จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | DVDไทย |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
ประเภท :TV DRAMA SERIES
ออกอากาศทางช่อง :7 นักแสดง :อนุชิต สพันธุ์พงษ์ ,เอมี่ กลิ่นประทุม เรื่องย่อ ในจำนวนเด็กกำพร้าทั้งหมดที่ หลวงตาอิน อุปการะเลี้ยงดูอยู่นั้น มีสามคนที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยของรัฐปีสุดท้าย ฉัตรโชค หรือ ดิน และ พิบูลย์ เรียนอยู่ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ สุขุม เรียนบัญชี ทั้งสามหนุ่มเติบโตกินข้าวก้นบาตรมาด้วยกัน แต่ฉัตรโชคจะสนิทสนมกับสุขุมมากกว่าพิบูลย์ เพราะพิบูลย์มักจะทำตัวเป็นคู่แข่งกับฉัตรโชคเสมอแม้ทั้งสองจะมีสติปัญญาฉลาดเฉลียวเท่าเทียมกัน ในขณะที่ฉัตรโชคมีอุปนิสัยอ่อนโยนแต่เป็นคนตรง ซื่อสัตย์และเอาจริงเอาจัง สุขุมเป็นคนขี้เล่น ร่าเริงและพูดเก่ง พิบูลย์กลับเงียบลึก ซ่อนความริษยาและความทะยานอยากไว้ภายในอย่างซ่อนเร้น ใกล้กับวัดของหลวงตาอินคือชุมชนแออัด ในละแวกนั้นมีบ้านหลังใหญ่โดดเด่นของสองครอบครัวที่ถือว่าเป็นผู้มีอันจะกินคือ ครอบครัวของ คุณพรพรรณ แม่ม่ายวัยกลางคนเจ้าของกิจการหอพักขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณบ้านที่คุณพรพรรณพักอาศัยอยู่กับ อำนาจ บุตรชายคนโต ซึ่งไม่เป็นโล้เป็นพาย และ ลักษณ์สุดา บุตรสาวคนเล็ก อีกครอบครัวหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ริมถนน เจ้าของคือ คุณอภิชาติ และ คุณหญิงนัยนา เจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ มีลูกชายกับลูกสาวอย่างละหนึ่งคนกำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศทั้งคู่ คุณอภิชาติ กับคุณพรพรรณมักจะพบปะกันเสมอเมื่อมาทำบุญที่กุฎิของหลวงตาอินเพราะเป็นคนใจบุญทั้งคู่ โดยเฉพาะคุณอภิชาติที่ชอบมาสนทนาธรรมกับหลวงตาเป็นเวลานานเพราะชื่นชมในวัตรปฏิบัติของหลวงตาอิน โดยเฉพาะการอบรมเลี้ยงดูบรรดาเด็กกำพร้าให้อยู่ในศีลในธรรม ไม่เบียดเบียนหรือเป็นภาระแก่ผู้อื่น ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของเด็กในอุปการะจึงมักจะได้รับการบริจาคจากคุณอภิชาติอยู่เป็นประจำ เวลาที่คุณพรพรรณมาที่วัดลักษณ์สุดามักจะตามมาด้วยเสมอจนสนิทสนมคุ้นเคยกับสามหนุ่มรุ่นพี่เป็นอย่างดี บางครั้งก็ช่วยเป็นติวเตอร์ให้กับสาวน้อย ลักษณ์สุดาแอบชื่นชมฉัตรโชคเป็นพิเศษ แต่เด็กหนุ่มทำเป็นไม่สนใจเพราะความเจียมตน จึงทำให้พิบูลย์ฉวยโอกาสเข้ามาแทรกกลาง หันเหความสนใจของสาวน้อยให้กลับมาที่ตนเป็นผลสำเร็จ ถึงแม้คุณพรพรรณจะไม่ได้รังเกียจเด็กกำพร้าของหลวงตาอินแต่ก็คอยจับตาดูความสัมพันธ์ของลูกสาวกับพิบูลย์อยู่ห่างๆ ด้วยความอึดอัดใจและคอยตักเตือนลูกสาวไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ขณะที่หลวงตาอินซึ่งพอจะระแคะระคายก็มักจะเรียกพิบูลย์ไปอบรมเรื่องความรักในวัยเรียนเสมอๆ แต่พิบูลย์ กับลักษณ์สุดาก็มักจะนัดแนะแอบไปพบปะดูหนังทานข้าวกันบ่อยๆ โดยที่ฉัตรโชคและสุขุมเองก็รู้ว่าพิบูลย์กำลังใช้เด็กสาวเป็นบันไดก้าวขึ้นไปสู่ชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีกว่าการเป็นเด็กวัด แต่ทั้งสองก็ไม่อยากยุ่งเพราะเห็นเป็นเรื่องส่วนตัว ทราย เป็นอีกผู้หนึ่งที่ชอบเข้ามานั่งในวัดยามไม่สบายใจจนได้รู้จักคุ้นเคยกับฉัตรโชคและสุขุม ทรายมีฐานะยากจนอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดกับแม่ซึ่งเป็นแม่ค้าขายผลไม้พื้นบ้านราคาถูกๆ ในตลาดสด และ นายสมภพ บิดาเลี้ยง ที่ไม่ยอมทำการงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกจากแบมือขอเงินเมียวัยคราวพี่ซื้อเหล้ากินไปวันๆ กับคอยฉวยโอกาสทำตัวเป็นพระยาเทครัว ล่วงเกินลูกเลี้ยงสาววัยรุ่นยามที่ นางเรวดี ไม่อยู่เป็นประจำ แต่ทรายก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง แม้ผู้เป็นแม่จะรู้อยู่เต็มอกถึงสถานะการณ์ภายในบ้านแต่ก็ไม่สามารถจะตัดสินใจอย่างไรให้เด็ดขาดลงไปได้ ด้วยรักทั้งลูกและผัว ฉัตรโชคและสุขุมจึงต้องกลายเป็นที่ปรึกษาของเด็กสาวยามทุกข์ใจเสมอมาทรายจึงรักและเทิดทูนชายหนุ่มทั้งสองราวพี่ชายร่วมสายโลหิต อัคนี หรือ หิน และ ฟ้าใส หรือ ฟ้า ลูกชายหญิงของคุณอภิชาติกลับมาจากต่างประเทศโดยไม่ได้อะไรติดตัวมาสักอย่างนอกจากภาษาอังกฤษ ถึงจะผิดหวังไม่น้อยแต่คุณอภิชาติและคุณหญิงนัยนาก็ดีใจที่ครอบครัวได้อยู่อย่างพร้อมหน้าเสียทีหลังจากส่งลูกทั้งสองไปดัดสันดานหลายปี แต่แทนที่หินและฟ้าจะทำให้คุณอภิชาติชื่นใจ ทันทีที่กลับมาถึงทั้งสองขอให้พ่อซื้อรถใหม่ให้คนละคัน มิหนำซ้ำยังไม่คิดจะไปช่วยบิดาที่โรงงานอีกด้วยโดยอ้างว่าต้องการพักผ่อนก่อนเพราะเรียนมาหนัก คุณหญิงนัยนาตามใจลูกทุกอย่างขณะที่สามีไม่พอใจอย่างยิ่ง ขณะที่ฉัตรโชคเดินออกจากซอยเพื่อจะไปขึ้นรถเมล์ไปมหาวิทยาลัย ฟ้าใสก็ขับรถคันใหม่ออกจากบ้านอย่างรวดเร็วจนน้ำที่ขังอยู่ในถนนกระเซ็นเปื้อนเสื้อผ้าของเด็กหนุ่ม แทนที่ฟ้าใสจะจอดรถลงมาดูและขอโทษเด็กสาวกลับขับรถเลยไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉัตรโชคพยายามข่มอารมณ์ก่อนเดินกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่วัด เมื่อเดินกลับออกมาถึงถนนใหญ่อีกครั้งก็เห็นรถป้ายแดงคันนั้นจอดเสียอยู่ข้างทาง เด็กหนุ่มจึงเดินเข้าไปทวงถามคำขอโทษ แต่ฟ้าใสกลับรู้สึกโกรธที่เด็กหนุ่มท่าทางกระจอกๆ อวดดีมาสั่งสอนให้รู้มารยาทสังคมจึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ทรายมาพบเข้าโดยบังเอิญ เมื่อรู้เรื่องจากฉัตรโชคว่าการกระทำของหญิงสาวแสนสวยคนนี้ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยจึงขอให้ฟ้าใสขอโทษ แต่สาวสวยรวยเริ่ด เชิดหยิ่งอย่างหล่อนน่ะรึจะยอมกล่าวคำนั้นให้เสียฟอร์ม ถึงแม้จะอ่อนใจในความอวดดีของฟ้าใสแต่ฉัตรโชคก็ยังมีน้ำใจช่วยดูอาการของรถคันใหม่แม้เจ้าของจะไม่ต้องการ เขาเชื่อตามที่หลวงตาสั่งสอนให้ทำความดีทุกครั้งที่มีโอกาสไม่ว่ากับใครก็ตาม ด้วยความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมารถคันสวยของฟ้าใสก็ใช้การได้ในพริบตาด้วยฝีมือของฉัตรโชค หญิงสาวยื่นเงินให้เป็นค่าแรงแต่เขาไม่ยอมรับและผละไปทิ้งให้ฟ้าใสยืนมองตามด้วยความฉุนเฉียว คุณอภิชาติชวนลูกชายหญิงไปกราบหลวงตาอินที่วัดแต่ลูกทั้งสองปฏิเสธ คุณหญิงนัยนาคิดจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้ลูก แม้สามีจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่อยากขัดใจ ตั้งแต่อัคนีกับฟ้าใสกลับมาเมืองไทยทั้งสองก็เอาแต่เที่ยวเตร่ไม่สนใจที่จะเข้ามาช่วยดูแลกิจการของพ่อนอกจากใช้เงินให้หมดเปลืองไปวันๆ ผู้เป็นมารดาเองก็ตามใจ ที่สำคัญอัคนีพา พิมพ์จันทร์ คู่รักที่พบกันในต่างประเทศกลับมาด้วย พิมพ์จันทร์เป็นกำพร้าบิดามารดาอาศัยอยู่กับลุงและป้าโดยมีมรดกเพียงน้อยนิดของพ่อแม่ที่ตกทอดมาถึงหล่อนทำให้ยังเชิดหน้าชูตาอยู่ในวงสังคมชั้นสูงได้อย่างไม่ต้องอับอายนัก เมื่อได้พบกับอัคนีผู้เป็นทายาทเจ้าของโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ หญิงสาวจึงคว้าอัคนีไว้อยู่มือ ชายหนุ่มหลงใหลในเสน่ห์ของพิมพ์จันทร์จนถึงขั้นคิดจะแต่งงานเมื่อกลับมาเมืองไทย อัคนีขับรถไปรับพิมพ์จันทร์เพื่อมาพบพ่อกับแม่ ระหว่างทางที่นั่งรถมาด้วยกันพิมพ์จันทร์กระเซ้าเย้าแหย่ยั่วยวนให้อัคนีเคลิบเคลิ้มจนเกือบจะขับรถชนทรายที่กำลังเดินข้ามถนน ทั้งสองลงจากรถมาต่อว่าเด็กสาวแต่ทรายก็เถียงหัวชนฝา เพราะก่อนจะล้มลงหล่อนเห็นคาตาว่าคนในรถกำลังทำอะไรกัน หากทั้งสองไม่ยอมขอโทษหล่อนแต่โดยดีหล่อนก็จะเอาเรื่องจนถึงที่สุดเพราะหล่อนมีบาดแผลถลอกเลือดซิบเป็นหลักฐาน จึงแกล้งเรียกค่าเสียหายหนึ่งพันบาท พิมพ์จันทร์ไม่ยอมจะจ่ายแค่ร้อยเดียว อัคนีเริ่มอับอายเพราะบรรดาผู้คนในชุมชนเริ่มเข้ามามุงดูมากขึ้นจึงคะยั้นคะยอคนรักให้รีบจ่ายเงินตามที่ทรายต้องการ แต่เมื่อทรายยื่นมือออกไปรับ พิมพ์จันทร์แกล้งปล่อยธนบัตรให้ร่วงลงกับพื้น ทรายยืนอึ้งเมื่อพิมพ์จันทร์หัวเราะอย่างสะใจก่อนจะควงแขนอัคนีกลับขึ้นรถขับออกไป ไม่ทันที่ทรายจะก้มลงหยิบเงิน สมภพบิดาเลี้ยงก็คว้าได้ไปเสียก่อน เด็กสาวอดสูใจจนต้องเดินหนีไป การพาคนรักไปพบบิดามารดาไม่ชื่นมื่นอย่างที่อัคนีคาด คุณหญิงนัยนาไม่เท่าไหร่แต่คุณอภิชาติรับไม่ได้เลยกับการแต่งตัวอันค่อนข้างเปิดเผยและจริตมารยาเป็นฝรั่งจ๋าของว่าที่สะใภ้ในอนาคต รวมทั้งความคิดความอ่านอย่างคนใจแคบ เมื่อเล่าถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก่อนมาถึงบ้านคุณอภิชาติ พิมพ์จันทร์ขอตามไปที่วัดด้วยเนื่องจากคุณอภิชาติจะพาลูกทั้งสองไปกราบหลวงตาอินในวันนี้ กุฎิหลวงตาอินต้องรับแขกพร้อมกันถึงสองครอบครัว เพราะคุณพรพรรณก็พาลักษณ์สุดาและอำนาจมาที่วัดด้วยเช่นกัน ลักษณ์สุดามาเพราะอยากพบพิบูลย์ แต่อำนาจมาเพราะเอาใจมารดาเนื่องจากกำลังต้องการเงินก้อนหนึ่ง เด็กวัดทั้งสามจึงออกมาช่วยกันเสริ์ฟน้ำให้แขกของหลวงตา อำนาจตกตะลึงเมื่อเห็นฟ้าใส ไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตาขี้เหร่ในสมัยก่อนโน้นจะเติบโตขึ้นงดงามถึงเพียงนี้ เช่นเดียวกับพิบูลย์ที่กำลังนึกเปรียบเทียบระหว่างฟ้าใสกับลักษณ์สุดาอยู่ในใจ แน่นอน ฟ้าใสย่อมเหนือกว่าลักษณ์สุดาในทุกๆ ด้านอยู่แล้ว พิบูลย์เริ่มเอนเอียง ฟ้าใสหัวเราะเยาะฉัตรโชคเมื่อรู้ว่าเขาเป็นเพียงเด็กวัด คุณอภิชาติอับอายจนต้องขอโทษแทนลูกก่อนจะขออนุญาตหลวงตาอินให้สามหนุ่มไปช่วยในงานเลี้ยงต้อนรับลูกทั้งสอง คุณหญิงนัยนาออกปากเชิญคุณนายพรพรรณกับครอบครัวด้วย เนื่องจากทั้งสองครอบครัวสนิทสนมคุ้นเคยกันมาเนิ่นนาน คุณอภิชาติบอกให้ฉัตรโชคไปชวนให้ทรายมาช่วยงานด้วยจะได้มีรายได้เพราะท่านไม่เคยเรียกเด็กเหล่านี้มาทำงานให้เปล่าๆ โดยไม่มีค่าแรงเล็กๆ น้อยๆ เป็นสินน้ำใจ คุณอภิชาติเล่าถึงการอบรมเลี้ยงดูเด็กกำพร้าของหลวงตาอินให้ลูกทั้งสองฟัง ฟ้าใสจึงไม่แปลกใจเลยที่บิดานิยมชมชอบเด็กหนุ่มทั้งสามคนนักหนาจนน่าหมั่นไส้ โดยเฉพาะฉัตรโชคซึ่งหล่อนลงความเห็นว่าหยิ่งจองหองและอวดดีทั้งที่ไม่มีดีอะไรจะอวด นอกจากการเป็นนิสิตปีสุดท้ายในคณะวิศวกรรมศาสตร์ หญิงสาวลืมนึกถึงตัวเองไปสนิท วันงานเลี้ยงมาถึง หลวงตาอินเรียกสามหนุ่มมาสั่งสอนตักเตือนให้ขยันอดทน เจียมเนื้อเจียมตัว อย่ามือไวใจเร็ว ก่อนจะปล่อยตัวให้ไปที่บ้านคุณอภิชาติซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน โดยทั้งสามและทรายอยู่ในแผนกเสริ์ฟเครื่องดื่ม พิมพ์จันทร์จำทรายได้จึงแกล้งเรียกทรายมาหาเพื่อพูดจาเยาะเย้ยถากทาง จนเด็กสาวเริ่มทนไม่ได้ ฉัตรโชครีบเข้ามาห้ามทัพและขอโทษแทนแต่ทรายไม่ยอมเพราะไม่ใช่คนผิด อัคนีตามเข้ามาสมทบก็ยิ่งทำให้เรื่องราวบานปลายกันไปใหญ่ เสียงทุ่มเถียงทะเลาะกันทำให้ใครๆ พากันมารุมดูเหตุการณ์ รวมทั้งคุณอภิชาติ พิมพ์จันทร์ขอให้คุณอภิชาติไล่ทรายออกไปจากงาน เด็กสาวจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟังตั้งแต่เรื่องถูกขับรถเฉี่ยว พิมพ์จันทร์จึงเป็นฝ่ายโดนตำหนิ อัคนีขอร้องให้บิดาเห็นแก่ว่าที่ลูกสะใภ้ แต่ด้วยความยุติธรรมและซื่อตรงของท่านทำให้พิมพ์จันทร์ต้องเสียหน้าอีกครั้ง หญิงสาวจึงผลุนผลันออกจากงานไปด้วยความโกรธแค้นจนแทบกระอักที่ต้องพ่ายแพ้แก่คนที่ไม่มีสกุลรุนชาติเช่นทราย ทรายกังวลใจที่เป็นต้นเหตุให้ผู้มีพระคุณต้องเดือดร้อน ยิ่งคุณอภิชาติเมตตาหล่อนมากแค่ไหน หล่อนก็ไม่สบายใจมากเพียงนั้น ฟ้าใสเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มารดาฟัง หญิงสาวรู้สึกเห็นใจพี่ชายที่บิดามีอคติกับพิมพ์จันทร์อำนาจพยายามหาจังหวะพูดคุยกับฟ้าใส แต่หญิงสาวรำคาญจนต้องปลีกตัวหนี แต่เมื่อพบฉัตรโชคที่พยายามหลบหน้าหล่อนฟ้าใสกลับตามตอแยเพราะอยากเอาชนะ พิบูลย์มองภาพนั้นด้วยความริษยาด้วยรักฟ้าใสเข้าแล้วตั้งแต่ได้เห็นที่กุฎิหลวงตาอิน ขณะที่ลักษณ์สุดาพยายามหาโอกาสที่จะได้พบกับพิบูลย์ตามลำพัง แต่ก็ถูกมารดากันท่าอย่างแนบเนียนและนุ่มนวลเสียทุกครั้งไป อัคนียังคงโกรธแค้นที่ทรายเป็นต้นเหตุให้คนรักต้องออกไปจากงานเลี้ยงจนทำให้เขาหมดความสนุกสนานจึงจงใจเรียกสาวมาดุด่า ฉัตรโชคเข้ามาเตือนสติเด็กสาวให้อดทน อัคนีพาลใส่ฉัตรโชค ฟ้าใสรีบมากันตัวพี่ชายออกไปเหตุการณ์ที่เริ่มจะรุนแรจึงยุติลง เมื่องานเลี้ยงเลิกราทรายพบกับอัคนีอีกครั้งขณะที่ชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำบนตึก แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรอีก นอกจากหน้าตาบึ้งตึง จากนั้นเด็กสาวจึงมาช่วยกันกับสามเด็กวัดเก็บอาหารที่เหลือเอากลับไปกินที่บ้านตามที่คุณอภิชาติอนุญาต แต่ทรายก็ต้องตระหนกตกใจเมื่ออัคนีกลับมาพร้อมกับข้อหาฉกรรจ์ว่าหล่อนขโมยนาฬิกาที่เขาถอดลืมไว้ในห้องน้ำ เพราะหล่อนคือคนที่เข้าห้องน้ำต่อจากเขา ทรายไม่สบายใจที่ต้องตกเป็นจำเลยในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ทำ อัคนีตามไปง้องอนคนรักถึงที่บ้าน แต่พิมพ์จันทร์ก็แกล้งสะบัดสะบิ้ง ชายหนุ่มเล่าเรื่องนาฬิกาที่ถูกขโมยแต่บิดาไม่ยอมให้แจ้งตำรวจจับทราย พิมพ์จันทร์จึงเหยาะยาพิษลงในหัวใจของคนรักด้วยการคาดคะเนว่า การที่คุณอภิชาติปกป้องเด็กสาวจนออกนอกหน้านั้นอาจเป็นเพราะทรายเป็นลูกของเขาอีกคนหนึ่ง หรืออาจจะเป็นเมียอีกคนของคุณอภิชาติก็ได้ แม้จะคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้แต่อัคนีก็นำกลับมาเล่าให้มารดาและน้องสาวฟังถึงความคิดเห็นของพิมพ์จันทร์จนเกิดการไต่สวนขึ้นกลางโต๊ะอาหาร คุณอภิชาติอ่อนใจในความเขลาเบาปัญญาของลูกเมียที่สามารถคิดอะไรร้ายกาจถึงเพียงนี้ได้เพียงเพราะหลงลมปากพิมพ์จันทร์ แล้วอย่างนี้เขาจะยอมให้หล่อนเข้ามาร่วมวงศ์วานได้อย่างไร เพราะเหตุนี้ท่านจึงรับปากจะจัดการแต่งงานให้อัคนีกับพิมพ์จันทร์ หากเขาจะยอมบวชเรียนหนึ่งพรรษาเป็นการแลกเปลี่ยน รวมทั้งยินดีให้ตรวจเลือดพิสูจน์ D.N.A. เพื่อความสงบสุขของครอบครัว คุณอภิชาติได้แต่หวังว่าธรรมะจะช่วยให้อัคนีมีสติรู้คิดขึ้นมากกว่านี้ อัคนีนำเรื่องนี้ไปเล่าให้คนรักฟังและชวนหล่อนไปจดทะเบียนสมรสเงียบๆ แต่คนอย่างพิมพ์จันทร์หรือจะยอม หากหล่อนจะแต่งงาน งานนั้นจะต้องยิ่งใหญ่เลิศหรูอลังการ เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของชาวไฮโซเลยทีเดียว หญิงสาวแน่ใจแล้วว่าคุณอภิชาติไม่ปรารถนาหล่อนไปเป็นสะใภ้ ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องให้ความเคารพนับถืออีกต่อไป พิมพ์จันทร์ยุให้ตรวจเลือดคุณอภิชาติตามคำท้าแต่คุณหญิงนัยนาแน่ใจว่าสามีไม่โกหกแน่นอน มิหนำซ้ำยังขอให้อัคนีบวชเรียนตามใจบิดาอีกด้วย ทรายได้พบกับคุณอภิชาติอีกบนกุฎิหลวงตาอิน เด็กสาวยังเป็นกังวลหากยังไม่พบนาฬิกาของกลาง หล่อนก็ยังคงตกเป็นจำเลยในสายตาของอัคนีตลอดไป คุณอภิชาตินำอาหารมาถวายเพลเป็นประจำ และมักจะนำมาเผื่อเด็กกำพร้าในอุปการะของหลวงตาอินอยู่เสมอ ชายวัยกลางคนผู้ระทมทุกข์เฝ้ามองหญิงชายวัยรุ่นตรงหน้าด้วยความชื่นชมผสมกับความสะเทือนใจเมื่อนึกถึงเลือดในอกของตนเอง อัคนีตัดสินใจบวชแต่ขอเวลาทำใจให้พร้อมสักพักหนึ่ง แม้จะต้องรอนานแค่ไหน คนเป็นพ่อก็ดีใจสุดๆ ทรายตัดสินใจนำเงินที่แอบเก็บหอมรอบริบไปสมัครเรียนก.ศ.น.ในระดับมัธยมปลาย เด็กสาวมั่นใจว่าการศึกษาจะช่วยให้หล่อนหลุดพ้นไปจากสภาพที่กำลังเป็นอยู่ ทรายชอบมานั่งอ่านตำราเรียนในบริเวณวัด เพราะร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ อีกทั้งฉัตรโชคก็คอยช่วยติววิชาที่ยากๆ จำพวกคณิตศาสตร์ให้หล่อนอยู่เสมอ วันหนึ่งทั้งสองจึงได้พบอัคนีมาที่วัดพร้อมด้วยพิมพ์จันทร์และฟ้าใส อัคนีบังคับจะพาทรายไปตรวจเลือด เด็กสาวโกรธจนหน้ามืดที่คนเป็นลูกดูถูกพ่อของตัวเอง เด็กสาวไม่ยอมไปไม่ใช่เพราะกลัว แต่เด็กสาวรู้ว่าเมื่อจบจากเรื่องนี้แล้ว อัคนีก็ต้องหาเรื่องอื่นมาทำให้หล่อนร้อนใจอีก คุณอภิชาติมากราบเรียนหลวงตาอินเรื่องจะบวชลูกชาย และขอให้เด็กของหลวงตาไปช่วยสอนบทสวดต่างๆ ให้แก่อัคนีที่บ้าน พิบูลย์รีบรับอาสา แต่หลวงตาอินรู้ทันจึงให้สลับกันไปกับฉัตรโชคคนละวัน พิบูลย์ได้แต่เก็บความไม่พอใจไว้ในอกขณะที่สุขุมเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของพิบูลย์ที่มักจะหลบหน้าลักษณ์สุดาเสมอยามที่เธอมาที่วัดพร้อมมารดา สุขุมตัดสินใจถามพิบูลย์ตรงๆ แต่พิบูลย์ไม่กล้าตอบว่าฟ้าใสคือต้นเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ แต่กลับทำท่ายียวนกวนประสาทจนสุขุมทนไม่ไหวกระโดดเข้าชกพิบูลย์จนล้มกลิ้ง ฉัตรโชคต้องวิ่งเข้ามาห้ามทัพก่อนที่จะได้ยินไปถึงหูหลวงตาอิน พิมพ์จันทร์พบ ดวง สาวใช้คนหนึ่งในบ้านของคนรักทำท่ามีพิรุธเมื่อหล่อนโผล่เข้าไปโดยไม่ทันรู้ตัว หญิงสาวขู่ให้ดวงส่งของที่หล่อนซ่อนไว้ในมือที่โพล่อยู่ข้างหลังมาให้ จึงพบว่ามันคือนาฬิการาคาแพงของอัคนีที่หายไป หญิงสาวจึงเก็บนาฬิกาไว้แล้วกำชับไม่ให้ดวงพูดเรื่องนี้กับใคร ลักษณ์สุดามาปรับทุกข์กับสุขุมเรื่องพิบูลย์เปลี่ยนแปลงไป สุขุมสงสารเด็กสาวยิ่งนักแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร พอดีพิบูลย์กลับมาถึงวัด จะหลบก็หลบไม่ทันได้แต่แก้ตัวอย่างขอไปที่ว่าเหตุที่ห่างเหินไปก็เพราะออกหางานทำเนื่องจากเรียนจบแล้ว เหลือเพียงรอรับปริญญาเท่านั้น พิบูลย์ฉลาดที่ยังไม่ตัดเยื่อใยจากลักษณ์สุดาเสียทีเดียว เนื่องจากเขายังไม่ได้เริ่มต้นกับฟ้าใสเลยจึงต้องเก็บลักษณ์สุดาไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย วันแรกของการเรียนบทสวดมนต์ เป็นหน้าที่ของพิบูลย์ เพียงแค่เริ่มต้นอัคนีก็บ่นว่ายาก และเริ่มเกเร แต่พิบูลย์ก็ต้องอดทน เพราะจุดมุ่งหมายในการมาสอนคือฟ้าใส และก็สมใจเขาเมื่อหญิงสาวเดินออกมาเมียงๆ มองๆ พี่ชาย แต่เมื่อเห็นสายตาของเด็กวัดจ้องมองหล่อนราวถูกมนต์สะกดก็นึกอยากจะบริหารเสน่ห์ตัวเองขึ้นมาเล่นๆ โดยการทักทายพิบูลย์อย่างอ่อนหวาน อัคนีจึงฉวยโอกาสเลิกเรียนออกไปหาคนรัก ฟ้าใสหลอกใช้พิบูลย์ให้ขับรถพาหล่อนไปช้อปปิ้ง ขณะที่ขับรถผ่านบ้านคุณพรพรรณ ลักษณ์สุดาซึ่งกำลังยืนคุยกับทรายอยู่หน้าบ้านก็เห็นพิบูลย์ขับรถออกไปกับฟ้าใส ลักษณ์สุดาหัวใจเต้นแรงด้วยความสังหรณ์ใจ สองสาวจึงตรงรี่ไปที่วัดพบฉัตรโชคกับสุขุมกำลังช่วยกันรดน้ำต้นไม้อยู่ ขณะที่สองเด็กหนุ่มกำลังอ้ำอึ้งกับคำถามของลักษณ์สุดา หลวงตาอินก็ออกมาขัดจังหวะไว้ได้ทันท่วงทีโดยไม่รู้ตัว พิบูลย์กำลังปลื้มที่ได้เดินเคียงข้างสาวสวยอยู่ในห้างใหญ่ใจกลางเมืองอันเป็นแหล่งช้อปของเหล่าไฮโซลืมนึกไปว่าฟ้าใสปฏิบัติต่อเขาราวกับคนรับใช้ มิหนำซ้ำยังหลอกให้เขาเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นราคาแพงจนเงินออมที่มีอยู่เกือบเกลี้ยงกระเป๋า พิบูลย์เหงื่อตกเพราะไม่เคยต้องเป็นคนจ่ายค่าอาหารเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตลอดเวลาที่คบหากับลักษณ์สุดาและแอบนัดพบกันเป็นประจำ ลักษณ์สุดามักจะแอบหยิบยื่นเงินให้เขาทางใต้โต๊ะเสมอๆ โดยที่เขาไม่เคยต้องควักกระเป๋าใช้เงินของตัวเองเลย แต่คราวนี้เขาจำเป็นต้องลงทุน และก็ได้ผลเพราะขากลับฟ้าใสยอมนั่งคู่กับเขาทางด้านหน้าเพื่อตอบแทนที่เขาเลี้ยงอาหารมื้อนี้ แต่ความจริงฟ้าใสอยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทรายกับฉัตรโชคมากกว่า พิมพ์จันทร์สามารถพาตัวเองเข้าสู่วงการบันเทิงได้สำเร็จดังใจฝัน แม้อัคนีจะไม่ค่อยพอใจแต่ก็ไม่กล้าห้ามปรามเพราะพิมพ์จันทร์เซ็นสัญญาไปแล้ว และภาพยนตร์เรื่องแรกที่หล่อนรับบทเป็นนางเอกก็มีกำหนดเปิดกล้องเร็วๆ นี้ แต่หญิงสาวไม่ยอมบอกคนรักว่าเป็นภาพยนตร์แนวอีโรติค พิศวาสบาดจิต ซึ่งสาวสมัยใหม่อย่างหล่อนไม่แคร์อยู่แล้ว สมัยนี้หากอยากดังต้องใจถึง ยิ่งโป๊ ยิ่งกล้าเท่าไหร่ ยิ่งดังเร็ว และหล่อนก็..อยากดัง วันนี้เป็นคิวของฉัตรโชคต้องมาสอนอัคนีท่องบทสวดต่างๆ ซึ่งอัคนีก็บ่นเหมือนเดิมว่ายากและไม่ตั้งใจท่องจำ ฟ้าใสรีบเข้ามาช่วยพี่ชายเพราะอยากทดสอบว่าฉัตรโชคจะติดบ่วงเสน่ห์ของหล่อนเหมือนพิบูลย์กับอำนาจหรือไม่ อัคนีเริ่มเกเรจะขอพัก แต่ฉัตรโชคไม่ยอม ฟ้าใสก็เข้าข้างพี่ชาย อำนาจหอบดอกไม้ช่อใหญ่มาให้หญิงสาวและชวนไปรับประทานอาหารเย็น แต่ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ฟ้าใสเริ่มใช้แผนเดิมขอให้ฉัตรโชคขับรถให้ แต่เมื่อไปถึงที่หมายชายหนุ่มแก้ลำโดยการคืนกุญแจรถให้ฟ้าใสแล้วนั่งรถเมล์กลับวัดในทันที ทิ้งให้หญิงสาวมองตามด้วยความโกรธเกรี้ยว วันเปิดตัวภาพยนตร์ที่พิมพ์จันทร์รับบทนางเอก ทรายรับจ้างมาเป็นพนักงานเสริ์ฟน้ำในงานนี้ด้วย เด็กสาวนึกไม่ถึงว่าจะเจอคู่อริเก่า เช่นเดียวกับพิมพ์จันทร์ เมื่อทรายเอาน้ำเข้าไปเสริ์ฟพิมพ์จันทร์จึงแกล้งพูดกับผู้กำกับให้ระวังเพราะทรายมีประวัติเป็นขโมย เด็กสาวรู้สึกเจ็บปวดกับข้อกล่าวหา แต่หล่อนกำลังต้องการงาน ต้องการเงินสำหรับการเรียนต่อจึงจำเป็นต้องอดทน อำนาจเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อรู้จากลักษณ์สุดาว่าพิบูลย์กำลังหันเหความสนใจไปที่ฟ้าใส หญิงสาวคนที่เขาคิดจะพิชิตใจหล่อน คุณพรพรรณได้แต่เตือนลูกให้มีสติ รู้จักปล่อยวาง หากฟุ้งซ่านก็ไปช่วยทำบัญชีที่หอพักก็ได้เพราะพนักงานคนเดิมลาออกไป ลักษณ์สุดานึกถึงสุขุมขึ้นมาได้ จึงแนะนำให้มารดาจ้างสุขุมมาทำงาน ซึ่งคุณพรพรรณก็เห็นด้วย ลักษณ์สุดาจึงมาหาสุขุมที่วัดและแอบได้ยินพิบูลย์บังคับให้ฉัตรโชครับปากจะไม่เกี่ยวข้องกับฟ้าใส ความจริงที่ได้ยินจากปากของคนรัก ทำให้เด็กสาวถึงกับเข่าอ่อนทรุดลง สุขุมซึ่งแอบดูเหตุการณ์อยู่เข้ามารับไว้ได้ทันขณะที่พิบูลย์ตัดสินใจเดินหนีไปต่อหน้าต่อตา อัคนีร้อนใจเมื่อรู้จากบิดาว่าพิมพ์จันทร์แสดงภาพยนตร์แนวอีโรติค โดยการบอกเล่าของทรายซึ่งเป็นเด็กเสริ์ฟน้ำประจำกองถ่าย แม้ไม่อยากเชื่อแต่ความหึงหวงก็พุ่งโพลงขึ้นจนหน้ามืด ผลุนผลันไปด่าว่าทรายถึงในวัด ทรายโมโหจนลืมตัวพูดถึงความสัมพันธ์ของนางเอกกับผู้กำกับซึ่งเป็นข่าวซุบซิบกันในกองถ่าย นั่นกลับยิ่งทำให้เด็กสาวกลายเป็นนางร้ายขี้อิจฉาในสายตาของอัคนีมากยิ่งขึ้น สายตาชิงชังรังเกียจของอัคนีทำให้เด็กสาวสะเทือนใจเจ็บปวดจนตัวเองก็ตกใจว่าทำไมถึงแคร์เขามากขนาดนี้ อำนาจยังคงตามตอแยนำดอกไม้มามอบให้ฟ้าใสทุกวัน แต่ปฏิกิริยาอันเย็นชาที่ได้รับจากหญิงสาวทำให้อำนาจหลุดปากพูดเรื่องน้องสาวของตัวเองกับพิบูลย์ เพื่อเป็นการตัดหนทางของคู่แข่ง แต่ต้องต้องผิดหวังเพราะฟ้าใสไม่ได้สนใจทั้งเขาและพิบูลย์ หนังสือพิมพ์หลายฉบับลงข่าวการเปิดกล้องภาพยนตร์ไทยแนวรักร้อนแรง ซึ่งนำแสดงโดยนักเรียนนอกแสนสวยและใจถึง เป็นการตอกย้ำความจริงจากคำบอกเล่าของทราย ทุกคนในครอบครัวของอัคนีไม่พอใจ โดยเฉพาะคุณอภิชาติ อัคนีไปพบพิมพ์จันทร์ที่บ้านขอร้องให้หล่อนถอนตัว แต่พิมพ์จันทร์ปฏิเสธ หล่อนไม่แคร์เขาอีกแล้ว เพราะหล่อนกำลังเนื้อหอม กำลังจะเป็นดารามีชื่อเสียงโด่งดัง เขากำลังจะกลายเป็นตัววุ่นวายสร้างความรำคาญให้แก่หล่อน คุณอภิชาติเองก็ยื่นคำขาดให้เขาเลือก พิบูลย์มาสอนให้ท่องบทสวด อัคนีก็ไม่มีสมาธิพอที่จะจำ ของดเรียน แต่แทนที่พิบูลย์จะกลับวัดกลับเดินตามหาฟ้าใสขึ้นมาถึงบนตึก ซึ่งเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง ชายหนุ่มสารภาพความรู้สึกที่มีต่อฟ้าใส แต่หญิงสาวขอให้เขาอย่าหักหลังลักษณ์สุดา พิบูลย์เข้าใจว่าฟ้าใสรู้เรื่องเขากับลักษณ์สุดาจากฉัตรโชคแน่นอน เพราะความที่กลัวว่าเขาจะได้ดีกว่า จึงเผ่นกลับวัด และทำร้ายฉัตรโชคโดยไม่ทันตั้งตัว ทั้งๆ ที่มีรูปร่างเหนือกว่าพิบูลย์ แต่ฉัตรโชคกลับข่มใจไม่ตอบโต้เพื่อนที่กำลังเข้าใจผิด ทั้งเขาและสุขุมปฏิเสธอย่างจริงจังว่าไม่เคยพูดเรื่องนี้กับฟ้าใสทั้งที่อยากพูดใจจะขาด อัคนีขับรถมาด้อมๆ มองๆ ที่กองถ่ายภาพยนตร์ซึ่งกำลังถ่ายทำฉากพิศวาสอยู่ในห้องนอน ทรายเห็นเขาตั้งแต่ลงจากรถ จึงยกน้ำเข้าไปเสริ์ฟ อัคนีรับน้ำจากเด็กสาวโดยไม่ได้มีท่าทางชิงชังรังเกียจเหมือนคราวพบกันครั้งสุดท้ายที่วัด เจ้าหน้าที่กองถ่ายที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการถ่ายทำฉากรักร้อนแรงถูกกันให้ออกมาอยู่ด้านนอกจนหมดเพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนสมาธิของนักแสดง อัคนีจึงแอบมองจากทางหน้าต่าง ภาพกึ่งเปลือยของคนรักที่กำลังถูกกอดจูบเฟ้นฟอนโดยบุรุษอื่น ทำให้อัคนีร้อนผ่าวไปด้วยความหวงแหน ชายหนุ่มวิ่งเข้าไปในห้องที่ใช้ถ่ายทำร้องตะโกนลั่น การทำงานต้องหยุดชะงักทันที อัคนีปราดเข้าไปลากพิมพ์จันทร์ออกมาจากฉากแต่หญิงสาวขัดขืนจึงเกิดการยื้อยุดกันขึ้น จนผู้กำกับหนุ่มต้องเข้ามาขวาง อัคนีประกาศตัวว่าเขาคือคนรักของพิมพ์จันทร์ แต่ถูกหญิงสาวปฏิเสธว่าเป็นแค่เพื่อนที่หลงใหลในตัวหล่อนและคอยตามตื้อหล่อนตั้งแต่อยู่เมืองนอก อัคนีนิ่งอึ้งตะลึงไปกับคำพูดตัดรอนอย่างเด็ดขาดของคนรัก หล่อนโกหกได้หน้าตาเฉยถึงความสัมพันธ์ที่เป็นยิ่งกว่าคู่รัก พิมพ์จันทร์เยือกเย็นมากจนทำให้อัคนีรู้สึกกลายเป็นคนโกหกเสียเองในสายตาของคนทั้งกองถ่าย อัคนีจึงถูกลากตัวมาทิ้งไว้ข้างรถของเขา หมดสภาพความเป็นลูกเศรษฐีผู้หยิ่งทะนง ทรายตามออกมาดูแลด้วยความสงสารเห็นใจแต่ถูกชายหนุ่มตวาดอย่างไม่ไยดีก่อนจะซมซานขับรถออกไปด้วยความเจ็บช้ำทิ้งให้เด็กสาวมองตามด้วยความเป็นห่วง แม้ปากจะปฏิเสธว่าไม่มีอะไรกับอัคนีแต่พิมพ์จันทร์ก็แอบมาเตือนทรายไม่ให้มาวุ่นวายกับชายหนุ่มผู้ซึ่งหล่อนคิดจะปรับความเข้าใจในภายหลัง อย่างน้อยหากหล่อนไม่สมหวังในเส้นทางสายนี้อย่างที่ฝันอัคนีก็ยังเป็นเสาหลักสุดท้ายที่ยินดีให้หล่อนเกาะ ด้วยความรักที่ชายหนุ่มมีต่อหล่อนอย่างท่วมท้น อัคนีใช้เหล้าเป็นเครื่องดับพิษรักแรงแค้น ฟ้าใสยุให้พี่ชายตัดใจจากพิมพ์จันทร์ แต่อัคนียังไม่สามารถทำใจได้ ฉัตรโชครับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากทรายและรู้ว่าลึกๆ แล้วเด็กสาวรู้สึกอย่างไรต่ออัคนี เหมือนกับเขาที่รู้สึกวูบวาบหวั่นไหวยามใกล้ชิดฟ้าใส หากฉัตรโชคมีสติและเจียมตนว่าเป็นแค่เด็กวัดจึงพยายามกันตัวเองออกห่าง ผิดกับพิบูลย์ที่พยายามจะเข้าใกล้ชิด ดิ้นรนเพื่อจะให้ได้มาในสิ่งที่หวัง สุขุมเริ่มไปทำงานบัญชีที่หอพักของคุณนายพรพรรณร่วมกับลักษณ์สุดาซึ่งมาเรียนรู้งานของมารดา เด็กสาวยังคงหาโอกาสพบพิบูลย์เพื่อเคลียร์เรื่องที่ยังคงค้างคาในหัวใจ จนได้พบพิบูลย์ในวันหนึ่งเมื่อตามแม่มาหาหลวงตาอิน และแล้วเยื่อใยสุดท้ายที่หล่อนคิดว่ายังคงเหลืออยู่ก็ขาดสะบั้น ลักษณ์สุดาแอบไปร้องไห้ใต้ต้นไม้หลังวัด สุขุมซึ่งแอบดูอยู่ตลอดเวลาก็ตามมาเพื่อปลอบใจและเป็นกำลังใจให้เด็กสาวลุกขึ้นสู้กับชีวิตต่อไป อกที่กลัดหนองด้วยพิษรัก ทำให้อัคนีไม่มีแก่ใจจะท่องจำอะไรทั้งสิ้น ฉัตรโชคพยายามจะเตือนสติชายหนุ่มให้นึกถึงความรู้สึกของผู้เป็นบิดาให้มากๆ แม้จะเป็นคนเอาแต่ใจก็จริงอยู่ แต่ลึกๆ แล้วอัคนีก็ไม่ใช่คนเลวร้าย บางครั้งก็นึกอยากจะทำอะไรดีๆ บ้าง เพียงแต่ขณะนี้เขากำลังเจ็บปวดเพราะความรัก เมื่อพิมพ์จันทร์โทร.มางอนง้ออัคนีจึงผละจากไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความอ่อนใจของฉัตรโชคและฟ้าใส ซึ่งคอยตามตอแยให้เขาหัวปั่นได้ตลอดเวลา ฟ้าใสอยากรู้นักว่าผู้ชายอย่างฉัตรโชคจะทำท่าเหมือนไม่แยแสหล่อนไปได้อีกสักกี่น้ำ พิบูลย์โผล่เข้ามาได้จังหวะพอดี ฟ้าใสจึงแกล้งชวนออกไปข้างนอก แต่ตลอดทางที่นั่งรถมาด้วยกัน พิบูลย์กลับริษยาฉัตรโชคยิ่งขึ้น เนื่องจากฟ้าใสแสดงความสนใจแต่เรื่องราวที่เกี่ยวกับฉัตรโชคล้วนๆ กิริยาอาการของพิมพ์จันทร์เปลี่ยนไปเมื่ออยู่ในที่รโหฐานสองต่อสองกับอัคนี แต่ชายหนุ่มก็รู้ว่ามีบางสิ่งเป็นกำแพงขวางกั้นระหว่างเขากับหล่อนเสียแล้ว ฉัตรโชคยังคงรออัคนีอยู่อย่างอดทน คุณอภิชาติลงมาคุยเป็นเพื่อน ฟ้าใสหมั่นไส้นักที่เห็นบิดาชื่นชมชายหนุ่มจนออกนอกหน้า นึกอยากจะทำทุกอย่างให้บิดาเห็นว่าฉัตรโชคเป็นผู้ชายธรรมดา ไม่ได้วิเศษวิโสไปกว่าใครๆ แต่ครั้งนี้หล่อนกลับเป็นฝ่ายถูกยั่วโทสะเสียเอง อัคนีกลับมาถึงบ้านในสภาพใจคอไม่ปกติจึงตวาดเสียงดังเมื่อเห็นฉัตรโชคยังรออยู่ แต่ชายหนุ่มไม่ยอมลงให้อีกแล้ว แม้คำพูดของเด็กวัดจะตรงเป้าและค่อนข้างรุนแรง แต่ก็มีเหตุผลพอที่จะทำให้อัคนีได้รู้คิด คุณอภิชาติจึงขอให้ดินมาสอนอัคนีทุกวันแทนที่จะสลับกับพิบูลย์เหมือนเคย คุณอภิชาติมากราบเรียนหลวงตาอินขอให้ฉัตรโชคไปสอนอัคนีทุกวัน หลวงตาผู้ชราไม่ถามถึงเหตุผลสักคำเดียว เนื่องจากเลี้ยงเด็กทุกคนมากับมือ ย่อมมองเห็นนิสัยใจคอของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ถึงแม้พิบูลย์จะหมดโอกาสได้ใกล้ชิดฟ้าใสอีกแต่ชายหนุ่มก็มั่นใจว่าจะเป็นผู้ชนะในเกมรักนี้แน่นอน หากเขาใจกล้าและหน้าด้าน ทรายยังคงทำหน้าที่เป็นพนักงานเสริ์ฟน้ำในกองถ่ายตามปกติแม้จะถูกพิมพ์จันทร์แกล้งเยาะเย้ยถากถาง หรือบางครั้งถูกนางเอกสาวสาดน้ำใส่ หากลับหลังคนอื่น ทรายก็จะสวนกลับเอาบ้างอย่างไม่กลัวเกรง อัคนีตามมาถึงกองถ่ายอีกครั้งเพราะข่าวนางเอกใหม่ใจถึงแอบกุ๊กกิ๊กกับผู้กำกับหนุ่ม พิมพ์จันทร์รีบบอกให้เขากลับไปรอที่บ้านก่อนที่จะกลับไปฉอเลาะกับ อาคม ผู้กำกับ แต่อัคนียังไม่กลับจึงเห็นภาพคนรักกำลังเล่นละครนอกบทกับอาคม ชายหนุ่มตรงเข้าไปกระชากพิมพ์จันทร์ออกมา แล้วเหตุการณ์ก็ดำเนินเหมือนครั้งที่แล้วไม่มีผิดเพี้ยน แต่คราวนี้ทรายออกมาเป็นพยานยืนยันความสัมพันธ์ของเขาและพิมพ์จันทร์อย่างเด็ดเดี่ยวโดยไม่กลัวว่าอาจต้องตกงาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงทำให้พิมพ์จันทร์ตัดขาดจากเขาเป็นแน่ ถึงจะโกรธที่ทรายออกมาวุ่นวายจนเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตแต่อัคนีก็ยังรู้สึกถึงความจริงใจที่เด็กสาวมีต่อเขาจึงยอมขับรถพาหล่อนไปส่งบ้าน แต่ด้วยอารมณ์อันขุ่นมัวของอัคนี ทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางจนคนทั้งสองหมดสติ อัคนีไม่บาดเจ็บมากนัก แต่ทรายยังไม่ได้สติ นางเรวดี นายสมภพพ่อเลี้ยงและฉัตรโชคคอยเฝ้าดูอาการ สมภพฉวยโอกาสเรียกร้องค่าเสียหายจากคุณอภิชาติ ซึ่งรับปากรับผิดชอบทุกอย่าง อัคนีเสียใจที่อารมณ์ชั่ววูบของตนเองทำให้ใครๆ หลายคนต้องเดือดร้อน โดยเฉพาะทราย เด็กสาวที่อยู่เคียงข้างเขายามอ่อนแอ ต้องการกำลังใจ คืนนั้นเขาจึงแอบเข้าไปเยี่ยมเด็กสาวตามลำพัง อัคนีจึงเป็นคนแรกที่ทรายลืมตาขึ้นมาเห็น พิบูลย์ได้ประจันหน้ากับอำนาจขณะมาพบฟ้าใส จึงเกิดการทักทายกันขึ้น พิบูลย์ได้รู้ว่าฟ้าใสทราบเรื่องของเขากับลักษณ์สุดาจากปากอำนาจนี่เอง พิบูลย์หัวเราะเยาะเมื่อเห็นอำนาจกลับออกมาจากบ้านคุณอภิชาติหลังจากเข้าไปชั่วเวลาไม่กี่อึดใจเพราะถูกหญิงสาวไล่ออกมาเช่นเดียวกับเขา ฟ้าใสไม่มีอำนาจหรือพิบูลย์อยู่ในสายตาเลย ฉัตรโชคต่างหากเล่าที่หล่อนต้องการเอาชนะ หล่อนจะต้องทำให้ผู้ชายคนนี้รักหล่อน และยอมก้มศีรษะให้หล่อนให้ได้ คุณอภิชาติเซ็นเช็คให้ห้าหมื่นบาทเป็นทุนการศึกษาของทราย โดยให้ไปเปิดบัญชีธนาคารร่วมกับมารดา การจะเบิกเงินทุกครั้งจะต้องมีลายเซ็นของเด็กสาวเป็นหลัก สำหรับพ่อเลี้ยงของทรายได้รับเงินแค่สองพันบาทด้วยความผิดหวัง ฟ้าใสโทร.ไปบอกพิมพ์จันทร์เรื่องอัคนีประสบอุบัติเหตุ แต่หญิงสาวไม่สนใจ ฟ้าใสโกรธจนพาลหาเรื่องทะเลาะกับฉัตรโชคอีกแต่ชายหนุ่มกลับเดินหนีไปดื้อๆ พิบูลย์ซึ่งตามมาทีหลังรีบเข้าสวมรอยอาสาขับรถให้ แต่ถูกบอกปัดอย่างไร้เยื่อใย ตั้งแต่มาทำงานกับคุณนายพรพรรณ สุขุมได้ปรับปรุงระบบบัญชีอันยุ่งเหยิงจากฝีมือของพนักงานคนเก่าให้เป็นระเบียบและง่ายต่อการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น สุขุมสามารถแก้ไขสารพัดปัญหาให้ลุล่วงผ่านพ้นไปได้ด้วยดีจนคุณนายพรพรรณรู้สึกพอใจในความขยันขันแข็งของชายหนุ่ม จึงไม่ขัดขวางเมื่อลักษณ์สุดาให้ความคุ้นเคยสนิทสนมกับสุขุมมากเกินปกติ แม้สุขุมจะเป็นเพียงเด็กวัดไร้สกุลรุนชาติแต่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นคนมีคุณภาพและคุณธรรมตามที่หลวงตาอินอุตส่าห์พากเพียรอบรมสั่งสอนตลอดเวลา สุขุมทำงานอย่างมีความสุข แม้จะเป็นงานเล็กๆ แต่เขาก็อบอุ่นในไมตรีจิตของสองแม่ลูก โดยเฉพาะลักษณ์สุดาซึ่งกำลังทำใจให้ลืมรักครั้งแรก เพราะหล่อนมีคนช่วยรักษาแผลใจ เพียงแต่เด็กสาวรอบคอบระมัดระวังมากขึ้น แม้จะมั่นใจในรักครั้งใหม่ที่มารดาไม่เคยขัดขวาง อัคนีได้ยินฟ้าใสเล่าให้มารดาฟังเรื่องที่โทร.ไปหาพิมพ์จันทร์ แต่ถูกปฏิเสธอย่างเลือดเย็น แค้นใจจนให้สัญญากับมารดาว่าจะตัดใจจากพิมพ์จันทร์ให้ได้ อัคนียอมรับว่าดูคนผิดและขอโทษบิดาที่หาแต่เรื่องเดือดร้อนมาให้ คุณอภิชาติตื้นตันใจที่เคราะห์ร้ายคราวนี้กลับกลายเป็นดี เขาได้ลูกชายคนใหม่ที่รู้ผิดชอบชั่วดีมาแทนทีคนเก่า กุฏิหลวงตาอินมีโอกาสต้อนรับแขกหน้าใหม่ คนนั้นคือ ดวง สาวใช้บ้านคุณอภิชาติ ดวงมาขอรดน้ำมนต์เพื่อล้างบาปที่เคยขโมยของคนอื่นจนทรายต้องเป็นผู้รับเคราะห์ ฉัตรโชคสังหรณ์ใจ จึงมาดักรอที่หน้ากุฎิ ดวงยอมสารภาพความจริงว่าเกิดจากความโลภเพียงวูบเดียวและตอนนี้นาฬิกาเรือนนั้นอยู่กับพิมพ์จันทร์ ทรายรับรู้เรื่องนี้ด้วยความโล่งใจ หล่อนพ้นมลทินแล้ว โดยเฉพาะกับอัคนี บุรุษที่หล่อนแอบหลงรักและชื่นชม ฉัตรโชคขอพบคุณอภิชาติตามลำพังที่บ้านของท่านเขาเรียนให้ท่านทราบตามที่ดวงสารภาพ พิมพ์จันทร์ยึดนาฬิกาไปเก็บไว้ โดยมีเจตนาจะใส่ร้ายทราย ฟ้าใสหลอกให้ฉัตรโชคขับรถพาไปซื้อของขณะที่คุณอภิชาติเล่าเรื่องดวงให้ภรรยาและลูกชายฟัง อัคนีผลุนผลันออกจากบ้านไปทันที ฟ้าใสแกล้งซื้อของมากมายให้ฉัตรโชคคอยหอบข้าวของพะรุงพะรังเดินตาม กรรมตามสนองเมื่อส้นรองเท้าเกี่ยวชายกระโปรงจนขาด และหล่อนก็เซล้มลงไปบนพื้นกลางห้างหรู โดยที่ฉัตรโชคไม่มีทางช่วยเหลือเพราะข้าวของเต็มมือ ชายหนุ่มช่วยพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้น เพราะฟ้าใสมีอาการเจ็บข้อเท้า เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองมีโอกาสใกล้ชิดขนาดถูกเนื้อต้องตัวกัน ฟ้าใสใจเต้นแรงจนอยากจะร้องกรี๊ด หล่อนอยากเอาชนะเขา แต่สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ใจตัวเอง ฉัตรโชคเองก็ใช่จะสงบ ใจของเขาแทบจะโลดแล่นออกมานอกอก แต่เขาต้องไม่ฉวยโอกาส ฉัตรโชคพยุงหล่อนไปจนถึงรถช่วยเหลือจนหล่อนเข้าไปนั่งจนเรียบร้อย ฟ้าใสเพิ่งรู้ใจตัวเองว่าเพราะเหตุใดหล่อนจึงอยากเอาชนะฉัตรโชคนักหนา แล้วตอนนี้หล่อนจะทำอย่างไรให้เขารู้ถึงความรู้สึกของหล่อนที่มีต่อเขา ฟ้าใสปล่อยให้ชายหนุ่มประคองหล่อนเข้าไปในบ้านท่ามกลางสายตาจ้องจับผิดของมารดา แต่คุณอภิชาติกลับมองอย่างสมหวัง และแน่ใจยิ่งขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวมีกิริยาเปลี่ยนไป อัคนีไปหาพิมพ์จันทร์เพื่อทวงนาฬิกาคืน ดุจเป็นการบอกลาความสัมพันธ์ชั่วนิรันดร แต่หญิงสาวปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นไม่ยอมรับว่าเป็นคนเก็บเอาไว้ อัคนีต้องล่าถอยออกมาเมื่ออาคมมาหาพิมพ์จันทร์ ชายหนุ่มแวะไปเยี่ยมทรายที่โรงพยาบาลเพื่อขอโทษในสิ่งที่แล้วมา เด็กสาวกลับเป็นฝ่ายปลอบใจเขาและรับปากจะเป็นเพื่อนเขาตลอดไป อัคนีขอเริ่มต้นใหม่ด้วยตกลงใจบวช คุณอภิชาติปลื้มใจจนน้ำตาซึม หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เมื่อฉัตรโชคมาสอนให้ท่องบทสวด อัคนีก็ขยันท่อง ทำให้ก้าวหน้าและเรียนรู้ได้เร็ว ฟ้าใสยังคงใช้แผนเดิมโดยขอให้ชายหนุ่มขับรถพาไปซื้อของ หญิงสาวไม่ได้ต้องการเอาชนะเขาอีกแล้ว แต่อยากให้เขารู้ว่าหล่อนรู้สึกต่อเขาอย่างไรมากกว่า ฉัตรโชคยอมขับรถให้ฟ้าใส แต่กลับพาไปที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ของคุณอภิชาติ ไปแอบดูการทำงานของผู้เป็นบิดาว่าเหน็ดเหนื่อยเพียงใดกับการบริหารงานให้ธุรกิจยังคงอยู่ได้ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ทั้งหมดก็เพื่อลูกทั้งสองที่ปล่อยให้ชีวิตผ่านไปวันๆ อย่างไร้ค่าเช่นหล่อนและพี่ชาย คุณอภิชาติเต็มตื้นไปด้วยความยินดี เมื่อฟ้าใสจะไปช่วยที่โรงงาน มิหนำซ้ำยังหันไปชวนพี่ชายให้ไปด้วยกัน อาการตื่นเต้นดีใจของบิดามารดาทำให้หญิงสาวนึกเสียใจที่ทำตัวไร้ค่ามานานนม คุณอภิชาติไปกราบหลวงตาอินเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงของลูกชาย หญิงในทางที่ดี ก็เพราะฉัตรโชคเป็นผู้ชี้แนะ ชายวัยกลางคนขออนุญาตให้ฉัตรโชคไปช่วยงานที่โรงงาน พิบูลย์แอบได้ยินด้วยความริษยาที่ใครๆ ก็ชื่นชมยินดีในตัวฉัตรโชค แต่ชายหนุ่มปฏิเสธเพราะบริษัทที่เขาไปสมัครงานไว้เรียกตัวเขาไปทดลองงาน ซึ่งคุณอภิชาติเองก็ไม่อยากบังคับใจแต่ไม่วายชักชวนให้เขากับสุขุมย้ายไปอยู่บ้านหลังเล็กที่ท่านเคยให้ฝรั่งเช่า เนื่องจากเด็กกำพร้าทุกคนเมื่อมีงานการทำเป็นหลักฐานแล้ว ต้องออกไปอยู่นอกวัด เป็นการเปิดทางให้เด็กกำพร้ารุ่นใหม่ได้เข้ามาแทนที่ ฉัตรโชคนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับสุขุม จึงถูกแซวเรื่องฟ้าใส ชายหนุ่มตกลงใจจะไปอยู่ที่บ้านหลังเล็กของคุณอภิชาติ แต่ขอจ่ายค่าเช่าให้ท่านตามสมควร บรรยากาศในกุฎิของหลวงตาอินดูจะหม่นมัว สุขุมเกือบน้ำตารินเมื่อเขากับฉัตรโชคกราบลาหลวงตาผู้มีอุปการะคุณมาตั้งแต่น้อยคุ้มใหญ่ ออกมาเผชิญชีวิตนอกวัด แม้จะไม่ได้ไปไหนไกล แต่ก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์ไม่น้อย หลวงตาอวยพรให้เจริญรุ่งเรือง เหลือพิบูลย์เพียงคนเดียวที่กำลังมองหาบ้านเช่าและเริ่มทำงานในบริษัทใหญ่ที่สุดในประเทศอาทิตย์หน้า แม้นิสัยใจคอจะแตกต่างกันสุดขั้วแต่ทั้งสามก็วิ่งเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ความผูกพันอันเป็นสายใยที่เหลืออยู่ฉัตรโชคจึงออกปากชวนพิบูลย์ให้ไปอยู่ด้วยกัน แต่คนอย่างพิบูลย์ไม่ยอมให้ฉัตรโชคมาเป็นเจ้าบุญนายคุณ และจะต้องยืนหยัดให้ได้ด้วยตัวเอง จึงปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย อำนาจไม่คาดคิดเลยว่าฉัตรโชคจะกลายเป็นม้ามืด เป็นตาอยู่ที่แอบมาคว้าพุงปลาไปกินอย่างเอร็ดอร่อยจนอำนาจจะรอช้าไม่ได้อีกแล้ว เขาต้องหาทางเอาตัวฟ้าใสมาเป็นของเขาโดยเร็วที่สุด ภาพยนตร์ที่พิมพ์จันทร์แสดง ออกฉายในโรงภาพยนตร์ และถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบอย่างกว้างขวางในแทบทุกสื่อ โดยเฉพาะตัวนางเอก ซึ่งนอกจากจะแสดงไม่เก่งแล้ว นอกจอก็ยังเป็นผู้หญิงเจ้าชู้ มั่วทั้งพระเอกรูปหล่อและผู้กำกับหนุ่ม พลอยทำให้หนังไม่ประสบความสำเร็จ ชายหนุ่มทั้งสองต้องเสียชื่อจนไม่กล้าเข้าใกล้พิมพ์จันทร์ อัคนีไม่รู้สึกอะไรกับข่าวคาวของอดีตคนรักอีกแล้ว ยิ่งใกล้บวชใจก็ยิ่งสงบ ฟ้าใสโมโหปึงปังเมื่อไปชวนฉัตรโชคไปดูภาพยนตร์ที่พิมพ์จันทร์แสดงแต่ชายหนุ่มไม่ไป อำนาจก่อเรื่องขึ้นอีกเพราะไปลวนลามผู้หญิงในหอพัก คุณนายพรพรรณยินยอมจ่ายค่าเสียหายดีกว่าจะให้เรื่องถึงโรงพัก อำนาจสัญญาจะเป็นคนดีหากมารดาไปสู่ขอฟ้าใสมาให้ แต่คุณนายก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ลูกชายจึงยื่นคำขาดจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ฟ้าใสมาเป็นเมีย เขาตรงไปหาฟ้าใสขณะไม่มีใครอยู่บ้านอาสาไปเป็นเพื่อนดูภาพยนตร์ หญิงสาวยอมนั่งรถออกไปกับเขาเพราะอยากประชดฉัตรโชค ไม่สังหรณ์ใจเลยว่ากำลังจะเข้าตาจนเพราะทิฐิของตัวเอง สุขุมมาทันเห็นรถของอำนาจแล่นออกไป ฉุกคิดถึงคำพูดของพี่ชายลักษณ์สุดาขึ้นมาได้ จึงเล่าให้ฉัตรโชคฟัง ชายหนุ่มรีบขึ้นรถแท็กซี่ตามไปทันทีโดยไม่ได้สังเกตว่าพิบูลย์แอบได้ยินการสนทนาของเขากับสุขุมทุกถ้อยกระทงความ การจราจรอันติดขัดในกรุงเทพฯ เป็นใจให้ฉัตรโชคตามมาจนทันอำนาจขณะขับรถไปในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่งที่ไม่ใช่ทางลัดไปโรงภาพยนตร์ ฟ้าใสรู้ตัวว่าหล่อนกำลังเล่นกับไฟ หล่อนดิ้นรนต่อสู้เมื่อถูกอำนาจลวนลามปลุกปล้ำกระชากเสื้อผ้าจนขาดวิ่น และทำร้ายหญิงสาวจนหมดสติ ฉัตรโชคตามมาทันพอดีจนเกิดการต่อสู้กับอำนาจ ในที่สุดอำนาจก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้หมอบราบคาบ แต่ก่อนที่ฟ้าใสจะฟื้นคืนสติขึ้นมาดูว่าใครเป็นผู้ช่วยเหลือหล่อน ฉัตรโชคก็ต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจากการที่ศีรษะถูกตีอย่างแรงโดยฝีมือของพิบูลย์ ฟ้าใสยังคงหมดสติเมื่อพิบูลย์อุ้มหล่อนเข้ามาในบ้าน ทุกคนมองชายหนุ่มอย่างซาบซึ้งในวีรกรรมครั้งนี้รวมทั้งฟ้าใส ฉัตรโชคเซซังกลับมาให้สุขุมทำแผล พร้อมกับโล่งใจที่ฟ้าใสกลับถึงบ้านโดยปลอดภัย แม้จะยังไม่รู้ตัวคนที่ลอบทำร้ายเขาก็ตาม ครอบครัวคุณอภิชาติยกโขยงไปหาคุณนายพรพรรณ ซึ่งรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้วจากปากของลูกชาย หัวอกผู้เป็นแม่ชอกช้ำยิ่งนักจากการกระทำของลูกรัก คุณอภิชาติแม้จะขุ่นเคืองเพียงใดก็พยายามใช้ธรรมะเข้าข่ม เรื่องจึงยังไม่ทันถึงตำรวจ อำนาจสำนึกผิดและยอมบวชเรียนตามข้อเสนอของคุณอภิชาติที่เชื่อว่าเด็กที่ผ่านการอบรมเลี้ยงดูจากหลวงตาอินจะเป็นคนดีมีศีลธรรม ฉัตรโชคและสุขุมงุนงง เมื่อได้ยินว่าพิบูลย์คือคนที่ตามไปช่วยฟ้าใส แทนที่จะเป็นเขาซึ่งกำลังเจ็บตัว ฟ้าใสยอมออกไปข้างนอกกับพิบูลย์เนื่องจากซาบซึ้งในบุญคุณของเขาและอยากให้ฉัตรโชคเห็นว่าหล่อนไม่ง้อเขาก็ได้ ฉัตรโชคปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นมั่นใจว่าพิบูลย์ คือคนที่ลอบทำร้ายเขาแน่นอน ซึ่งก็ตรงกับความเห็นของสุขุม แต่ฉัตรโชคขอให้เงียบเสียเพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด สุขุมเล่าเรื่องนี้ให้ลักษณ์สุดาฟังเพราะคนที่จะยืนยันได้ว่าฉัตรโชคเป็นคนช่วยฟ้าใสก็คืออำนาจ ฉะนั้นเมื่อพิบูลย์มาส่งหญิงสาวที่บ้านก็พบคนในครอบครัวของคุณอภิชาติรออยู่แล้ว ความลับทั้งมวลจึงถูกเปิดเผย พิบูลย์โกรธแค้นเพราะคิดว่าฉัตรโชคทำลายความฝันของเขาจนพังพินาศ จึงไปดักรออยู่ที่วัดเพราะรู้ว่าชายหนุ่มจะเข้าไปปรนนิบัติหลวงตาอินทุกเย็น ในมือของพิบูลย์มีมีดปลายแหลม โทสะ โมหะ ทำให้พิบูลย์ถึงกับคิดจะฆ่าเพื่อนได้ลงคอ แต่เสียงอันนุ่มนวลที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาของหลวงตาอินทำให้พิบูลย์ได้คิด เขาเกือบเสียอนาคตไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เขาพ่ายแพ้ต่อน้ำใจอันประเสริฐของฉัตรโชคจนยอมเอ่ยคำขอโทษเป็นครั้งแรก อัคนี ฉัตรโชค พิบูลย์และอำนาจ ตกลงใจที่จะบวชพร้อมกัน พิมพ์จันทร์หวนกลับ มาหาอัคนีอีกครั้ง แต่หล่อนพบว่าหล่อนได้สูญเสียชายคนรักให้แก่เด็กสลัมคือทรายเสียแล้ว ความเจ็บปวดผิดหวังทำให้พิมพ์จันทร์พูดเรื่องนาฬิกาที่หล่อนเก็บไว้ด้วยความสะใจ ขณะนี้คุณอภิชาติ คุณหญิงนัยนาและคุณนายพรพรรณมีความสุขมากกว่าใครในโลก ด้วยแน่ใจว่าบรรดาลูกๆ จะก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความรอบคอบ มีสติและมีศีลธรรมประจำใจ อัคนีหรือหินคู่กับทราย ฟ้าใสคู่กับฉัตรโชคหรือดิน ชีวิตใหม่กำลังจะเริ่มต้น และจะดำเนินต่อไปด้วยความรักและความดีที่อยู่ในใจของแต่ละคน นักแสดง รับบทเป็น อนุชิต สพันธุ์พงษ์ ฉัตรโชค หรือ ดิน เอมี่ กลิ่นประทุม ฟ้าใส หรือ ฟ้า พาทิศ พิสิฐกุล อัคนี หรือ หิน คีตภัทร อันติมานนท์ ทราย สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ สุขุม วิภาดา รัตตกุญชร ลักษณ์สุดา เจจินตรัย อันติมานนท์ พิบูลย์ ศิวัส นฤภัย อำนาจ วันชัย เผ่าวิบูล คุณอภิชาติ เทพยุดา ศรียาภัย คุณหญิงนัยนา ชัชฎาภรณ์ ธนันทา พิมพ์จันทร์ กุสุมา โพธิ์ศรี นุชจรินทร์ คนางค์ ดำรงหัด คุณพรพรรณ สุภัค ปิติธรรม หลวงตาอิน บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ อาคม วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง นางเรวดี นฤทัย จันทร์ประดิษฐ์ ดวง ชาลี กรรณสูต สมภพ ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |