เจ้าของร้านค้านี้ ไม่ได้เข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลา 77 วัน แล้ว
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
ปางเสน่หา ธนพล นิ่มทัยสุข พีชญา วัฒนามนตรี กันต์
กันตถาวร ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ สถานีโทรทัศน์สีช่อง 7 >ดีวีดี[5
แผ่นจบ]-[DVD5] [From TV]-[พากย์ไทย]ละคร ปางเสน่หา

ร.ต.อ.เต ชิต นายตำรวจหนุ่มหล่อ ฝีมือดี
ขับรถเร็วอย่างน่ากลัวตามแรงอารมณ์ ซึ่งกำลังโกรธและแค้นใจที่สุด
เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
นายเจียงซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่จึงถูกปล่อยตัว
ของกลางที่ได้มากลับหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ
คดีนี้เตชิตตั้งใจและทุ่มเททำงานอย่างหนักมานานกว่าสองปี
วางแผนล่อซื้อจนจับกุมตัววายร้ายได้แล้ว
ทว่าทุกอย่างกลับล้มเหลวเพียงข้ามคืน ที่ร้ายกว่านั้นคือผู้กำกับเสนา
ผู้บังคับบัญชาของเขาสั่งให้เขาถอนตัวจากคดีนี้โดยเด็ดขาด
และให้หลบไปซ่อนตัวสักระยะหนึ่ง ทั้งผู้กำกับเสนาและเตชิตรู้ดีว่า
การที่เจียงถูกปล่อยตัว พวกมันต้องตามล่าเขาแน่
ชายหนุ่มอยากจะอยู่ลุยกับพวกมันตามประสาคนเลือดร้อน
แต่ผู้กำกับเตือนสติให้เขาใจเย็น ๆ รอโอกาสในวันข้างหน้าจะดีกว่า
เตชิตจึงต้องเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าขับรถเร็วราวกับจะบินได้ไปหาที่ซ่อนตัว
ตามคำสั่งอย่างไม่เต็มใจ





บ่าย มากแล้วเมื่อเขามาถึงไร่สุขศรีตรัง รีสอร์ตเล็ก ๆ
ของเพื่อนสาว
เตชิตกับศรีตรังเจ้าของไร่และรีสอร์ตคนสวยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก
ทั้งสองคนฝันอยากเป็นตำรวจเหมือนกัน
เมื่อเตชิตสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้
ศรีตรังมุ่งมั่นเรียนกฎหมายจนจบปริญญาตรี
เธอสอบเข้ารับราชการเป็นตำรวจจนได้
ทว่าทำงานที่รักได้ไม่นานเธอก็ต้องลาออกเมื่อบิดาและมารดาเสียชีวิตเพราะ
อุบัติเหตุพร้อมกัน ทิ้งไร่ข้าวโพดหลายสิบไร่และรีสอร์ตสวยให้เธอดูแลต่อไป
ศรีตรังจึงต้องเปลี่ยนจากการไล่จับผู้ร้ายมาเป็นเจ้าของไร่และรีสอร์ตแทน
โดยที่ยังมีสัญชาติญาณของการเป็นตำรวจเต็มตัว
หญิงสาวต้อนรับเตชิตอย่างเต็มใจ

ศรีตรัง สบตาเพื่อนนิดเดียวก็รู้ว่าเขากำลังมีปัญหา
แต่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเพื่อนต้องช่วยเพื่อนเสมอ
เธอให้เขาพักอยู่ที่บ้านหลังสุดท้ายเหมือนทุกครั้ง ศรีตรังให้ ป้าจุรี
แม่บ้านของรีสอร์ตนำกุญแจไปเปิดบ้านให้ เตชิตจึงเดินไปพร้อมกับนาง
บ้านหลังนี้ปลูกอยู่บนเนินจึงเห็นวิวสวยได้ไกลสุดสายตา เขาชอบที่นี่มาก
มันสวยและสงบเหมาะกับการพักผ่อนและการหลบซ่อนที่สุด
ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านอย่างคุ้นเคย ส่วนจุรีรีบขอตัวกลับทันที
ท่าทางนางหวาดกลัวอะไรสักอย่างแต่เขาไม่สนใจมากนัก

เดิน ไปได้ไม่กี่ก้าว เตชิตต้องชะงักนิดหนึ่งเขารู้สึกแปลก ๆ
เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว
สัญชาติญาณตำรวจทำให้เขาเดินตรวจดูรอบบ้านอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
ยิ่งสถานการณ์ที่ทำให้เขาต้องมาซ่อนตัวอย่างนี้ทำให้เขาต้องระวังตัวมากขึ้น
ไปอีก ชายหนุ่มถอนใจยาวเมื่อไม่พบใครหรืออะไรที่ผิดสังเกต
เตชิตเปิดกระเป๋าเสื้อผ้า แล้วต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงหวานใสเรียก "คุณ"
เขาเดินออกมาดูหน้าบ้านแต่ก็ไม่พบใคร เตชิตขำตัวเองที่ระวังระแวงจนหูแว่ว

เขา หยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่ขึ้นมาผลัดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ
ขณะที่เขากำลังถอดเสื้อผ้า เสียงใส ๆ ร้อง "ว้าย" ขึ้นมาทันที
คราวนี้ชัดเจนจนเตชิตมั่นใจว่าเขาหูไม่ฝาดแน่นอน
เขาวิ่งพรวดพราดออกมาจากบ้านพักตั้งใจจะจับสาวถ้ำมองให้ได้
เธอท้าทายตำรวจอย่างเขามากเกินไปแล้ว
เตชิตลืมตัววิ่งออกมาทั้งที่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว
เดินดูรอบบ้านไม่พบใครย้อนกลับมาอีกครั้งจึงพบลุงสม
คนสวนของรีสอร์ตที่คุ้นเคยกันดี แกมองเขาแปลก ๆ เตชิตจึงเล่าให้แกฟังขำ ๆ
ว่ามีผู้หญิงมาแอบดูเขา และต้องการจับตัวเธอให้ได้
ชายหนุ่มถามลุงสมว่าเห็นใครวิ่งหนีออกไปจากแถวนี้หรือเปล่า
แต่ลุงสมยืนยันว่าไม่เห็นใคร เตชิตจึงย้อนกลับเข้าบ้านอย่างหงุดหงิด
ผู้หญิงคนนี้น่าสงสัยมาก หนีได้รวดเร็วราวกับหายตัวได้

เกือบ ค่ำแล้วเมื่อเตชิตเดินไปที่อาคารรับรองอีกครั้ง
เนื่องจากว่าในรีสอร์ตนี้มีร้านอาหารอยู่ร้านเดียวที่อาคารรับรอง
แขกทุกคนจึงต้องมารับประทานอาหารที่ห้องอาหารนี้
ศรีตรังจัดโต๊ะไว้แล้วในส่วนที่ห่างจากคนอื่น
ด้วยรู้ดีว่าทั้งเธอและเตชิตมีเรื่องต้องคุยกันจนดึก
ดื่มกันจนใครสักคนไม่ไหวจึงจะได้กลับไปนอน
นั่งดื่มกันไม่นานศรีตรังล้อเขาเรื่องวิ่งทะเล่อทะล่าออกมาตามหาสาว
เธอขู่เพื่อนว่าที่นี่ไม่มีหรอกจะมีก็แต่ผีแม่ม่ายให้เตชิตระวังตัวให้ดี
ชายหนุ่มหัวเราะลั่นเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เชื่อเรื่องวิญญาณ ผีสางใด ๆ
ทั้งสิ้น โดยอาชีพแล้วเป็นตำรวจด้วยจะกลัวอะไรง่าย ๆ ไม่ได้อยู่แล้ว
เตชิตจึงพูดขำ ๆ ว่ามาจริงก็ดีเขาจะได้มีเพื่อนนอนคุยแก้เหงา

เวลา ผ่านไปจนค่อนคืน ศรีตรังเดินเซขึ้นห้องพักไปนานแล้ว
ชายหนุ่มดื่มต่ออีกพักใหญ่จึงลุกขึ้นเดินโซเซถีบจักรยานกลับที่พัก
ลุงสมมองตามอย่างเป็นห่วง
กลัวว่าชายหนุ่มจะมึนจนตกข้างทางเสียก่อนถึงบ้านพัก เตชิตถีบรถถึงบ้านจนได้
เขายังประคองสติไปได้จนถึงเตียงนอนก่อนจะล้มตัวลงและหลับไปในทันที
เขารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงหวานใสเรียก "คุณ"
เป็นความรู้สึกเคลิ้ม ๆ กึ่งฝัน เตชิตปรือตามองตามเสียงเรียก
แล้วยิ้มเมื่อเห็นสาวน้อย หน้าใส ตาแป๋ว นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาหัวเราะเบา ๆ
เมื่อนึกถึงคำพูดของเพื่อนสาวที่บอกให้ระวังผีแม่ม่าย
ชายหนุ่มคว้าแขนนุ่มนิ่มแล้วรั้งตัวเธอมากอดไว้แน่นแต่คว้าได้แต่ลม
พลางพึมพำว่าผีแม่ม่ายก่อนหลับไปอีกครั้งอย่างมีความสุข

วัน รุ่งขึ้นกว่าเตชิตจะตื่นก็สายมากแล้ว
เขาพบป้าจุรีซึ่งมาตามพอดีนางบอกว่าศรีตรังรออยู่แล้วรีบกลับไป
ชายหนุ่มจึงรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว
เขาออกจากห้องน้ำมาพบว่าใครคนหนึ่งกำลังวุ่นวายอยู่ที่กระเป๋าเสื้อผ้าของ
เขา เตชิตตวาดเสียงดัง สาวน้อยหน้าใส ตากลมโต หันมาตามเสียงเรียก
ท่าทางเธอดีใจมาก เสียงหวาน ๆ ถามว่าเขาเห็นเธอด้วยหรือ
ชายหนุ่มทำหน้าดุถามว่าเธอมาขโมยอะไรในกระเป๋าเขา
เตชิตนึกเสียดายที่เด็กสาวหน้าตาดีคนนี้ริเป็นโจร
เธอปฏิเสธเสียงดังว่าไม่ได้ขโมย เธอแค่อยากรู้ว่าเขาเป็นใครเท่านั้น
เตชิตจึงถามย้ำอีกครั้งว่าเธอเป็นใคร
คำตอบของเธอทำให้เขาโกรธเพราะมีแต่คำว่า ไม่ทราบ ไม่รู้และจำไม่ได้
ท่าทางใส ซื่อของเธอทำให้เขายอมเชื่อว่าเธอพูดจริง
เตชิตตัดสินใจว่าต้องพาไปพบศรีตรัง เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง
เขาเรียกให้เธอตามเขามาแต่สาวน้อยทำท่าลังเล
ชายหนุ่มจึงเอื้อมมือจะคว้ามือเธอ
เตชิตอึ้งเมื่อเห็นว่ามือของเขาผ่านทะลุมือเธอไปเฉย ๆ
ชายหนุ่มยื่นมืออีกครั้งไปจับที่ไหล่
เขาพูดไม่ออกเมื่อเห็นมือตัวเองผ่านทะลุตัวเธอราวกับเป็นอากาศธาตุ

เต ชิตร้องลั่นว่า ผี เขาวิ่งหนีเธอไปอยู่ที่มุมห้อง
ทำอะไรไม่ถูกเกิดมาไม่เคยเห็นผี และไม่เชื่อด้วย แต่เธอคนนี้ไม่มีตัวตน
ไม่ใช่คน เขาสรุปว่าเป็นผี ขาดคำของเตชิต เธอก็วิ่งตามมาอยู่ใกล้ ๆ เขา
พลางร้องลั่นว่าเธอกลัวผี ชายหนุ่มวิ่งวนหนีไปรอบห้อง
สาวลึกลับก็วิ่งตามเขาแจ เธอพยายามเข้ามาแอบอยู่ข้างหลังเขา
เสียงใสร้องกรี๊ด ๆ ว่าเธอกลัวผี วิ่งวนอยู่พักใหญ่จนเตชิตเหนื่อย
อยากจะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก ผีอะไรกลัวผีตัวเอง เขาต้องทำอะไรสักอย่าง
จะมาคอยวิ่งหนีกันทั้งวันคงไม่ได้
ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างระอาเมื่อเห็นว่าข้าวของเกลื่อนกระจายรอบห้องไปหมด
เตชิตสั่งให้ผีสาวหน้าใสรอเขาที่บ้านก่อนจะรีบไปพบ ศรีตรัง
ระหว่างทางที่ขี่จักรยานไปอาคารรับรองชายหนุ่มคิดสงสัยว่า เธอเป็นใคร
และมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ตายเอง หรือถูกฆาตกรรม
แล้วถ้าถูกฆาตกรรมเขาจะทำคดีนี้อย่างไร

เต ชิตรอจนศรีตรังว่าง จึงค่อย ๆ ถามข้อมูลของสาวลึกลับจากเธอ
โดยไม่บอกว่าเขาพบอะไรมา
แต่อดีตตำรวจสาวคนเก่งอย่างศรีตรังก็สงสัยจนได้ว่าเรื่องนี้มีพิรุธ
เธอโวยวายไม่เชื่อเมื่อเตชิตบอกว่าเขาพบผี
ท่าทางเขาจริงจังจนศรีตรังต้องยอมทำใจเชื่อ เธอก็ไม่ชอบเรื่องผี ๆ
นี่เช่นกัน หญิงสาวคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงบอกเตชิตว่าบางที
ป้าจุรีจะรู้เรื่องนี้บ้าง
เวลาผ่านไปจนเกือบค่ำกว่าทั้งสองคนจะได้คุยกับจุรี
ทั้งเตชิตและศรีตรังคิดเหมือนกันว่า
เรื่องผีจะทำให้แขกที่มาพักตกใจกลัวรวมทั้งคนงานในไร่และรีสอร์ตนี้ด้วย
ป้าจุรีอึกอักก่อนจะยอมรับว่านางเคยเห็นผู้หญิงคนนี้
ตั้งแต่มาทำงานที่นี่เมื่อสองปีก่อน แรก ๆ ก็กลัวแต่เมื่อเวลาผ่านไป
นางไม่เห็นว่าเธอจะทำร้ายใคร ความกลัวก็ลดน้อยลงแต่ก็ยังมีหวาด ๆ อยู่บ้าง
จุรีบอกว่าผู้หญิงคนนี้จะอยู่แต่ที่บ้านบนเนินไม่ไปไหน
ชอบยืนอยู่ที่หน้าต่างหน้าบ้านเหมือนรอใครสักคน
นางผ่านบ้านนั้นเมื่อไหร่ก็จะเห็นว่าเธออยู่อย่างนั้นทุกวัน
จุรีบอกว่านางได้แต่แอบมองเพราะกลัว ระหว่างที่คุยกันนั้น อ้อยใจ
ลูกสาวบุญธรรมของจุรีมาแอบฟังอย่างสนใจเป็นพิเศษ

จุรี รับอ้อยใจมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก
รักและเลี้ยงอย่างดีราวกับเป็นลูกสาวตัวเอง อ้อยใจเป็นสาวเร็วกว่าอายุ
มีแฟนตั้งแต่ปีแรกที่เป็นนางสาว มาทำงานที่ไร่นี้ก็ควงหนุ่มในไร่ไม่ซ้ำหน้า
จุรีอ่อนใจกับความประพฤติของลูกสาวเต็มทีแต่ก็ห้ามไม่ได้
มีเพียงไม่กี่เดือนนี้ที่อ้อยใจคบกับศักดิ์สิทธิ์
ลูกชายของพงษ์เทพผู้จัดการไร่โดยที่ยังไม่เปลี่ยนใจ
คืนนั้นอ้อยใจถามจุรีเรื่องผีสาวจนรู้เรื่องจนได้
เธอรีบบอกแฟนหนุ่มทันทีที่พบกัน
ศักดิ์สิทธิ์สั่งห้ามเธอทำเรื่องยุ่งเด็ดขาด แต่อ้อยใจไม่เชื่อเขา
เธอจะไปหาเตชิต เพื่อนของศรีตรังเพื่อถามเรื่องนี้ให้ได้
เธอจะไม่ปล่อยให้ผีสาวตนนี้ตามหลอกหลอน รังควานเธอได้แน่นอน

คืน นั้นหลังจากที่รู้เรื่องจากจุรี
เตชิตตัดสินใจนอนค้างที่อาคารรับรอง เขาบอกศรีตรังว่าไม่กลัวผีสักหน่อย
แค่ขอเวลาคิดสักคืนเท่านั้น วันรุ่งขึ้น ศรีตรังขับรถพาเตชิตและจุรี
ไปกราบหลวงพ่อเปี่ยม พระภิกษุที่วัดซึ่งไม่ห่างจากรีสอร์ตนัก
ทั้งสามเข้าไปกราบท่านที่โบสถ์ ท่านทักราวกับรออยู่ก่อนแล้ว เตชิต
จึงเรียนให้ท่านทราบอย่างสะดวกใจ หลวงพ่อบอกว่าเขาและเธอจะต้องช่วยเหลือกัน
แล้วเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมผู้หญิงคนนี้ก็จะไปเอง
ถ้ามีอะไรสงสัยก็ให้ถามกันเอง
สายตาของหลวงพ่อที่มองไปที่ประตูโบสถ์ทำให้เตชิตมองตาม
เขาขนลุกเกรียวเมื่อเห็นสาวน้อยหน้าใสตัวปัญหา ยืนอยู่หน้าประตูโบสถ์
เตชิตตกใจมากเมื่อเห็นเธอก้าวช้า ๆ เข้าโบสถ์มา
ยอบตัวลงคลานอย่างเรียบร้อยเข้ามาหมอบกราบหลวงพ่ออยู่ข้าง ๆ เขานั่นเอง
ใครว่าผีกลัวพระไม่กล้าเข้าวัดแล้วทำไม
ผีสาวตนนี้จึงกล้าถึงขนาดเข้ามากราบพระถึงในโบสถ์ กลางวันแสก ๆ อีกต่างหาก
หรือว่าเธอจะเฮี้ยนมาก เตชิตตกใจถามเสียงใสเบา ๆ ว่ามาได้ยังไงก็เป็นผี ๆ
เข้าวัดไม่ได้ พอได้ยินคำว่าผีเสียงใสรีบขยับตัวเข้าหาเตชิตทันที
เตชิตเหลียวมองหาเพื่อน ปรากฏว่า
สองสาวต่างวัยแต่ใจตรงกันหนีออกไปยืนตัวสั่นกอดกันอยู่ที่หน้าประตูโบสถ์
เสียแล้ว ไม่ใช่เพราะเห็นเสียงใสแต่ไม่รู้เตชิตคุยกับใคร

ระหว่าง ทางที่ขับรถกลับรีสอร์ต
เตชิตคิดถึงเรื่องผีสาวหน้าใสตลอดทาง
เขาตัดสินใจว่าจะต้องกลับไปที่บ้านพักและคุยกับเธอให้รู้เรื่องให้ได้
เขาอยากช่วยเธอซึ่งจะเป็นการช่วยให้ศรีตรังได้ทำรีสอร์ตต่อไปได้ด้วย
เตชิตหาข้อมูลจากลุงสม พร้อมธูปกำใหญ่เพื่อเชิญวิญญาณของผีตนนี้
ทว่าเพียงเขาก้าวเข้าบ้านพักก็พบว่าเธอยืนรออยู่แล้ว
แสงสีเรื่อเรืองรอบตัวเธอดูหม่นเศร้า เตชิตฉุกใจคิดได้ว่า ตั้งแต่ได้พบเธอ
ผู้หญิงคนนี้จะมีแสงสีแปลก ๆ รอบตัวเธอ บางครั้งเหลืองสดใส ส้มสว่างน่ามอง
หรือหม่นเศร้าอย่างนี้ เขาเข้าใจทันทีว่านี่คงเป็นการแสดงอารมณ์
ความรู้สึกของเธอนั่นเอง
เขาถามเธอเรื่องข้อมูลส่วนตัวแต่ก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเติมสักนิด
แถมไม่ยอมเชื่อว่าเธอตายแล้วเสียอีกแต่ก็ตอบไม่ได้ว่าตัวเองเป็นอะไร
และขอร้องให้เขาช่วยพาเธอกลับบ้านอย่างน่าสงสาร
เตชิตยอมรับปากทั้งที่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร
เขาตั้งชื่อให้เธอว่าเสียงใส
เพราะเสียงของเธอที่เขาได้ยินนั้นหวานใสฟังเพลินจริง ๆ

ศรีตรัง
หวาดกลัวเสียงใสแต่ก็ยอมช่วยเตชิตสืบหาความเป็นมาของตัวเธอ โดยไม่รู้ว่า
สาวเสียงใสตามเตชิตไปด้วยทุกแห่ง
เจ้าตัวเองก็แปลกใจเพราะก่อนหน้านี้เธอไม่สามารถออกไปไหนได้
ติดอยู่ที่บ้านนั้นราวกับถูกพันธนาการไว้ แต่เมื่อพบเตชิต
นอกจากการที่เขาเป็นคนพิเศษที่สามารถมองเห็นเธอ พูดคุยกันได้แล้ว
เพียงคิดว่าจะไปกับเขา เธอก็สามารถออกจากบ้านนั้นและตามเขาไปได้ทุกแห่ง
เสียงใสดีใจที่เธอไม่ต้องเหงาอีกต่อไป
ศรีตรังกับเตชิตไปที่สถานีตำรวจที่รับผิดชอบพื้นที่นั้น
ดูแฟ้มคดีคนหายในห้วงเวลาสองปี ที่มีบุคลิกลักษณะใกล้เคียงกับเสียงใส
คนที่น่าสนใจคือเกษรา หลานสาวคนสวยของยายภา คนงานในไร่
ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ชาวบ้านนินทาว่าเธอคงจะหนีตามผู้ชายไป
แต่ยายภาไม่เชื่อ นางรู้จักหลานสาวของเธอดี ว่าเป็นคนเรียบร้อย
ไม่ใช่สาวประเภทไวไฟเหมือนวัยรุ่นทั่วไป

ศรีตรัง รู้จักเกษรา เธอเล่าให้เตชิตฟังว่า เกษรา
เป็นแฟนกับตรีทศ ผู้จัดการโรงงานแปรรูปข้าวโพด ทั้งสองคนรักกันมาก
เมื่อเกษราหายไป ตรีทศเองก็เสียใจ
ที่ร้ายกว่านั้นคือเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกว่าเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป
ของเธอ ตำรวจสอบปากคำเขาหลายครั้งกว่าจะเชื่อว่าเขาบริสุทธิ์
ศรีตรังพาเตชิตไปคุยกับตรีทศ
เสียงใสที่ตามไปด้วยมองตรีทศเหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน
ศรีตรังกับเตชิตกลับไปแล้ว ตรีทศยังยืนคิดถึงเกษราอย่างเศร้ารันทดอีกนาน

ข่าว การตามหาตัวเกษราของเตชิตทำให้อ้อยใจร้อนใจจนทนไม่ไหว
เธอกับศักดิ์สิทธิ์รู้ดีว่าเกษราอยู่ที่ไหน แต่มันต้องเป็นความลับตลอดไป
เมื่อศักดิ์สิทธิ์ใจเย็น อ้อยใจตัดสินใจจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
เธอมาแอบดูอยู่หน้าบ้านตรีทศเมื่อเห็นว่า ศรีตรังกับเตชิตกลับไปแล้ว
อ้อยใจรอจนค่ำจึงเข้าไปพบตรีทศ เธอทำหน้าเศร้า ร้องไห้แล้วบอกเขาว่า
เธอฝันถึงเกษราว่ามาขอร้องให้ช่วย ในฝันนั้นเกษราน่าสงสารมาก
หญิงสาวบอกว่าถูกทำร้ายแล้วโดนฝังอยู่ท้ายไร่ ตรีทศใจหาย
ความรักความผูกพันที่มีต่อกันทำให้เขาสั่งอ้อยใจให้พาเขาไปที่นั่นพร้อมกับ
นำพลั่วไปด้วย
ถึงไม่ค่อยเชื่ออ้อยใจนักแต่การไปพิสูจน์ดูก็ไม่เสียหายแล้วอาจจะทำให้เขา
ช่วยเกษราด้วย

ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่บ้านพักบนเนิน จู่ ๆ
เสียงใสก็ขอร้องให้เตชิตไปที่ท้ายไร่กับเธอ ชายหนุ่มยอมทำตาม
เมื่อเดินไปได้สักระยะหนึ่งเตชิตสังเกตเห็นอ้อยใจกับตรีทศกำลังมุ่งหน้าไป
ทางเดียวกัน พลั่วในมือเขาทำให้เตชิตสงสัยมาก
เขาปล่อยให้ทั้งสองคนผ่านไปก่อน จึงตามไปดู
อ้อยใจแกล้งชี้ให้ตรีทศขุดตรงนั้นตรงนี้
ก่อนจะชี้ให้เขาขุดอีกครั้งที่ข้างโรงบำบัดน้ำเสีย
เตชิตโทรศัพท์บอกศรีตรังให้ตามมาและพาคนงานมาด้วย ตรีทศขุดไปสักพักก็หยุด
เขาทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
โครงกระดูกมนุษย์ขาวโพลนอยู่ก้นหลุม ศรีตรังมาทันเวลา
เธอกับเตชิตจึงช่วยกันคุมตัว ตรีทศกับอ้อยใจส่งตำรวจ เสียงใสตามดูอย่างสนใจ
ถ้าเตชิตคิดถูกว่าเธอคือเกษราแล้วทำไมเธอจึงจำใครไม่ได้สักคน
เวลาผ่านไปโครงกระดูกนั้นถูกขุดขึ้นมาตรวจพิสูจน์ว่าผู้ตายคือ เกษราจริง ๆ

อ้อย
ใจถูกสอบเค้นจนยอมสารภาพว่าเธอกับศักดิ์สิทธิ์ไม่พอใจที่ตรีทศรักกับเกษรา
ทั้งที่จริงแล้วเกษราเคยคบกับศักดิ์สิทธิ์มาก่อน
ส่วนอ้อยใจก็เคยคบอยู่กับตรีทศ แล้วต่างก็เลิกรากันไป
ตรีทศมีโอกาสได้พูดคุยกับเกษราบ่อยครั้ง จนในที่สุดก็รักกัน
ขณะที่อ้อยใจเองก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับศักดิ์สิทธิ์
ตรีทศกับเกษราเป็นคู่รักที่น่ารักเหมาะสมกันมากจนศักดิ์สิทธิ์และอ้อยใจ
หมั่นไส้ เกลียดชัง ทั้งที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันแล้ว
ทั้งสองคนวางแผนหลอกจับตัวเกษราไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
ศักดิ์สิทธิ์จะข่มขืนเธอแล้วอ้อยใจจะถ่ายคลิปส่งไปเยาะเย้ยตรีทศ
ว่าผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวอย่างเกษรา ก็เป็นเมียของศักดิ์สิทธิ์มาก่อน
ทว่าเกษราไม่ยอมง่าย ๆ เธอสู้เพื่อป้องกันตัวจนสุดกำลัง
จนทำให้ศักดิ์สิทธิ์กับอ้อยใจเจ็บตัวทั้งคู่
ศักดิ์สิทธิ์โกรธจนลืมตัวเขาทำร้ายเกษราแล้วบีบคอตายคามือ
กลางดึกคืนนั้นทั้งสองคนจึงช่วยกันนำร่างของเกษราไปฝังไว้ข้าง ๆ
โรงบำบัดน้ำเสียของโรงงานแปรรูปข้าวโพด
กลิ่นเหม็นบริเวณโรงบำบัดกลบกลิ่นเน่าของศพจนไม่มีใครสงสัย

เมื่อ ตำรวจตามไปจับตัวศักดิ์สิทธิ์มา ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงแข็ง
ทว่าแหวนทองคำวงเล็กที่พบอยู่ก้นหลุมกลับเป็นหลักฐานมัดตัวเขา
เมื่อพงษ์เทพพ่อของศักดิ์สิทธิ์เห็นแหวนก็บอกตำรวจว่าแหวนวงนั้นเป็นของ
ภรรยาเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว
ที่จริงแหวนนั้นมีเป็นคู่เพราะเป็นแหวนแต่งงานอีกวงหนึ่งสวมติดนิ้วเขาอยู่
ส่วนของภรรยาเมื่อเธอเสียชีวิตแล้ว ลูกชายมาขอไปสวมเป็นแหวนก้อย
แล้ววันหนึ่งก็มาบอกว่าหาย ศักดิ์สิทธิ์คอตกพูดไม่ออก
เขาไม่คิดว่าแหวนวงนั้นจะหลุดตกลงไปในหลุมศพเกษราจนกลายมาเป็นหลักฐานมัดตัว
เขาได้

ยายภานำโครงกระดูกเกษราไปบำเพ็ญกุศล ก่อนจะเผาตามประเพณี
ในวันที่เผาศพเกษรานั้น เตชิตไม่ไปร่วมงานเขาอยากจะรอ”ส่ง”เสียง ใส
ให้เรียบร้อย เมื่อร่างถูกเผาวิญญาณก็ควรจะไปเช่นกัน
บรรยากาศน่าจะดีเมื่อเรื่องเข้าที่เข้าทาง
แต่เตชิตกับเสียงใสกลับไม่มีความสุข
เขาและเธอคุ้นชินที่จะมีกันและกันเสียแล้ว
งานศพเสร็จไปหลายวันแล้วแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามที่เตชิตคิดผีสาวเสียงใสยัง
คงอยู่กับเขาเหมือนเดิม
ชายหนุ่มไปพบยายภาที่บ้านเขาอยากรู้ว่ามันติดขัดตรงไหน เสียงใสตามไปด้วย
เมื่อเตชิตเห็นรูปเกษราเขาก็ได้คำตอบ เพราะไม่เหมือนกันเลยสักนิด
เสียงใสไม่ใช่เกษรา ชายหนุ่มปรายตามองเสียงใสดุ ๆ เมื่อเธอพูดอย่างดีใจว่า
เธอจำได้แล้ว ในวันที่เกิดเรื่อง
เกษรานี่เองที่มาบอกให้เธอพาเตชิตไปที่ท้ายไร่
ออกจากบ้านยายภาแล้วชายหนุ่มจึงมีโอกาสถามเสียงใสว่าทำไมไม่บอกตั้งแต่วัน
นั้นว่ามีคนมาตามให้ไปที่นั่น
เสียงใสตอบเสียงเบาว่าเธอไม่รู้ว่าเกษราตายแล้ว เข้าใจว่าเป็นสาวคนงาน
ถ้ารู้ว่าเป็นผีเธอไม่ยอมพูดด้วยแน่นอน เพราะเธอกลัวผีมาก
เตชิตอดหัวเราะไม่ได้ ผีกลัวผีก็มีด้วย

เวลา ผ่านไป
เตชิตต้องคิดหาทางช่วยเสียงใสต่อไปเขาปล่อยให้ศรีตรังเข้าใจว่า
เสียงใสไปแล้วเมื่อจบเรื่องเกษรา ทั้งที่ผีสาวเสียงใสก็ยังอยู่ใกล้ ๆ
เขานั่นเอง
วันหนึ่งหนังสือพิมพ์ลงข่าวของนักแสดงสาวสวยชื่อเจนจิราถูกตำรวจจับเพราะขับ
รถเร็ว เสียงใสชะโงกหน้ามาดูรูปจากหนังสือพิมพ์ในมือเตชิต
แล้วพูดอย่างดีใจว่ารู้จักผู้หญิงคนนี้เพราะเป็นเพื่อนเธอ
แต่ชื่อชลธิดาไม่ใช่เจนจิรา
ชายหนุ่มดีใจที่มีช่องทางให้สืบหาตัวตนของเสียงใสอีกครั้ง
เขาตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ ทันที ขับรถออกจากรีสอร์ตได้ไม่ไกลนัก
เสียงใสก็บอกให้เขาจอดรถ เธอลงจากรถเดินเร็ว ๆ
ลงไปข้างทางซึ่งเป็นที่ดินกว้างค่อนข้างรก
เมื่อเตชิตตามลงไปเธอก็บอกให้เขาช่วยเธอหาของสำคัญชิ้นหนึ่งที่เป็นของเธอ
ช่วยกันหาอยู่นานกว่าเสียงใสจะชี้ให้เขาขุดพื้นดินตรงหน้า
ชายหนุ่มใจหายเมื่อคิดว่าอาจจะเป็นเหมือนกับเกษรา
ที่ตามคนมาขุดกระดูกของตัวเอง ขุดลงไปไม่ลึกนักก็พบพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ
อัดกรอบพลาสติกสำหรับร้อยสร้อยห้อยคอองค์หนึ่ง
เสียงใสดีใจมากบอกว่าพระองค์นั้นเป็นของเธอ
และจำได้ว่าเธอเคยสวมสร้อยพร้อมพระองค์นี้ติดตัวเสมอ
เตชิตนิ่งฟังอย่างสนใจว่าเธอจะจำอะไรได้อีกบ้างทว่า
ไม่มีอะไรเพิ่มเติมนอกจากนี้

ค่ำ แล้วเมื่อเตชิตกลับถึงบ้าน
เสียงใสรู้สึกเขินอายที่จะต้องมาอยู่บ้านเดียวกับเขา
ชายหนุ่มมองแสงสีชมพูอ่อนที่ฟุ้งรอบตัวเธอ
เดาได้ว่าเธอคงอายจึงแกล้งถามว่าเธออายอะไร
เสียงใสปฏิเสธแต่แสงสีชมพูนั้นกลับมีสีเข้มมากขึ้นจนเตชิตอดหัวเราะไม่ได้
เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเห็นแสงสีพวกนั้นและรู้ด้วยว่ามันหมายถึง
อะไร เตชิตให้เสียงใสรอข้างล่างขณะที่เขาขอตัวไปอาบน้ำข้างบน
หญิงสาวเดินวนดูรอบห้องก่อนจะกลับมานั่งที่เก้าอี้
เด็กชายคนหนึ่งอายุประมาณ 10 ขวบ เดินลงมาจากข้างบน
เดินเข้ามาหาและลงนั่งคุยด้วย เสียงใสแปลกใจที่แกมองเห็นเธอด้วย
แกบอกว่าพ่อแกชื่อเตชิต ส่วนแม่นั้นตายไปนานแล้ว
เด็กชายพูดต่ออย่างน่าสงสารว่าพ่อเตชิตมักจะลืมแกทิ้งไว้บ้านเสมอ
แกบอกเสียงใสว่าแกอยากมีแม่ คุยกันอีกสองสามคำเด็กน้อยเดินกลับไปข้างบนบ้าน
ไม่นานนักเตชิตก็กลับลงมา เสียงใสถามถึงเด็กชายว่าทำไมไม่ลงมาด้วยกัน
ชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าเธอพูดถึงใคร ในเมื่อทั้งบ้านนี้มีเขาอยู่คนเดียว
เสียงใสจึงบอกว่าเธอพบกับลูกชายของเขาแล้ว
แกเพิ่งกลับไปข้างบนเมื่อครู่นี้เอง

เต ชิตเอนตัวพิงเบาะเก้าอี้อย่างหมดแรง
สีหน้าเครียดเข้มอย่างน่ากลัว
เสียงใสใจไม่ดีเธอไม่เคยเห็นเขาเป็นอย่างนี้มาก่อน
ชายหนุ่มนิ่งอย่างนั้นครู่ใหญ่ก่อนจะเล่าว่า
เขาแต่งงานมีครอบครัวตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ ภรรยาของเขาชื่อ พิมพ์ลดา
และเป็นเพื่อนกับศรีตรัง แต่งงานกันได้ไม่กี่ปี
เธอก็ถูกคนร้ายเมายาบ้าฆ่าตายพร้อมลูกในท้อง
โดยที่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าแกเลยด้วยซ้ำ เสียงใสสงสารและเห็นใจเขามาก
เธอพยายามปลอบเขาทั้งที่ตัวเองกำลังร้องไห้อย่างน่าขำ

วัน รุ่งขึ้นเตชิตถูกตามตัวให้เข้าที่ทำงาน
ชายหนุ่มหงุดหงิดเมื่อผู้กำกับเสนาสั่งให้เขาวางมือจากคดีเสี่ยสงครามและให้
ส่งมอบข้อมูลให้ ร.ต.อ.พอลซึ่งจะมาทำงานแทนเขา
เตชิตรู้สึกคุ้นหน้าเหมือนเคยรู้จักมาก่อน
แต่สายตาของตำรวจหนุ่มหล่อมาดเข้มชื่อ พอล
ที่มองเขามันเหมือนเป็นคู่อริกันมากกว่าจะเคยเป็นเพื่อนกัน
เตชิตไปพบนายตำรวจรุ่นพี่อีกคนเพื่อให้ช่วยเสก็ตช์ภาพของเสียงใส
โดยที่เขาเป็นคนอธิบายลักษณะหน้าตาของนางแบบจำเป็นที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
ไม่นานนักก็ได้ภาพของเธอ
คืนนี้เขาจะไปพบเจนจิราที่ผับแห่งหนึ่งตามที่ได้ข้อมูลจากธากรณ์
เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง ซึ่งเตือนเขาว่าให้ระวังตัวให้มาก
เพราะมีข่าวว่าเจนจิราเป็นผู้หญิงคนใหม่ของเสี่ยสงคราม

เสี่ย สงคราม หรือ เดนิส หยาง
พ่อค้ายาเสพติดชาวจีนรายใหญ่ที่มีอิทธิพลมาก
เขาเข้ามาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยเพื่อหาทางฟอกเงินที่ได้จากการ
ค้ายา เดนิส
หยางต้องการได้สัญชาติไทยจึงจ้างปรกเดือนพนักงานสาวสวยในบริษัทให้แต่งงาน
กับเขา ปรกเดือนยอมตกลง
เงินค่าจ้างนั้นมากพอที่จะส่งให้ปรายดาวน้องสาวคนเดียวไปเรียนต่อต่างประเทศ
ได้อย่างที่ต้องการ พ่อแม่ของทั้งคู่เพิ่งตายไป
ปรกเดือนจึงต้องดูแลน้องสาวแทน ซึ่งเธอก็เต็มใจ พี่น้องสองคนนี้รักกันมาก
เหตุผลสำคัญอีกอย่างที่ทำให้เธอแต่งงานกับเดนิส คือ เธอรักเขา
ปรกเดือนรักเดนิสตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเขา
ทั้งที่ในตอนนั้นเดนิสจะยังไม่รู้จักเธอเสียด้วยซ้ำ
เมื่อเดนิสต้องการแต่งงานกับผู้หญิงไทยเขาเลือกคนที่เหมาะสมอยู่นานจน
กระทั่งพบปรกเดือน เขาจึงตัดสินใจแต่งงานกับเธอ
ปรกเดือนสวยและแสนดีจนทำให้เดนิสรักเธอได้ไม่ยากนัก
แม้เขาจะมีผู้หญิงหลายคนแต่ก็รู้กันว่าปรกเดือนคือคนที่เดนิสรักที่สุด

เวลา ผ่านไปเมื่อปรายดาวเรียนจบเธอเดินทางกลับประเทศไทย
เธอสวยน่ารักจนไปสะดุดตาหุ้นส่วนคนหนึ่งของเดนิส
เขามาเจรจาขอซื้อปรายดาวกับเดนิส เมื่อเดนิสบอกปรกเดือนให้ไปคุยกับน้องสาว
เธอโกรธมากและพยายามหาทางช่วยปรายดาวให้หนีไป
แล้ววันนั้นปรายดาวก็ขับรถไปเกิดอุบัติเหตุรุนแรงจนทำให้เธอไม่รู้สึกตัวอีก
เลย หลับเป็นเจ้าหญิงนิทรา ปรกเดือนเสียใจมากโทษว่าเป็นความผิดของ เดนิส
เธอหมางเมินเขาและหันไปทุ่มเทดูแลน้องสาวคนเดียวอย่างดีที่สุด สองปีผ่านไป
ปรกเดือนไม่เหนื่อยหรือท้อใจ
เธอมั่นใจว่าวันหนึ่งปรายดาวจะตื่นขึ้นมาและหายเป็นปกติ

การ
สืบหาตัวตนของเสียงใสทำให้เตชิตต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีเสี่ยสงครามอีกจน
ได้ เมื่อเขาตามเจนจิราไปที่ผับ หาโอกาสตีสนิท
จนเธอยอมให้เขาไปส่งเธอที่อพาร์ตเมนท์ ก่อนที่เธอจะลงจากรถ
เตชิตหยิบภาพเสก็ตช์ของเสียงใสมาขอลายเซ็นจาก เจนจิรา
โดยบอกว่าเป็นดาราคนโปรด เจนจิราตกใจมากเมื่อเห็นรูป
ราวกับกลัวอะไรสักอย่าง เธอรีบเซ็นต์ให้อย่างขอไปที
ลงจากรถได้ก็แทบจะวิ่งเข้าไปในอพาร์ตเมนท์ หญิงสาวรีบโทรศัพท์บอกเดนิส
ว่ามีผู้ชายนำรูปปรายดาวมาถามกับเธอ

วัน ต่อมาเตชิตหงุดหงิดเมื่อสังเกตได้ว่า มีชายฉกรรจ์
สามสี่คนกำลังสะกดรอยเขา เขาคิดว่าคงเป็นผลจากการที่เขาไปพบเจนจิรา
ชายหนุ่มจึงขับรถไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่หน้าอพาร์ตเมนท์ที่เธอพัก
พวกนั้นตามมาจริง ๆ เตชิตจึงให้เสียงใสไปแอบฟังว่าพวกมันจะทำอะไร
เขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อคิดถึงเสียงใส สายลับล่องหนของเขา
ทว่าครู่เดียวเตชิตก็ต้องอารมณ์เสียเมื่อเห็น พอล กำลังเดินมาที่รถ
เขาก้มตัวลงพูดกับเตชิตเสียงเข้มดุให้รีบไปจากที่นี่
และเลิกยุ่งกับเรื่องนี้ได้แล้ว ก่อนที่เขาจะรายงานให้ผู้กำกับเสนารู้
พอลก้าวยาว ๆ กลับไปแล้ว
เตชิตสตาร์ทรถแล้วขับออกมาทันทีด้วยอาการกระแทกกระทั้น เขากำลังโมโหมาก
นึกอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าพอลเป็นใคร ทำไมจึงตามวุ่นวายกับเขานัก
เตชิตโกรธจนลืมเสียงใส จนกระทั่งได้ยินเธอถามว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาไม่ตอบแต่กลับให้เธอเล่าว่ารู้อะไรมาบ้าง
คำตอบคือไม่รู้ว่าพวกนั้นคุยอะไรกันและหมายถึงอะไร จู่ ๆ รถของเขาก็ถูกชน
คู่กรณีเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่พูดจายั่วโมโหท้าทายเตชิตจนเขาทนไม่ไหว
ชกต่อยกับพวกมันจนได้ เสียงใสโกรธที่ช่วยเขาไม่ได้
มือเธอที่พยายามจับตัวพวกนั้นทะลุผ่านตัวมันไปหมด
เธอหยิบจับสัมผัสอะไรไม่ได้เลย ชกต่อยชุลมุนครู่ใหญ่
พวกมันเริ่มล่าถอยแต่แล้วจู่ ๆ
เตชิตก็ถูกใครคนหนึ่งใช้ไม้ฟาดที่ศีรษะอย่างแรงจนสลบ
เขาถูกกลุ่มคนร้ายลากตัวขึ้นรถออกไปจากที่นั่นทันที
เสียงใสแทรกตัวเข้าไปกอดประคองเตชิตพยายามเช็ดเลือดให้เขาแต่มันไม่มี
ประโยชน์อะไรเลย

เต ชิตถูกนำตัวไปที่โรงสีร้างแห่งหนึ่ง
มีคนร้ายอีกกลุ่มรออยู่แล้ว เตชิตถูกลากตัวไปมัดไว้แน่น
พวกมันรอเวลาที่เขาฟื้นเพื่อจะได้รุมทำร้ายให้สนุกมือ
เสียงใสคิดหาทางช่วยเตชิต เธอจะปล่อยให้เขาตายไม่ได้ หญิงสาวหลับตาคิดถึง
ศรีตรัง ลืมตาอีกครั้งเธอมาอยู่ที่ห้องอาหารในอาคารรับรองของไร่สุขศรีตรัง
เสียงร้องอย่างตกใจของจุรีทำให้เสียงใสรู้ว่านางมองเห็นเธอ เสียงใส
ดีใจที่ศรีตรังกับตรีทศอยู่ที่นั่นด้วย
เธอทั้งปลอบทั้งขู่จุรีอยู่นานกว่านางจะยอมเป็นล่ามพูดตามเธอบอกให้ศรีตรัง
รู้ว่าเตชิตกำลังอยู่ในอันตราย
หญิงสาวไม่ลังเลที่จะรีบไปช่วยเพื่อนสักนิดเดียว ศรีตรังคว้าปืนคู่ใจ
แล้วจึงหยิบอีกกระบอกส่งให้ตรีทศ
เธอสั่งให้จุรีไปด้วยเพราะต้องคอยเป็นล่ามพูดแทนเสียงใส
เพื่อบอกทางนั่นเองและด้วยความช่วยเหลือของธากรณ์
ศรีตรังจึงหาโรงสีร้างนั่นพบ ส่วนเตชิตถูกพวกมันใช้น้ำสาดหน้าจนต้องฟื้น
คนแรกที่เขาเห็นหน้าคือนายเจียง พ่อค้ายาตัวร้ายคู่อริของเขานั่นเอง
เตชิตเจ็บระบมไปทั้งตัวแต่น้อยกว่าเจ็บใจที่พลาดท่าถูกศัตรูจับมาได้
เจียงสั่งให้ลูกน้องซ้อมเขาอย่างสะใจ
แผนล่อซื้อยาของเตชิตทำให้เจียงเสียเครดิต เสียชื่อในวงการค้ายา
ทันทีทีถูกปล่อยตัวเขาก็วางแผนล้างแค้นทันที
จนกระทั่งได้ตัวเตชิตมาในวันนี้

ศรีตรัง กับ ตรีทศ ลอบเข้าไปในโรงสี
ภาพที่เพื่อนโดนรุมซ้อมทำให้ศรีตรังทนไม่ไหว
เธอกับตรีทศบุกลุยเข้าไปช่วยเตชิตโดยไม่รอธนากรณ์ที่กำลังตามมาพร้อมตำรวจ
อีกหลายนาย ศรีตรัง ตรีทศ เตชิต โชคดีที่ตำรวจมาทันเวลา
พวกนายเจียงเผ่นหนีไปคนละทิศละทาง เตชิตถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
ในช่วงเวลาวิกฤตและวุ่นวายนั้น ปรายดาวที่หลับนิ่งไม่รู้ตัวมานาน
เกิดอาการชักเกร็งเป็นระยะ ๆ และรุนแรงขึ้นอย่างน่ากลัว
จนปรกเดือนต้องรีบนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล ธนากรณ์
มองตามปรกเดือนที่เดินเกือบเป็นวิ่งตามเตียงผู้ป่วยไปที่ลิฟต์
เขาจำได้ว่าผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงคือผู้หญิงในภาพเสก็ตช์ที่เตชิตเคยนำมา
ให้ดู เขาหาทางหาข้อมูลเพิ่มเติมทันที ในช่วงเวลาเดียวกัน
เสียงใสที่อยู่เฝ้าเตชิตในห้องพิเศษรู้สึกแปลก ๆ
เหมือนเมื่อครั้งที่เธอพบพระพุทธรูปองค์นั้น เธอเดินออกไปจากห้อง
และเห็นปรกเดือนเดินเข้าประตูห้องที่ไม่ห่างจากห้องนี้นัก
เสียงใสจำได้ว่าเป็นพี่สาวของเธอนั่นเอง จึงเดินไปที่ห้องนั้น ชื่อ
ปรายดาวที่ติดไว้หน้าห้องทำให้เสียงใสรู้สึกคุ้นเคย
เธอเดินผ่านประตูเข้าไปยืนข้างเตียงคนไข้แล้วนิ่งไป
ปรายดาวเหมือนกับเธอเหลือเกิน

รุ่ง ขึ้นพอลมาพบเตชิตเพื่อสอบปากคำ เขาต้องรับผิดชอบคดีนี้ด้วย
พอลหนักใจเมื่อเตชิตไม่ยอมให้ความร่วมมือ
นอกจากไม่ให้รายละเอียดแล้วยังกวนประสาทอีกต่างหาก
พอลกำลังจะกลับเมื่อศรีตรังเข้ามาในห้อง ทั้งคู่ชะงักไปครู่หนึ่ง
เมื่อเห็นหน้าและสบตากันชัด ๆ
ชายหนุ่มเป็นฝ่ายได้สติก่อนพอลจึงรีบออกจากห้อง
ขณะที่ศรีตรังผลุนผลันตามเขาออกมาเช่นกัน เธอวิ่งมาขวางหน้าเขา
ท่าทางเธอดีใจมากที่พบเขา ศรีตรังเรียกเขาอย่างมั่นใจว่า พี่เพชร
แต่พอลปฏิเสธอย่างสุภาพ ห่างเหิน ก่อนจะรีบเดินจากไป
เธอมองตามเขาจนลับตาก่อนจะกลับเข้าไปที่ห้องเตชิต
เขาถามทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ศรีตรังตอบเพียงว่า พี่เพชร เตชิต
จำได้ทันทีว่าทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นหน้าพอลนัก

ศรีตรัง หลบออกมานั่งคิดคนเดียว ถึงจะผ่านไปนานเป็นสิบปี
เธอก็จำพี่เพชรได้ เขาเป็นรักครั้งแรกของเธอ
พบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยเขาเป็นรุ่นพี่ที่ น่ารัก ใจดีกับน้อง ๆ
ไม่โหดเหมือนคนอื่น ๆ มาดนิ่ง ๆ พูดน้อยค่อนข้างขรึมกลับทำให้น้อง ๆ เกรงใจ
ศรีตรังอมยิ้มเมื่อคิดถึงวันแรกที่เพชรกล้าเข้ามาพูดคุยด้วยหลังจากที่แอบ
มองมาหลายวัน
เพชรพยายามเป็นพี่ที่ดีแม้ว่าบ่อยครั้งที่เขาแสดงออกชัดเจนว่าเป็นห่วงหรือ
หวงน้องศรีตรังมากไปหน่อย เพชรกับเตชิตไม่ถูกกันเลย
เขาไม่ชอบที่เธอสนิทสนมกับเตชิตมากจนเหมือนจะรู้จักรู้ใจกันไปทุกเรื่อง

ส่วน
เตชิตไม่พอใจที่เพชรเข้ามาวุ่นวายกับเพื่อนสาวเกินกว่าการเป็นรุ่นพี่รุ่น
น้องคนอื่น ๆ ความสนิทสนมระหว่างเตชิตกับศรีตรังทำให้เพชรระแวง วันหนึ่งเขา
จึงสารภาพกับน้องศรีตรังว่าเขารู้สึกกับเธอมากกว่าการเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง
ศรีตรังเองก็เต็มใจที่จะเป็นมากกว่ารุ่นน้อง สำหรับเขาเช่นกัน
เพชรกับเธอคุยกันรู้เรื่องเข้าใจกันทุกอย่างยกเว้นเรื่องเดียวคือ เตชิต
เขาไม่ยอมรับว่า เตชิตเป็นเพื่อนตายของเธอ เมื่อเพชรเรียนจบ
พ่อกับแม่ให้เขาไปเรียนต่อต่างประเทศ
ก่อนเดินทางเพชรพาศรีตรังไปเที่ยวด้วยกันจนค่ำ
เตชิตไม่ไว้ใจเพชรอยู่แล้วจึงแอบตามดูไปเรื่อย ๆ
เมื่อเห็นเพชรเดินประคองศรีตรังที่เดินเซเหมือนคนเมาออกมาจากผับแห่งหนึ่ง
เตชิตหมดความอดทนเขาเข้าใจว่าเพชรมอมเหล้าเพื่อนสาวเพื่อหวังรวบรัดเธอให้
เป็นของเขาก่อนที่จะไปเมืองนอก

เต
ชิตดึงศรีตรังออกจากอ้อมกอดเพชรแล้วจึงชกต่อยเขาแรงจนแทบสลบโดยไม่ฟังเสียง
ห้ามของศรีตรังเลย เรื่องวันนั้นเป็นการเข้าใจผิดแท้ๆ
เพชรบอบช้ำจนต้องเข้าโรงพยาบาล
เมื่อศรีตรังไปเยี่ยมเขายื่นคำขาดให้เธอเลือกระหว่างเขากับเตชิต
เธอปฏิเสธแล้วรีบกลับ และจากวันนั้นศรีตรังไม่มีโอกาสได้พบเพชรอีกเลย
เขาไปเรียนต่อต่างประเทศแล้วหายเงียบไป ศรีตรังข่มใจใช้ชีวิตตามปกติ
มุมานะทำงานเพื่อให้ลืมเขา ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าเธอทำไม่ได้
เธอยังรักเพชรและรอเขากลับมาเสมอ เมื่อพบพอล เธอมั่นใจว่าเขาคือพี่เพชร
แต่เขากลับปฏิเสธ ศรีตรังได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
หญิงสาวอยู่เฝ้าเตชิตมีความหวังลึก ๆ
ว่าอาจจะมีโอกาสได้พบพอลอีกแต่เขาก็ไม่กลับมาอีก
เลย

ตลอด เวลาที่นอนป่วยอยู่หลายวันเตชิตแปลกใจว่าเสียงใสหายไปไหน
เขาอยากขอบใจเธอที่อุตส่าห์ไปตามศรีตรังมาช่วยเขาจนได้
ชายหนุ่มอดยิ้มไม่ได้เมื่อคิดถึงคำพูดเพื่อนสาวที่เล่าวีรกรรมของเสียงใส
อย่างตื่นเต้น เตชิตอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆเสียงใสก็ปรากฏตัวขึ้นมา
ท่าทางเธอหม่นเศร้า
เสียงใสขอให้เขาเก็บพระในกรอบพลาสติกของเธอไว้เป็นที่ระลึกเพราะเธอไม่รู้
ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอต่อไป เสียงใสพาเขาไปที่ห้องปรายดาว
เตชิตเข้าใจทันทีเมื่อเห็นเธอ
เสียงใสบอกว่าเธอพยายามอย่างยิ่งที่จะกลับเข้าร่างแต่ไม่สำเร็จ
เสียงใสเดินไปล้มตัวลงนอนทาบกับร่างปรายดาว
เห็นเป็นภาพเหลื่อมซ้อนกันอยู่อย่างน่าแปลกใจ เสียงใสพูดเศร้า ๆ
ว่าเธอคงล่องลอยอยู่อย่างนี้ตลอดไป
เตชิตคิดถึงสิ่งที่จะเชื่อมวิญญาณกับร่างกายเข้าด้วยกัน
ชายหนุ่มถอดสร้อยที่คล้องพระของเสียงใสออกแล้วสวมให้กับปรายดาวทันที
เขาแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อภาพเสียงใสที่ซ้อนอยู่กับปรายดาวหายไป
เตชิตจับมือเธอมากุมไว้ พลางมองหน้าเธอแทบไม่กระพริบตา
เขาอยากเห็นเวลาเธอลืมตาตื่นขึ้นมาและอยากให้เธอเห็นเขาเป็นคนแรก
ทว่ารออยู่นานก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหญิงนิทราไม่ตื่นเสียที
เตชิตโน้มตัวลงจูบเธอหวังให้รู้สึกตัว
เขาถอนใจเมื่อปรายดาวยังคงไม่รู้สึกตัว
ชายหนุ่มตัดสินใจกลับไปที่ห้องก่อนที่จะมีใครมาพบเขาที่นี่

เต
ชิตบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียใจที่ไม่พบเสียงใสอีกเลยจนกระทั่งเขาออกจากโรง
พยาบาล ศรีตรังพยายามติดต่อขอพบกับพอล
เพื่อจัดการปัญหาที่ค้างคาใจแต่กลับกลายเป็นว่าต้องผิดใจกันมากขึ้น
ธนากรณ์และจ่าธงลูกน้องคนสนิท หาข้อมูลประวัติของ ปรายดาว
ตามที่เตชิตต้องการ ข้อมูลที่ได้มาเกี่ยวพันถึงพอล ปรกเดือน และเดนิส
อย่างไม่น่าเป็นไปได้
เมื่อเตชิตได้ข่าวว่าเดนิสกำลังจะส่งมอบยาเสพติดจำนวนมากให้กับลูกค้าที่สวน
ผลไม้แห่งหนึ่ง เขากับธนากรณ์และจ่าธงจึงตามไปซุ่มดู
เตชิตดีใจมากที่เห็นพอลอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ธนากรณ์ถ่ายภาพไว้ได้ชัดเจน
ไม่นานนักเดนิสก็มาถึง การซื้อขายเริ่มต้นขึ้น
แต่ยังไม่เรียบร้อยพวกนั้นก็ต้องหนีกันวุ่นวาย
เมื่อตำรวจหลายสิบนายเข้ามาล้อมจับ
เตชิตรีบตามเดนิสที่หิ้วกระเป๋าเงินหนีไปทันที
เดนิสรีบเดินเพื่อหนีออกทางประตูหลังสวน แต่ปรกเดือนเข้ามาขวางไว้
เธอขอร้องให้เขาหนีไปกับเธอและลูก
ปรกเดือนเพิ่งจะบอกกับเขาก่อนเดินทางมาที่นี่ว่าเธอท้อง
เดนิสจำได้ว่าสั่งให้เธอเอาเด็กออก เขาไม่คิดว่าเธอจะดื้อรั้นอย่างนี้
สถานการณ์คับขันจน เดนิสไม่มีเวลาทะเลาะด้วย เขาคว้าแขนเธอให้หนีไปด้วยกัน
แต่ปรกเดือนขืนตัวไว้ เดนิสชะงักเมื่อหันมาเห็นปืนในมือเธอ
ปรกเดือนพูดเสียงเย็นว่าเขาต้องตายพร้อมเธอกับลูก
เพื่อจะได้หนีไปมีชีวิตใหม่ด้วยกัน เธอยิงเดนิสทันที
เตชิตกับศรีตรังรีบเข้ามาแย่งปืนก่อนที่ปรกเดือนจะฆ่าตัวตาย
เดนิสบาดเจ็บสาหัสเสียชีวิตระหว่างส่งโรงพยาบาล
ศรีตรังเสียใจมากเมื่อเห็นว่าพอลถูกตำรวจจับ
เวลาสิบปีเปลี่ยนให้พี่เพชรคนดีของเธอเป็นคนเลวไปแล้ว

เต ชิตถูกผู้กำกับเสนาเรียกพบด่วน
เขาโดนท่านตำหนิที่ไม่ยอมวางมือจากคดีเสี่ยสงคราม
แต่เขาก็มีส่วนช่วยให้คดีนี้จบลง
เตชิตแปลกใจจนพูดไม่ออกเมื่อเห็นพอลเดินเข้ามาในห้องนั้นด้วย
พอลควรจะอยู่ในห้องขังไม่ใช่ที่นี่ ผู้กำกับเสนาจึงอธิบายยิ้ม ๆ ว่า
พอลทำงานให้ตำรวจสากล เขาแฝงตัวอยู่กับกลุ่มของเดนิสมาหลายปี
และที่ต้องปลอมเป็นตำรวจไทยก็เพื่อให้เดนิสไว้ใจนั่นเอง

เรื่อง ชุลมุนวุ่นวายเมื่อเตชิตมาเยี่ยมปรายดาว
หญิงสาวยังหลับตาพริ้มบนเตียงแต่สีหน้าสดใสขึ้น
ชายหนุ่มโน้มตัวลงกำลังจะขโมยจูบแก้มเจ้าหญิงนิทรา
เขาผงะออกเมื่อปรายดาวลืมตาขึ้น เตชิตดีใจมากแต่เธอกลับร้องให้คนช่วย
เขาพยายามเรียกเธอว่าเสียงใสเพื่อเตือนความจำ ปรายดาวมองเขาอย่างหวาดกลัว
เตชิตอยากจะบ้าเมื่อจู่ ๆ พอลก็เปิดประตูเข้ามา เขาตรงเข้าไปกอดปรายดาว
อย่างปลอบใจ เธอกอดเขาแน่นอย่างกลัวจริง ๆ เตชิตจึงเดินออกจากห้องอย่างโกรธ
ๆ เสียงใส ฟื้นขึ้นมาในร่างปรายดาวแต่จำเขาไม่ได้
ที่ร้ายกว่านั้นพอลเข้ามายุ่งเรื่องนี้อีกจนได้
ชายหนุ่มแค้นใจพูดไม่ออกเมื่อพอลตามมาบอกว่าปรายดาวเป็นคู่รักของเขา
พอลขอให้เขาเลิกวุ่นวายกับเธอได้แล้ว

เต ชิตขับรถออกจากโรงพยาบาลอย่างโกรธจัด
แต่แล้วก็ต้องถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลอีกจนได้เมื่อรถของเขาโดนรถบรรทุกขนาด
ใหญ่ชนอย่างแรง ศรีตรังตามมาเยี่ยมเพื่อนเธอบ่นพึมเรื่องที่เขาโชคร้าย
เจ็บตัวบ่อยเหลือเกิน แต่เมื่อเตชิตเล่าเรื่องพอลและการทำงานของเขาให้ฟัง
ศรีตรังดีใจที่พี่เพชรเป็นคนดี ความดีใจหายไปทันทีเมื่อเตชิตพูดต่อว่า
พอลเป็นคู่รักของปรายดาว ชายหนุ่มสรุปให้เพื่อนสาวฟังสั้น ๆ ว่า
เสียงใสก็คือวิญญาณของปรายดาว เขารักเสียงใสหรือปรายดาวคนนี้
พอลหรือพี่เพชรไม่ควรจะมายุ่ง
เพราะฉะนั้นศรีตรังต้องช่วยเขาวางแผนฟื้นความจำคนคู่นี้ให้ได้
พี่เพชรจะได้กลับมาหาน้องศรีตรังและ ปรายดาวก็ควรจะอยู่กับเตชิต

ปราย ดาวต้องทำกายภาพบำบัดอยู่หลายเดือนกว่าจะเดินได้เป็นปกติ
เธอเสียใจเมื่อรู้เรื่องปรกเดือน ปรายดาวไปเยี่ยมพี่สาวบ่อย ๆ
เพื่อให้กำลังใจ ปรกเดือนใกล้คลอดเต็มทีแต่เธอก็มีความสุขที่จะมีลูก
ซึ่งจะเป็นตัวแทนของเดนิส ปรายดาวชวนพอลไปเที่ยวที่ไร่สุขศรีตรัง
ชายหนุ่มเข้าใจว่าเธอจำทุกอย่างได้แล้ว แต่ไม่ใช่
ปรายดาวได้แผ่นพับประชาสัมพันธ์ของไร่นี้ส่งมาที่บ้านจนอยากจะไปเที่ยว
ส่วนพอลแม้จะปฏิเสธกับศรีตรังว่าเขาไม่ใช่พี่เพชร
แต่เขาก็หลอกตัวเองไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร
การเดินทางไปไร่สุขศรีตรังครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบน้อง
ศรีตรังก็ได้ เมื่อทั้งสองคนเดินทางมาถึงไร่
แผนการฟื้นความจำของเตชิตและศรีตรังก็เริ่มขึ้น
ศรีตรังต้อนรับพอลเหมือนลูกค้าคนอื่น ๆ
เธอทำเหมือนเพิ่งรู้จักกันครั้งแรกค่อนข้างไว้ตัวและหมางเมินจนพอลหงุดหงิด
ใจ ทุกอย่างดำเนินไปตามแผน
ศรีตรังทำให้พอลยอมรับว่าเขาคือพี่เพชรและกลับมาหาเธอจนได้
สิบปีไม่ทำให้เขาลืมน้องศรีตรังคนนี้เลยเขายังรักเธอ
ส่วนเตชิตก็ทำให้ปรายดาวจำเสียงใสและเรื่องราวระหว่างเขากับเธอได้เช่นกัน
แผนการของเตชิตและศรีตรังเพื่อนสนิทคู่นี้สำเร็จลงด้วยดี ติดตามชม ละครปางเสน่หา ได้ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครปางเสน่หา เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2555





ละครปางเสน่หา



ละครปางเสน่หา



ละครปางเสน่หา



ละครปางเสน่หา



ละครปางเสน่หา



ละครปางเสน่หา



ละครปางเสน่หา



ละครปางเสน่หา



ละครปางเสน่หา



ละครปางเสน่หา
ปางเสน่หา 5 Dvd โดย ธนพล นิ่มทัยสุข - พีชญา
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ร้านค้านี้ยังไม่ได้กำหนดวิธีการชำระเงิน กรุณา ติดต่อกับทางร้าน เกี่ยวกับรายละเอียดในการชำระเงิน
ทางร้านยังไม่ได้ทำการเพิ่มบัญชีรับเงิน กรุณาติดต่อ เจ้าของร้าน
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านorange-shop2
orange-shop2
ขายแผ่น
เบอร์โทร : 0628022626
อีเมล : orangeshop2@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม