จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | ละครไทยพื้นบ้าน |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
พระสุธน-มโนห์รา
ในกาลปางก่อน พระเจ้าอาทิตยวงศ์เป็นกษัตริย์ครองเมืองปัญจาลนคร พระมเหสีชื่อพระนางจันทราเทวี ต่อมาพระมเหสึมีพระโอรสซึ่งเมื่อประสูติก็บังเกิดขุมทองสี่ขุมขึ้นที่มุมปราสาทสี่มุม พระเจ้าอาทิตยวงศ์จึงประทานนามให้ว่า " พระสุธน " (แปลว่ามีทรัพย์ประเสริฐ-มีทรัพย์มาก) บ้านเมืองก็เจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก พระสุธนราชกุมารก็ศึกษาวิชาการ มีฝีมือทางการยิงธนู วันหนึ่งนายพรานบุณฑริกชาวเมืองปัญจาลนครเข้าไปล่าสัตว์ในป่าลึก พบกลุ่มนางกินนรพี่น้องเจ็ดตนมาเล่นน้ำที่สระ นายพรานเห็นนางกินนรงดงามคิดจะจับนางไปถวายพระสุธน จึงแอบเข้าไปใกล้ ๆ เห็นกองปีกหางของนางกินนรจึงหยิบไว้ชุดหนึ่ง ส่วนนางกินนรทั้งเจ็ดเมื่อเล่นน้ำเสร็จก็กลับขึ้นมาใส่ปีกใส่หาง นางมโนห์ราน้องสาวคนสุดท้องหาปีกหาหางของตนไม่พบก็ไม่าสมารถบินกลับ พี่ ๆ ทั้งหกก็จำต้องทิ้งนางไป พรานบุณฑริกจึงนำบ่วงมาคล้องนางไปและนำไปถวายพระสุธน พระสุธนยินดีมากจึงประทานทองคำและแก้วแหวนเงินทองให้แก่นายพราน พระเจ้าอาทิตยวงศ์และนางจันทราเทวีก็จัดงานอภิเษกสมรสพระสุธนกับนางมโนห์รา ต่อมามีข้าศึกยกมาตีเมืองปลายเขตแดน พระสุธนจึงต้องยกทัพไปปราบ พราหมณ์ปุโรหิตผู้หนึ่งซึ่งเคยคุ่นเคืองใจกับพระสุธนก็แกล้งเท็จทูลพระเจ้าอาทิตยวงศ์ว่านางมโนห์ราเป็นกาลกิณี ควรจะจัดบูชายัญเพื่อให้บ้านเมืองเป็นสุข พระเจ้าอาทิตยวงศ์ไม่เต็มพระทัย เพราะทรงทราบว่าดีนางมโนห์ราเป็นที่รักอย่างยิ่งของพระสุธน แต่ขัดความเห็นของเสนาอำมาตย์ไม่ได้ จึงจำพระทัยจัดพิธีบูชายัญ นางมโนห์ราเมื่อทราบก็ยินยอมให้ฆ่าบูชายัญ แต่ขอปีกขอหางมาประดับเพื่อร่ายรำบูชา พระนางจันทราเทวีก็รีบนำปีกและหางของนางกินนรซึ่งพระสุธนฝากไว้มาให้ นางมโนห์ราร่ายรำจนร่างกายคล่องแคล้วแล้วนางก็บินกลับไปยังเขาไกรลาสถิ่นที่อยู่ ระหว่างทางนางได้แวะมากราบพระฤษีกัสสปในป่า และฝากผ้ากัมพลและพระธำมรงค์ไว้ให้พระสุธนถ้าพระสุธนตามนางมาถึงพระอาศรมของฤษี และให้ห้ามปรามพระสุธนว่าไม่ควรตามนางไปเพราะทางยากลำบากมาก แต่ถ้าพระสุธนยังดื้อดึงที่จะไปก็ขอให้มอบยาผงนี้ให้แก่พระสูธน และให้บอกพระสุธนว่าเมื่อถึงป่าไม้มีพิษให้จับลูกลิงไปตัวหนึ่ง เมื่อจะเสวยผลไม้ใดต้องปล่อยให้ลูกลิงกินก่อนแล้วจึงเสวย และเมื่อถึงป่าหวายใหญ่ ให้เอาผ้ากัมพลคลุมตัวให้แน่น นกหัสดีลิงค์จะเข้าใจว่าเป็นเนื้อกวางก็จะโฉบลงมาคาบตัวไป พอถึงรังนกก็ให้ตบมือ นกตกใจบินหนีไปพระสุธนก็จะเดินทางต่อไป พบพญาช้างสองตัวต่อสู้กันขวางทางอยู่ให้เอายาผงทาทั่วตัว แล้วเดินลอดไประหว่างขาช้าง เมื่อเดินทางต่อไปจะพบภูเขาชนกัน ก็ให้ใช้ยาผงทาตัวแล้วเดินไประหว่างช่องเขา ต่อไปจะพบยักษ์สูงเจ็ดชั่วลำตาลยืนขวางทางให้ใช้ยาผงโรยลูกศรแล้วยิงให้ถูกอกยักษ์ เมื่อยักษ์ล้มให้เดินไปทางหัวของยักษ์ ต่อไปถึงป่าทึบไม่มีทางออก ให้ขึ้นไปซ่อนตัวอยู่ในรังนกยักษ์ และเมื่อนกยักษ์บินออกหากินก็ให้ซ่อนตัวอยู่ในปีกของนก พอนกลงหากินก็รีบลงเพราะที่นั่นจะเป็นเขาไกรลาส แล้วนางมโนห์ราก็กราบลาพระฤษีบินไปยังเขาไกรลาส ท้าวทุมราชบิดาของนางถึงแม้จะยินดีที่นางกลับมาแต่เนื่องจากนางไปอยู่โลกมนุษย์เป็นเวลานาน จึงให้นางอยู่ในปราสาทต่างหาก และเมื่อครบเจ็ดวันตามเวลาของเขาไกรลาสก็จะทำพิธีมงคลชำระสระสรงนางมโนห์ราให้หมดกลิ่นสาบของมนุษย์ ฝ่ายพระสุธนเมื่อขับไล่ข้าศึกไปได้แล้วก็รีบกลับพระนคร พอรู้ว่านางมโนห์ราบินหนีไปแล้วก็เสียพระทัยมาก รีบทูลลาพระบิดาและพระมารดาเพื่อติดตามนางมโนห์รา พระสุธนเดินทางไปพบพระฤษีกัสสปและได้ทราบความที่นางฝากไว้ พระสุธนก็มิได้ย่อท้อ ออกเดินทางและปฎิบัติตามที่นางสั่งทุกประการ พระสุธนเดินทางเช่นนี้เป็นเวลาถึงเจ็ดปี เจ็ดเดือน เจ็ดวัน พอถึงวันที่เจ็ดก็มาถึงเขาไกรลาส พระสุธนจึงซ่อนตัวอยู่ที่ใต้ต้นไม้ริมสระน้ำ ไม่ช้าก็มีนางกินรีบริวารถือหม้อทองคำมาตักน้ำที่สระ พอถึงคนสุดท้ายพระสุธนก็บันดาลให้นางยกหม้อทองคำไม่ขึ้น พระสุธนออกมาช่วยยกให้และได้แอบใส่พระธำรงค์ลงในหม้อน้ำนั้น เมื่อนางกินรีบริวารสรงน้ำให้นางมโนห์ราถึงนางกินรีคนสุดท้ายรดน้ำเหนือศีรษะนางมโนห์รา พระธำรงค์ก็หล่นลงมากับสายน้ำ นางมโนห์รายกมือขึ้นลูบหน้าแหวนธำรงค์ก็สวมเข้าที่นิ้วก้อยพอดี นางทราบทันทีว่าพระสุธนตามมาถึงแล้ว จึงสอบถามนางกินรีที่มาทีหลัง นางกินรีเล่าว่าได้พบชายหนุ่มช่วยยกหม้อน้ำให้ นางมโนห์ราจึงให้นางกินรีดูแลพระสุธน และส่งเครื่องนุ่งห่มและเครื่องประดับไปให้ แล้วนางมโนห์ราก็นำความทูลพระบิดาและพระมารดา ท้าวทุมราชจึงให้พระสุธนมาเข้าเฝ้าและให้แสดงฝีมือยิงธนู ซึ่งเป็นที่ถูกพระทัยท้าวทุมราช แต่ก็ยังมีการทดสอบอีกขั้นหนึ่ง โดยให้พระธิดาทั้งเจ็ดพระองค์แต่งกายงดงามเหมือนกันและมานั่งสลับกันอยู่ ท้าวทุมราชจึงให้พระสุธนชี้นางมโนห์ราให้ถูกต้อง ธิดาทั้งเจ็ดองค์เหมือนกันมากจนพระสุธนจำนางมโนห์ราไม่ได้ พระสุธนจึงตั้งสัจจาธิษฐานว่า ถ้าในชาติก่อนไม่เคยคบหากับภรรยาของผู้อื่นมีจิตใจมั่นคงที่นางคนเดียวแล้ว ขอให้จำนางได้ พระอินทร์จึงแปลงกายเป็นแมลงวันทองบินรอบศีรษะนางมโนห์รา พระสุธนก็ชี้นางมโนห์ราได้ถูก ท้าวทุมราชมีความยินดีจัดงานอภิเษกพระสุธนกับนางมโนห์รา แล้วพระสุธนก็ขอลาท้าวทุมราชพานางมโนห์รากลับไปเมืองปัญจาลนคร พระอาทิตยวงศ์ดีพระทัยเป็นอย่างยิ่ง จัดการตบแต่งพระนคร และทำการอภิเษกพระสุธนกับนางมโนห์ราให้ครองราชสมบัติเมืองปัญจาลนครสืบต่อไป. ............................................จบบริบูรณ์ Re: รวมภาพละครพื้นบ้าน « ตอบ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2007, 10:50:56 PM » เจอแล้วค่ะ พระสุธน-มโนห์ราต่อไปเป็นเหล่านางกินรีนะคะแก้วเกศนีศรีจุฬาพิมพารัตน์ภัทราวดีมณีกานต์สุมาลย์ศิยะมโนห์ราวัลลภวิไลเลขา ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |