ยอดปรารถนา จาก..7 สี Dvd 4 แผ่น นำโดย สิเรียม + แท่ง

ยอดปรารถนา จากช่อง7 Dvd 4 แผ่น

บทประพันธ์ อุบลพรรณ วิลันดา
บทโทรทัศน์ ภาสุรี - พงศ์สนิท

รายชื่อนักแสดง
1. ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ภูมิ อิศเรศ
2. สิเรียม โอแกน หนึ่งฤทัย กิตติวรนาถ
3. นนนี่ โอแกน หิมะ
4. มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ เพียงพร
5. กรรชัย กำเนิดพลอย โยธิน อัศวเมธี
6. คัทรียา กาญจนโรจน์ ธีรดา
7. ธนิสร สัตยมงคล พอเจตน์
8. ชนานา นุตาคม รัตนา
9. ไปรมา รัชตะ ซ่อนกลิ่น
10. ศศิม อิศรางกูรฯ แพรวรัชนี
11. วาสนา สิทธิเวช ราณี
12. โฉมฉาย ฉัตรวิไล พิกุล
13. ธัญญารัตน์ โลหะนันท์ รัมภา





หนึ่งฤทัย จบปริญญาโทจากนิวซีแลนด์ เดินทางกลับกรุงเทพฯ พร้อมกับโยธินเพื่อนนักศึกษา ที่หลงรักหนึ่งฤทัย ติดตามรับใช้ด้วยความซื่อสัตย ์แต่หนึ่งฤทัยให้ความรักต่อโยธินแบบเพื่อน หนึ่งฤทัยมีนิสัยเด็ดขาดเชื่อมั่นในตัวเอง ทิฐิมานะแรงกล้าชอบเป็นผู้นำ ตรงกันข้ามกับโยธิน ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ทีหนึ่งฤทัยจะรักโยธินแบบคนรัก ที่จะร่วมชีวิตคู่ในอนาคต
โยธิน ชวนหนึ่งฤทัยแวะมาเยี่ยมรัตนาน้าสาวของเขา ที่เปิดกิจการร้านอาหารไทยที่ซิดนีย์ ขณะจะออกจาก สนาม บิน หนึ่งฤทัยถูกชนอย่างแรง จนกระเป๋าสะพายตก แทนที่สุภาพสตรีผู้นั้นจะขอโทษ กลับไม่สนใจ แถมต่อว่าหนึ่งฤทัยซุ่มซ่าม สุภาพบุรุษที่มาด้วย ต้องกล่าวคำขอโทษหนึ่งฤทัยแทน เพื่อนสาว คือ หม่อมหลวงธีรดา
โยธิน พาหนึ่งฤทัยมาหารัตนาที่ร้านอาหาร เนื่องจากทั้งสองมีเวลาอยู่ซิดนีย์แค่วันเดียว ทั้งสองจึงชวนกันออกไปหาซื้อของ เพื่อไปฝากมารดาที่กรุงเทพฯ ระหว่างที่เดินซื้อของ หนึ่งฤทัยทำกระเป๋าสะพายตกและรีบเก็บโดยไม่รู้ว่าทั้งพาสสปอตตั๋วเครื่องบินหายไป ทำให้หนึ่งฤทัยไม่สามารถเดินทางกลับกรุงเทพฯได้ โยธินจำเป็นต้องเดินทางกลับไปก่อน
รัตนาพาหนึ่งฤทัยไปสถานทูตไทยที่แคนเบอร์ร่าเพื่อขอทำพาสสปอตให้ โดยพาไปพบเลขาโทของสถานทูต ที่รัตนาสนิทสนมกันมากหนึ่งฤทัยจำได้ว่า คือผู้ชายที่ไปกับผู้หญิง ที่ชนหล่อนในสนามบิน รัตนาแนะนำให้ทั้งสองรู้จักเลขาโทผู้นี้ คือ ภูมิ อิศเรศ นักการทูตหนุ่มทายาทมหาเศรษฐีหมื่นล้านของนายมิตร

ภูมิ กล่าวคำขอโทษหนึ่งฤทัยอีกครั้ง ที่เพื่อนหญิงของเขา คือม.ล.ธีรดา แสดงกิริยาดูหมิ่นหญิงสาว ภูมิ สั่งเจ้าหน้าที่ในสถานทูตเร่งทำพาสสปอตเล่มใหม่ ให้หนึ่งฤทัย แต่ต้องเสียเวลาตรวจเช็คเอกสารจากกรุงเทพฯตามระเบียบเสียก่อน ระหว่างรอพาสสปอตเล่มใหม่ ภูมิอาสาพาหนึ่งฤทัยเที่ยวชมความงามของออสเตรเลีย ทั้งยังพาเที่ยวชมสถานที่จัดการแข่งขัน โอลิปิคปี 2000 ทำให้สองหนุ่มสาวสนิทสนมมากยิ่งขึ้น

พาสสปอตของหนึ่งฤทัยเสร็จ ภูมิได้รับข่าวร้ายจากกรุงเทพฯ แพ๊ตหรือเพียงพรแม่เลี้ยงสาวสวย อดีตคนรักของภูมิ โทรมาบอกว่า นายนิมิตร บิดาของภูมิหัวใจวายเสียชีวิตแล้ว ทำให้ภูมิต้องรีบเดินทางกลับเที่ยวบินเดียวกับหนึ่งฤทัย

โยธินดีใจ ที่หนึ่งฤทัยกลับมา ขณะที่หนึ่งฤทัย ต้องไปงานศพบิดาของภูมิ ทำให้โยธินไม่สบายใจนัก เมื่อเห็นภูมิให้ความสนใจหนึ่งฤทัย แพ๊ตพยายามสานสัมพันธ์สวาทเก่าๆ กับลูกเลี้ยงหนุ่มหล่อ แต่ภูมิชิงชังความโลเลโลภมากของแพ๊ต ที่อ้างว่าเพราะภูมิไม่รีบมาสู่ขอแต่งงานกับตน ประกอบกับ เห็นภูมิมีผู้หญิงรุมรัก และภูมิยังไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศหลายปี ขณะที่ครอบครัวของแพ๊ตยากลำบาก ทั้งแม่น้องอีกห้าคนต้องพึ่งแพ๊ตทั้งนั้น เมื่อนายนิมิตรขอแต่งงาน เธอจึงจำเป็นต้องเป็นแม่เลี้ยงของเขา เพื่อช่วยครอบครัว อีกประการหนึ่ง แพ๊ตคือผู้หญิงที่เขารัก ภูมิไม่สนใจกลับประนามว่า แพ๊ตอยากเป็นคุณนายครอบครองทรัพย์สมบัติของพ่อเขามากกว่า

ภูมิ จำเป็นต้องลาออกจากการเป็นนักการทูตเพราะเขาเป็นลูกคนเดียวของบิดาไม่มีใครบริหารงานโรงแรมบริษัททัวร์และกิจการอื่นๆอีกขืนปล่อยให้แพ๊ตบริหาร ภูมิแน่ใจว่า กิจการที่บิดาสร้างมาใหญ่โต จะต้องพินาศ ด้วยมือของแพ๊ตกับพี่น้องของแพ๊ต

พิกุลมารดาของแพ๊ตกับพอเจตน้องชายยุให้แพ๊ตเร่งทนายความเปิดพินัยกรรมเพราะแพ๊ตเป็นภรรยาจดทะเบียนสมรสของนายนิมิตรย่อมมีสิทธิในกองมรดก ภูมิรู้ทันความละโมบของครอบครัวแพ๊ต จึงสั่งทนายความเปิดพินัยกรรม ปรากฏว่าพินัยกรรมทั้งหมดถูกแบ่งเป็นสองส่วนเท่ากัน ระหว่าง ภูมิกับแพ๊ตแต่มีข้อแม้ว่าสมบัติทรัพย์สินทั้งหมดจะแบ่งกันได้ต่อเมื่อภูมิแต่งงานเสียก่อนทำให้แพ๊ตผิดหวังอย่างยิ่งครั้งจะหวังในตัวภูมิแบบถ่านไฟเก่าจะคุขึ้นมาอีกก็ดูไม่มีทางเพราะภูมิไม่เล่นด้วย พอเจตรู้ว่าภูมิให้ความสนใจหนึ่งฤทัยมาก จึงแนะพี่สาวให้เป็นคนประสานความสัมพันธ์ของภูมิกับหนึ่งฤทัย ทำให้แพ๊ตต้องเปลี่ยนแผนใหม่ทำตัวเป็นแม่สื่อให้คนทั้งสอง


หนึ่งฤทัย เข้าทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศตามที่เธอฝันจะเป็นนักการทูตในอนาคตในที่สุดแผนการของแพ๊ตก็สำเร็จ ภูมิขอแต่งงาน หนึ่งฤทัยรักภูมิอยู่แล้ว จึงไม่อาจปฏิเสธได้ ทำให้โยธินผิดหวังอย่างยิ่ง
เมื่อแต่งงานกันแล้ว ภูมิมีธุรกิจต้องไปยุโรป หนึ่งฤทัยไม่สามารถติดตามภูมิไปได้ เพราะต้องทำงานที่กระทรวง แม้ภูมิจะขอร้องให้หนึ่งฤทัยลาออก แต่หนึ่งฤทัยไม่ยอม เพราะเธอฝันจะเป็นนักการทูตมานานแล้ว
ระหว่างที่ภูมิไม่อยู่ แพ๊ตพยายามกลั่นแกล้ง ไม่ให้หนึ่งฤทัยมีรถใช้ แกล้งเอาคนขับรถทั้งสองคนไปรับใช้แพ๊ต ที่บ้านพักชายทะเล หนึ่งฤทัยต้องพึ่งโยธินให้มารับมาส่ง แพ๊ตปล่อยข่าวในทางเสียหาย เพื่อให้ภูมิเข้าใจผิด
ภูมิไปยุโรปพบกับ ม.ล.ธีรดา สาวไฮโซ ที่ตามตื๊อเดินทางกลับพร้อมภูมิ แพ๊ตปล่อยข่าวเพื่อให้หนึ่งฤทัยเข้าใจผิด แต่หนึ่งฤทัยเป็นคนหนักแน่นไม่เชื่ออะไรง่าย ขณะที่ภูมิเริ่มระแวงหนึ่งฤทัยกับโยธินตามที่แพ๊ตวางแผนไว้ แพ๊ต ถือโอกาสที่ภูมิอารมณ์ไม่ดีมอมเหล้าภูมิ แล้วพาภูมิกลับไปนอนที่โรงแรม โยธิน พาหนึ่งฤทัยกลับบ้าน แม่บ้านรายงานว่าคืนนี้ภูมินอนที่โรงแรม โดยมีผู้หญิงโทรมาบอก หนึ่งฤทัยอยากรู้ความจริง ถึงสาเหตที่ภูมิหมางเมิน จึงไปที่โรงแรม พบภาพแสลงใจ เห็นแพ๊ตนอนกอดภูมิอยู่บนเตียง ภูม ิรู้สึกตัวตกเป็นเหยื่อแพ๊ต จึงพยายามอธิบายให้หนึ่งฤทัยฟัง แต่หนึ่งฤทัยไม่สนใจขอหย่า ขนเสื้อผ้ากลับไปอยู่บ้านแม่

แม้รัมภา มารดาของหนึ่งฤทัย จะขอร้องให้หนึ่งฤทัยใจเย็น แต่หญิงสาวตัดสินใจหย่า พร้อมขอร้องมารดาและน้าสาวรวมทั้งโยธิน ห้ามบอกภูมิเด็ดขาด ว่าเธอท้อง 2 เดือนแล้ว ภูมิจำใจต้องหย่ากับหนึ่งฤทัย ทั้งที่เขารักมาก แต่หนึ่งฤทัยไม่ยอมฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น

หนึ่งฤทัย ขออนุญาติทางกระทรวง ไปทำปริญญาเอกต่อ โดยขอร้องผู้ใหญ่ ว่าเธอลาออกจากกระทรวง แล้วปล่อยข่าว ว่าเธอไปอยู่นิวซีแลนด์ แท้จริงแล้ว หนึ่งฤทัยไปทำงานที่ร้านอาหารไทยของรัตนา น้าสาวของโยธินที่ซิดนีย์ โดยมีรัมภาติดตามไปด้วย โยธิน มาดูกิจการร้านอาหารไทยของรัตนา ขณะเดียวกัน หนึ่งฤทัยก็เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยของออสเตรเลีย เพื่อทำปริญญาเอก โยธินยังมีความหวังว่า สักวันหนึ่งฤทัยคงเห็นความจงรักภักดีของตนบ้าง

ภูมิพยายามสืบหาว่า หนึ่งฤทัยไปไหนกันแน่ แต่ไม่มีใครรู้ ขณะที่แพ๊ต สมปรารถนาได้ครอบครองสมบัติและตัวภูมิ ยามเมาเท่านั้น ที่ภูมิจะเออออด้วย แพ๊ตพยายามใช้มารยาสารพัดรูปแบบแกล้งกินยาตายบ้าง ผูกคอตายบ้าง แต่ภูมิก็ไม่สนใจเขา เพราะรู้ตัวว่าทำผิดต่อหนึ่งฤทัยมาก
หนึ่งฤทัย ท้องแก่ขึ้นทุกที จนกระทั่งถึงกำหนดคลอด ฝนตกหนัก หนึ่งฤทัยทำงานที่ร้านอาหารอยู่ ทำให้โยธินต้องอุ้มหนึ่งฤทัยฝ่าพายุฝน ไปโรงพยาบาล

ภูมิ ถูกตำรวจจับตัวไว้ แถมไม่มีพาสสปอตอีกด้วย โยธินกับหนึ่งฤทัย มาที่สนามบิน ท่านทูต รู้เรื่องตามมาด้วย เตือนสติหนึ่งฤทัย อย่าทำอะไรวู่วาม แต่ภูมิก็ยังไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ แม้จะได้พาสสปอตแล้ว ยังแอบมาหาน้ำฝน ในที่สุดก็รู้ความจริงว่า อาภูมิคนนี้ คือผู้ให้กำเนิด หนึ่งฤทัย ยืนกรานเด็ดขาด ไม่ยอมคืนดีกับภูมิ แม้ว่าโยธินกับรัมภา จะขอร้องยังไงก็ไม่ยอม



ลูกของหนึ่งฤทัยเป็นผู้หญิงชื่อเล่นว่าน้ำฝนเพราะหนึ่งฤทัยตั้งให้เป็นวันที่เธอคลอดลูกโยธินอุ้มฝ่าสายฝนมาในที่สุด หนึ่งฤทัยก็สำเร็จได้ปริญญาเป็นดอกเตอร์สมความฝันของเธอ ทำให้ต้องกลับมารายงานตัวที่กระทรวง ขอทำเรื่องเป็น นักการทูตที่ออสเตรเลีย ผู้ใหญ่ทางกระทรวงเห็นความตั้งใจดีของหนึ่งฤทัย ประกอบกับเลขาเอกคนเก่าครบวาระ 4 ปี
ต้องย้ายไปที่ประเทศอื่นๆ หนึ่งฤทัยได้รับพิจารณาให้เป็นนักการทูตประจำสถานฑูตไทยที่กรุงแคนเบอร์ร่า ออสเตรเลีย
การกลับมากรุงเทพของหนึ่งฤทัย กับโยธินนั้น ม.ล.ธีรดา เห็น บอกให้ภูมิรู้ ให้ภูมิมาดักพบหนึ่งฤทัยที่บ้าน แต่หนึ่งฤทัยไม่ยอมพบด้วย รีบเดินทางกลับไปรับตำแหน่งที่แคนเบอร์ร่า ปล่อยให้โยธินทำธุระในกรุงเทพฯ ต่อ
ภูมิ พบ โยธิน ที่ร้านอาหารเกิดการต่อว่ากันขึ้น โยธิน บอกว่าเขาไม่เคยมีอะไรกับหนึ่งฤทัย ภูมิต่างหากที่ทำให้หนึ่งฤทัยผิดหวัง แม้กระทั่งมีลูกก็ไม่ยอมให้ภูมิรู้ ภูมิตกตะลึงเมื่อรู้ความจริงว่า ตอนที่หนึ่งฤทัยขอหย่านั้นตั้งท้องและพาลูกของเขาหนีไป โยธิน โกหกว่าหนึ่งฤทัยไปอยู่นิวซีแลนด์


โยธิน กลับมาพบหนึ่งฤทัยที่แคนเบอร์ร่า โยธินยังทำงานกับเรียนต่อโทที่ออสเตรเลีย ช่วยดูแลน้ำฝนโดยมี รัมภาทำหน้าที่แม่บ้านดูแลน้ำฝนให้ หนึ่งฤทัย จนบัดนี้น้ำฝนอายุเข้า 4 ขวบแล้ว

ภูมิ คิดถึงลูกกับหนึ่งฤทัยมาก จึงเดินทางมานิวซีแลนด์ แต่แวะที่ซิดนีย์ออสเตรเลีย เพื่อเซ็นสัญญากับบริษัททัวร์ของออสเตรเลีย ที่จะส่งลูกทัวร์ไปพักโรงแรมในกรุงเทพฯ ของเขา

แต่ภูมิ ถูกพวกมิจฉาชีพในซิดนีย์วิ่งราวกระเป๋าเงินไป ทำให้พาสสปอตตั๋วเครื่องบินที่จะไปนิวซีแลนด์หายหมด ภูมิจึงต้องเดินทางไปสถานทูตไทยที่แคนเบอร์ร่า เพื่อขอทำพาสสปอตใหม่ ที่สถานทูตนี่เอง ภูมิ ตกตะลึงเมื่อพบว่า หนึ่งฤทัยทำงานอยู่ที่นี่ พยายามจะขอพบ แต่หนึ่งฤทัยไม่ยอมพบด้วย พอดี ฯพณฯ ท่านทูตจรัสพงษ์ ท่านทูตพ่อม่าย อุ้มเด็กหญิงน่ารักเข้ามาหาหนึ่งฤทัยในห้อง แม่หนูคนนั้น เรียกหนึ่งฤทัยว่า"แม่"ทำให้ภูมิตื่นเต้นมาก เมื่อรู้ว่าแม่หนูน่ารักคนนี้คือลูกสาวของเขา

หนึ่งฤทัย ไม่ยอมพบภูมิ หนีกลับโดยมีโยธินเอารถมารับ ภูมินั่งแท็กซี่สะกดรอยไปจนรู้ว่า หนึ่งฤทัยพักอยู่ที่ไหน รุ่งขึ้น หนึ่งฤทัยไปทำงาน ภูมิแอบมาหาลูกสาว รัมภาสงสารหลาน ที่คิดว่าพ่อตายแล้ว ภูมิขอร้องรัมภา พาน้ำฝนไปเที่ยวซื้อของเล่นให้ แต่รัมภา ขอร้องภูม ิไม่ให้บอกน้ำฝนว่า เขาเป็นพ่อ เพราะหนึ่งฤทัย ไม่ยอมให้ลูกรู้ว่าภูมิ คือ พ่อ

แต่อีกวัน หนึ่งฤทัย ก็รู้จนได้ว่า แม่รู้เห็นเป็นใจ ให้ภูมิมารับน้ำฝนไปเที่ยว จึงสั่งห้ามเด็ดขาด ภูมิขอร้องรัมภา ว่าเขาจะกลับกรุงเทพฯ แล้ว จะไม่รบกวนอีก ขอให้เขาได้อยู่ใกล้ชิดลูกวาวอีกวัน รัมภาใจอ่อน ยอมให้ภูมิพาน้ำฝนไปเที่ยว

ขณะที่ ภูมิพาน้ำฝนไปเที่ยว พบคุณหญิงนีรนุช กำลังจะไปขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ ภูมิเกรงใจ จึงนั่งรถไปกับนีรนุชเพื่อไปส่งที่สนามบินเพราะยังเห็นว่า อีกหลายชั่วโมง หนึ่งฤทัยถึงจะกลับห้องพัก แต่หนึ่งฤทัยรู้ว่า ภูมิพาน้ำฝนไปสนามบิน จึงโทรแจ้งตำรวจที่สนามบิน ว่าลูกสาวเธอ ถูกชายไทยขโมยไป ให้ดักจับตัวไว้ด้วย

ภูมิ ถูกตำรวจจับตัวไว้ แถมไม่มีพาสสปอตอีกด้วย โยธินกับหนึ่งฤทัยมาที่สนามบิน ท่านทูตรู้เรื่องตามมาด้วย เตือนสติหนึ่งฤทัยอย่าทำอะไรวู่วามแต่ภูมิ ก็ยังไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ แม้จะได้พาสสปอตแล้ว ยังแอบมาหาน้ำฝน ในที่สุดก็รู้ความจริงว่า อาภูมิคนนี้คือผู้ให้กำเนิด หนึ่งฤทัยยืนกรานเด็ดขาดไม่ยอมคืนดีกับภูมิ แม้ว่าโยธินกับรัมภาจะขอร้องยังไงก็ไม่ยอ แพ๊ต มาออสเตรเลียตามตื้อภูมิ แต่ภูมิไม่ใยดี บอกจะยกสมบัติของเขาทั้งหมดให้แพ๊ต ขอให้แพ๊ตเลิกยุ่งกับเขา แพ๊ตรู้ว่า ทำยังไง หล่อนก็ไม่มีทางชนะใจภูมิได้ จึงมาพบหนึ่งฤทัย สารภาพว่า ทุกอย่างเธอเป็นผู้ทำแผนขึ้น เพื่อให้หนึ่งฤทัยกับภูมิแยกทางกัน
แม้จะรู้ความจริง แต่หนึ่งฤทัย ก็ยังไม่ยอมยกโทษให้ภูมิ
หนึ่งฤทัย คิดจะพาลูกหลบหน้าภูมิสักระยะ พอได้พักร้อนหนึ่งฤทัยก็พาน้ำฝนกับรัมภาไปพักผ่อนนอกเมือง แต่ภูมิก็ตามมาอีก เพราะโยธินเป็นคนโทรบอก น้ำฝน จูงมือพ่อมาหาแม ่เพื่อให้พ่อแม่คืนดีกัน เพราะยอดปรารถนาของลูก ก็คืออยากเห็นพ่อแม่ร่วมกันกับลูก ทำให้หนึ่งฤทัยใจอ่อนลงยอมคืนดีกับภูม ิท่ามกลางความดีใจ ของน้ำฝน และรัมภา
โยธิน ฝืนยิ้มกับความสุขของน้ำฝน ภูม หนึ่งฤทัย เป็นความสุขในความผิดหวังอีกครั้ง และตลอดกาลของเขาที่ไม่มีวันลืมความรัก ความซื่อสัตย์ที่มีต่อหนึ่งฤทัย......