่างประชดและเคียดแค้น หมอต้นแปลกใจที่ทองทรายไม่หนี ซ้ำยังลูบแผลของเขาอย่างไม่รังเกียจ ทองทรายค่อย ๆ ปลอบจนหมอต้นค่อยดีขึ้นและยอมไปนอน ทอรุ้งมองทองทรายอย่างทึ่งจัดว่าทำได้อย่างไร เมื่อกลับบ้านทองทรายกับทอรุ้งก็ได้รู้ความจริงจากมณีว่าต้นถูกทารุณจากครอบครัวที่มณีไปฝากเลี้ยงตั้งแต่ต้น 5 ขวบ ครอบครัวนั้นร้ายมากใช้หมอต้นทำงานหนัก เมื่อไม่ได้ดังใจก็จะจับหมอต้นโยงแล้วเฆี่ยน กว่ามณีจะรู้เรื่องและตามไปช่วยหมอต้นก็เกือบตายหลังของหมอต้นทำให้ทองทรายยิ่งสงสารเขามากขึ้น ไหนพ่อแม่จะทิ้ง ตาก็ไม่รักยังมาโดนทารุณอีก หมอต้นบาดเจ็บทั้งกายและใจ มณีพยายามชดเชยและทดแทนด้วยความรัก แต่แผลในใจของหมอต้นก็มากเกินไปกว่าจะยอมรับมณีได้ จนกระทั่งโตขึ้นแล้วสอบเข้าคณะทันตแพทยืได้ หมอต้นจึงพอจะยอมรับมณีบ้าง แต่บุคลิกของเขาก็คงเงียบขรึม หมอต้นเคยอกหักมาแล้วครั้งหนึ่งก่อนพบพลอยระยิบด้วยสาเหตุเดียวกันคือรังเกียจแผลที่หลัง มณีพยายามจะให้ต้นไปทำศัลยกรรม แต่หมอต้นไม่ยอม เขาต้องการพิสูจน์รักแท้ของคนที่จะแต่งงานกับเขา เวลาผ่านไปมณีให้ทองทรายเรียนบัญชีเพื่อมาช่วยงานโรงสี เพราะหมอต้นเอง แม้จะเป็นเจ้าของแต่ก็ไม่ชอบ เขาอยากจะมีคลีนิกเป็นของตัวเองมากกว่า และขณะนี้ทอรุ้งซึ่งสวยขึ้นทุกวันก็เข้าไปเป็นผู้ช่วยของหมอที่คลีนิค หมอต้นแสดงออกชัดเจนว่าชอบทอรุ้ง วันหนึ่งมณีพาหลาน ๆ คือ หมอต้น ทองทราย และทอรุ้ง ไปที่สำนักชีซึ่งมณีให้ความอุปถัมภ์อยู่ มณีสนิทกับแม่ชีคนหนึ่งมากจนทองทรายผิดสังเกต แม่ชีคนนี้สวยมาก อะไรบางอย่างทำให้ทองทรายสงสัยว่าแม่ชีจะต้องเกี่ยวพันกับมณีและหมอต้น และวันหนึ่งคุณตาทรงก็ตาย ในงานศพแม่ชีคนนี้ก็มาและอยู่จนถึงไปลอยอังคาร ทองทรายแอบถามจนรู้ว่าแม่ชีคือแม่ของต้นนั่นเอง เมื่อต้นเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั้งหลายอย่างเต็มตัว พลอยระยิบซึ่งหย่ากับสามีแล้วหันมาพัวพันกับหมอต้นอีก แถมยังเที่ยวพูดเป็นคุ้งเป็นแควว่าจะแต่งงานกับหมอต้น ทำให้ทอรุ้งโกรธ งอนกลับไปอยู่กับปู่-ย่า ทองทรายพยายามช่วยให้ทั้งคู่ดีกันแต่ก็ไม่เป็นผล แล้วเหตุร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อหมอต้นไปง้อทอรุ้งที่บ้านปู่ย่า แล้วไปพูดผิดหูเข้าหาว่าทอรุ้งเป็นลิงปีนต้นมะพร้าว ทอรุ้งโกรธจึงผลีผลามเข้าสวนปีนขึ้นมะพร้าวแล้วพลาดตกลงมาอาการสาหัส กระดูกสันหลังหัก แขนขาหัก ทองทรายยอมทุกอย่างถ้ามณีจะช่วยออกเงินรักษาทอรุ้ง มณีจึงไปบอกหมอต้นให้เตรียมแต่งงานกับทองทรายเพื่อจะได้ดูแลครอบครัวของทอรุ้งได้ตามที่หมอต้นควรจะทำเพราะเป็นสาเหตุของเรื่องร้ายนี้ หมอต้นงงและคิดไม่ออกว่าเขาจะแต่งงานกับทองทรายได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่ได้รักเธอ ทองทรายขอร้องให้มณีออกค่าผ่าตัดให้น้องสาวเป็นเงินหลายแสน นางมณีจึงเรียกร้องสิ่งตอบแทนจากทองทรายและหมอต้นรู้สึกผิดที่เขาเป็นเหตุให้ทอรุ้งโกรธจนเกิดเหตุร้าย จึงรับปากป้าสะใภ้ ส่วนทางทองทรายหล่อนสัญญายินดีทำทุกอย่างที่ป้าต้องการจะให้เป็นขี้ข้าไปชั่วชีวิตก็ยอม นางมณีให้ทองทรายแต่งงานกับหมอต้นและดูกิจการงานของหล่อน ดูแลปู่ย่า และดูแลหมอต้นไม่ให้หลงใหลผู้หญิงไม่ดี ช่วยประสานรอยร้าวระหว่างหมอต้นกับมารดาด้วย นางมณีบอกให้ทองทรายรู้ว่าแม่ชีวิภาคือมารดาของหมอต้น แต่นางไม่แน่ใจว่าหมอต้นนั้นรู้แน่แก่ใจหรือไม่ แต่เขาสงสัยอยู่เหมือนกันว่าแม่ชีคือมารดาของเขาที่หายสาบสูญไป หมอต้นตกลงแต่งงานกับทองทรายเพราะนางมณีเห็นว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุด นอกจากเรือร่มในหนองแล้วเขาสามารถอุปการะทอรุ้งผ่านทองทรายได้ นางสิถิลก็ลาออกจากงานมาดูแลลูกสาวพิการได้ เพียงแต่ช่วยส่งเสียปัญญ์ลูกอีกคนของนางสิถิลเท่านั้นซึ่งไม่หนักหนาสาหัสอะไร หมอต้นเสียใจเรื่องผู้หญิงมาหลายครั้งแล้ว จึงตอบตกลงเพราะเขาเองก็รู้สึกว่าทองทรายใจเย็น ใครอยู่ด้วยจะมีความสุขสบายใจ ทอรุ้งสารภาพกับพี่สาวว่าเธอทำบาปไว้มาก เพราะเธอเป็นคนเอาลูกเหม็นกับยาฆ่าแมลงใส่ในบ่อกุ้งของพ่อกับอาจนกุ้งตายยกบ่อสองครั้ง เพราะโกรธที่พ่อกับอาทำให้เธอสูญเสียสิทธิ์ในที่ดีสวนมะพร้าวที่ควรจะเป็นของเธอ เธอลืมคิดไปว่าการกระทำเช่นนั้นทำให้ปู่ย่าต้องสูญเสียที่ดินแปลงนั้นไปเพราะที่ดินติดจำนอง ทอรุ้งไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวญาติทุกคนโกรธหล่อน ทองทรายพยายามปลอบน้องสาว ทอรุ้งยังคงหงุดหงิดอารมณ์เสียบ่อย หมอต้นพยายามใกล้ชิดทองทราย แต่เขารู้สึกว่าทองทรายไม่ได้พิศวาสอะไรเขาเลย หล่อนทำตัวเหมือนหุ่นยนต์ เขาเรียกร้องต้องการความรัก ความอบอุ่น เพราะขาดสิ่งนี้มาแต่เล็ก แต่ดูเหมือนว่าทองทรายให้เขาได้เพียงความเวทนาสงสารเท่านั้น เขาจึงออกจะน้อยใจ เมื่ออนงค์วดีคู่รักคนแรกหวนกลับมา เขาจึงคบค้าสมาคมกับหล่อน ทองทรายคิดว่าหมอต้นแต่งงานกับหล่อนเพียงแก้ปัญหาและเขารักน้องสาวจึงเคี่ยวเข็ญให้น้องสาวไปผ่าตัดซ้ำ ทอรุ้งปฏิเสธหล่อนหมดอาลัยตายอยากในชีวิตถึงกับเชือดข้อมือตัวเองครั้งหนึ่ง แต่มารดาห้ามไว้ได้ทัน อีกครั้งหล่อนไถรถเข็นจนตกลงมาจากชั้นบนบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล นางมณีป่วยเป็นมะเร็งที่มดลูก และลุกลามไปที่รังไข่กับต่อมน้ำเหลือง หล่อนเข้าโรงพยาบาลแต่สายเกินไปแล้ว หมอต้นกับแม่ชีรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่ทองทรายเพิ่งรู้ทีหลัง ทองทรายเข้าใจแล้วว่าทำไมป้าจึงพยายามบงการชีวิตของหมอต้นและตัวหล่อนเอง เพราะนางรู้ตัวว่าใกล้ความตายไปทุกขณะ จึงพยายามฝากฝังทุกสิ่งที่นางเป็นห่วงไว้กับทองทราย ทอรุ้งไม่รู้เรื่องนี้เพราะหล่อนเองก็อยู่โรงพยาบาลเช่นกัน แม่ชีมาเยี่ยมและพูดคุยกับทอรุ้งจนหญิงสาวได้สติคิดได้ แม่ชีบอกทอรุ้งถึงอดีตและการตัดสินใจผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าของนางเอง ทอรุ้งสงสัยว่าทำแม่ชีไม่บอกความจริงกับลูกชาย แม่ชีว่านางกลัวลูกชายจะไม่ยกโทษให้ นางเอกจะทำใจไม่ได้ ทอรุ้งบอกพี่สาว ทองทรายบอกเรื่องนางมณีเข้าขั้นโคม่าแล้ว ทอรุ้งเสียใจในพฤติกรรมใจร้อน เอาแต่ใจตัวเองของตน และหันมาสนใจเรื่องการทำสมาธิโดยไม่ต้องไปอยู่ที่วัดแต่ขอคำแนะนำจากแม่ชี ทองทรายพยายามทำความเข้าใจระหว่างแม่และลูก หมอต้นนั้นต้องการเพียงคำตอบจากมารดาว่าทำไมจึงทิ้งเขาไป เมื่อเขาอายุเพียงสองขวบ คุณตากล่าวหาว่าเพราะมารดาอยากมีสามีใหม่ มีชีวิตใหม่จึงทิ้งลูกจนทำให้เขาต้องไปอยู่กับคนอื่น และถูกทำร้ายเกือบถึงแก่ชีวิต ทองทรายไปขอคำตอบจากแม่ชี จึงได้รู้ว่าแม่ชีไม่ได้ทิ้งลูกไปเพราะอยากมีสามีใหม่ แต่เพราะจ่าซัม ลูกผู้พี่สามีของนางมณีพยายามจะรวบหัวรวบหางนางเป็นภรรยาน้อย จ่าซัมเป็นคู่หมายเดิมของวิภา แต่วิภาไม่รักและหนีตามคนรักไป จ่าซัมแต่งงานกับมณีซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของวิภาเอง วิภาทนการเป็นภรรยาน้อยไม่ได้และทนที่จะทำให้เพื่อนเสียใจไม่ได้จึงหนีออกจากบ้านอีกครั้ง นางรู้ดีว่าคงจะเลี้ยงลูกเองไม่ได้ เพราะนางมีการศึกษาน้อย ทำอะไรไม่เป็น มีเงินอยู่นิดหน่อยคิดจะทำการค้าขายก็ล่มจม อาศัยว่าเป็นผู้หญิงสวยมีผู้ชายมาติดพันมากจึงมีชีวิตรอดมาได้ แต่ก็ต้องตกเป็นภรรยาน้อยของผู้ชาย สภาพชีวิตเมียน้อยเป็นสิ่งที่นางพยายามหลีกเลี่ยงแต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดจึงตัดสินใจหันหน้าเข้าวัดและมาอยู่ที่สถาบันแม่ชี นางติดต่อกลับมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าจ่าซัมเสียชีวิตแล้ว แต่เรื่องลูกชายที่นางรู้จากมณีทำให้นางไม่กล้าเข้าหน้าทั้งนายทรงผู้เป็นบิดาและหมอต้นลูกชาย นางกลัวว่าทั้งสองคนจะไม่มีวันยกโทษให้นาง กระทั้งนายทรงเสียชีวิตก็ไม่ได้อโหสิให้กัน วิภาเสียใจมากตัดสินใจเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ กระทั่งทองทรายกับทอรุ้งขอร้องให้นางทำความเข้าใจกับลูกชายเสีย หมอต้นยอมรับวิภาเป็นแม่ เมื่อเข้าใจเหตุผลของแม่แล้ว อนงค์วดีคู่รักที่หวลนกลับมาจากเริ่มตัดใจจากเขาเพราะวิภายืนยันว่าหมอต้นจะไม่เลิกรากับทองทราย แม้ทองทรายจะยังไม่รักเขาก็ตามที อนงค์วดีเป็นผู้หญิงมีการศึกษาและมาจากตระกูลดีมีการอบรมดีจึงไม่คิดจะเป็นภรรยาน้อยใคร ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจคบหากับ พสก เพื่อนสนิทของหมอต้นแทน เพราะพสกนั้นจริง ๆ แล้วชอบอนงค์วดีมานานแล้ว แต่ไม่เคยแสดงออกเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนรักกับเธอ นางมณีเสียชีวิต ทองทรายเอ่ยปากให้อิสระสามี หมอต้นน้อยใจมากที่ทองทรายไม่รักเขาและเขายังพบว่าทองทรายคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัดด้วยการกินยาจึงระเบิดอารมณ์ออกมา ทองทรายนึกถึงคำสั่งเสียของนางมณีจึงกลับมาหาหมอต้น เพราะจริง ๆ เธอเองก็ห่วงหาอาวรณ์เขาไม่น้อย หลังจากใช้ชีวิตคู่อยู่กันมาเป็นปี แรกทีเดียวหมอต้นไม่ค่อยจะเชื่อเธอนักแต่เมื่อทองทรายเลิกคุมกำเนิดเขาจึงเข้าใจความคิดหญิงสาว ทั้งคู่เข้าใจกันในที่สุด