วัยฝัน วันรัก <4 Dvd> โดย เจนนิเฟอร์ + ภคิน โพธิ์ปริสุทธิ์,ชโนทิศ ราชุรัชต

Channel 3 :วัยฝัน วันรัก


วัยฝัน วันรักบทโทรทัศน์ กันตา นิจอนงค์กำกับการแสดง ชินวิทย์ รุจิโกไศยนำแสดงโดย1. เจนนิเฟอร์ โปลิตานนท์ แสดงเป็น บุ้งกี๋2. ภคิน โพธิ์ปริสุทธิ์ แสดงเป็น ทิว3. ชโนทิศ ราชุรัชต แสดงเป็น ม่อน4. ตระการ พันธุมเลิศรุจี แสดงเป็น ครูปอง5. พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ แสดงเป็น หญิงบิ๋วออกอากาศ ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00 น. ช่อง 3เรื่องย่อในวันประกาศผลสอบโควต้าของมหาวิทยาลัยต่างจังหวัด เถ้าแก่ทั้งเจ๊กิมเฮงพร้อมด้วยลูกๆ ต่างก็แห่กันไปดูจนมี เสียงบ่นด่าว่าคนในครอบครัวนี้ยืนแผ่ซะเต็มบอร์ด จนกระทั่งคนอื่นไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ดู แต่กระนั้นก็ยังขาดสมาชิกคน หนึ่งในครอบครัวไม่นั้นก็คือ ม่อน ( ชโนทิศ ราชุรัชต ) ทั้งที่ม่อนนั้นเป็นเจ้าของผลสอบแท้ ๆ แต่ตัวม่อนกลับไปเตะ บอลอยู่กับนักเรียนรุ่นน้อง แต่แล้วผลการสอบก็ออกมาปรากฏว่าม่อนสอบโควต้าไม่ติด ซึ่งทุก ๆ คนในบ้านต่างก็ให้กำลัง ใจด้วยการแนะนำให้ม่อนไปเรียนกวดวิชาและเอ็นเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ก็ได้ ความที่ม่อนอยากจะเข้ากรุงเทพฯ อยู่แล้วจึงตกลงไปตามนั้นส่วนทิว ( ภคิน โพธิ์ปริสุทธิ์ ) นั้นรอจนคนเริ่มชาไปแล้ว ทิวจึงเข้าไปดูซึ่งกว่าจะเจอรายชื่อของตัวเองก็ค่ำพอดี ทำให้วันนั้นทิวกลับบ้านค่อนข้างมืด ละออแม่เลี้ยงจึงแกล้งด่าว่าต่าง ๆ นา ๆ จนทิวไม่ค่อยพอใจนักและเกิดความคิดที่ จะหนีปัญหาโดยการเข้าเรียนกรุงเทพฯ อีกอย่างคือทิวเชื่อมั่นในตัวเองมาก กว่าถ้าได้เรียนกวดวิชาเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ตนเองจะสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแข่งกับเด็กกรุงเทพฯ ได้อย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อปรึกษเรื่องนี้กับครูเทียม ครูเทียมก็เห็นดีด้วย หากแต่ละออซึ่งแอบฟังอยู่นั้นได้เข้ามาโต้แย้งสารพัด โดยเฉพาะเรื่องงาน ทิวจึงตัดสินใจออกจาก บ้านเข้ากรุ่งเทพฯ ด้วยเงินเพียงไม่มากนัก หวังจะไปทำงานเอาดาบหน้า ซึ่งนอกจากการจะเข้ากรุงเทพฯแล้ว ทิวกับม่อน ยังมีสิ่งที่เหมือนกันอยู่อีกอย่างนั่นก็คือภาพในอดีตเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงผมเปียกระโปรงสีชมพู ใจดีน่ารัก โดยทิวนั้นเจอ เด็กผู้หญิงคนนี้และประทับใจเพราะเจ้าหล่อนใจดี แบ่งขนมที่ทิวอยากกินแต่น้าละออไม่ยอมซื้อให้ ให้แก่ทิว ส่วนม่อน นั้นเจอเด็กผู้หญิงคนนี้ในขณะที่ม่อนกำลังช่วยคุณยายแก่ ๆ ที่ทำของตกเก็บของอยู่ เด็กหญิงคนนี้ก็วิ่งเข้ามาช่วยด้วย อีกแรงโดยที่ทั้งคู่ต่างก็ไม่รู้ว่าต่างก็คิดถึงเด็กผู้หญิงคนเดียว แต่ต่างก็รู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้กำลังจะเดินทางไปกรุงเทพฯ ในวันนั้นทั้งทิวและม่อนจึงนั่งรถไฟเข้ากรุงเทพๆด้วยความหวังว่าอาจจะได้เจอกับเด็กหญิงน่ารักคนนั้นอีกครั้ง ระหว่าง ทางที่นั่งมาในรถไฟ ม่อนทนไม่ไหวที่จะเห็นนักเลงเจ้าถิ่นขูดรีดสตางค์จากเด็กเร่ขายของ ม่อนจึงเข้าไปช่วยเด็กไว้ กลุ่มนักเลงไม่พอใจจึงหันมาจะรุมทำร้ายม่อน ดีว่าได้ทิวช่วยไว้ทั้งสองจึงช่วยกันหลอกล่อจนทำให้กลุ่มนักเลงตกรถไฟ ทั้งสองจึงรอดพันในที่สุด ด้วยเหตุนี้เองหลังจากไต่ถามความเป็นมาของกันและกันแล้ว ม่อนจึงจัดสินใจชวนทิวไปอยู่ บ้างแต่ก็ดีกว่าไปร่อนเร่อยู่ในกรุงเทพฯ บนรถไฟขณะที่ม่อนกำลังหลับเพลิน ๆ ด้วยความเหนื่อย มีกระเป๋าสัมภาระ จำนวนมากร่วงใส่มาตรงที่ม่อนนอนพอดี ม่อนโมโหมากโวยวายจนคนตื่นมากันทั้งโบกี้ ปรากฏว่ากระเป๋ามากมายเหล่า นั้นล้วนมีเจ้าของคนเดียวคือสาวหน้าใสคนหนึ่ง ความที่ม่อนกำลังง่วงจึงโวยวายไปโดยไม่ทันสังเกตถึงความน่ารัก ของเจ้าหล่อน ในขณะที่ทิวนั้นนึกชอบขึ้นในทันทีจึงพยายามไกล่เกลี่ยให้ เรื่องจึงสงบ จนรถไปมาถึงหัวลำโพง ทิวกับ ม่อนยังได้ช่วยสาวน้อยคนนี้ขนสัมภาระจำนวนมากมายลงจากรถ ทั้ง ๆ ที่ตัวพี่เลี้ยงที่มาด้วยกันกับสาวน้อยนั้น ดูจะ กีดกันเอาเรื่อง ทั้งสองจึงยังไม่ทันจะได้รู้ว่าสาวน้อยคนนั้นชื่ออะไร จนวันที่มาสมัครเรียนที่โรงเรียนกวดวิชา ม่อนและ ทิวจึงได้เจอสาวคนนั้นอีกครั้ง และก็ได้รู้ว่าเธอชื่อ บุ้งกี้ ( เจนนีเฟอร์ โปลิตานนท์ )อยู่มาวันหนึ่ง บุ้งกี๋ถูกวินมอเตอร์ไซค์กระชากกระเป๋า ทิวกับม่อนมาเจอเข้าพอดีจึงตามไปช่วยไว้ได้ แต่จากเหตุ การณ์นี้ทำให้ทั้งสามเข้าห้องเรียนไม่ทันจึงถูกทำโทษให้ยืนกางแขนกระต่ายขาเดียวหน้าห้อง หลังจากถูกทำโทษ บุ้งกี๋ จึงเริ่มรู้สึกดี ๆ ด้วยและหันมาพูดกับทิวกับม่อน ต่อมาทั้งสามจึงเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ทิวพยายามจึบบุ้งกี๋โดยมีม่อน คอยช่วย ในขณะที่ม่อนกับบุ้งกี๋นั้นดูจะเป็นไม้เบื่อไม้เมาที่คอยเถียงกันบ่อย ๆ แต่ม่อนก็ยังคอยช่วยทิวกับบุ้งกี๋อยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องจิ้มลิ้มพี่เลี้ยงที่ม่อนจะคอยดักทางแกล้งให้จิ้มลิ้มหลงทางกับบุ้งกี๋ จนบุ้งกี๋กับทิวสามารถคุยกันตาม ลำพัง หรือแม้กระทั่งเรื่องที่ทิวต้องหาเลี้ยงตัวเองด้วยการทำงานพิเศษ ม่อนกลัวว่าบุ้งกี๋กับจิ้มลิ้มจะดูถูกทิวจึงออก อุบายให้ทิวดูเป็นคนรวย และตนเองก็ทำตัวจนเป็นคนทำงานพิเศษแทนทิวซะเอง ทำให้ทิวซึ้งน้ำใจเพื่อนที่คอยช่วยติว แนะนำม่อนเรื่องการเรียนเสมอ จนม่อนมีมานะพยายามที่จะเอ็นติดให้ได้ระหว่างนี้ทั้งสามได้รู้จักและสนิทกับอาจารย์ปอง ( ตระการ พันธุมเลิศรุจี ) ซึ่งอาจารย์ก็ได้เห็นความตั้งใจเรียน จึงได้ช่วยเด็กทั้งสามหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นคนช่วยหางานพิเศษให้ทำ หรือช่วยติวเพิ่ม ส่วนอาจารย์เองก็แอบชอบแม่ ของบุ้งกี๋ คือ หญิงบิ๋ว ( พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ ) ทิว ม่อน และบุ้งกี๋จึงมักจะวางแผนหาเรื่องป่วนให้อาจารย์ปอง กับหญิงบิ๋วต้องคุยกันบ่อย ๆเมื่อถึงวันประกาศผลเอ็นทรานซ์ ทิวกับบุ้งกี๋เอ็นติดมหาวิทยาลัยชื่อดังที่เดียวกันสมใจ แม้ว่าจะติดกันคนละคณะ ทิว ติดนิเทศ ในขณะที่บุ้งกี๋ติดบัญชี ส่วนแฟรงค์ก็ติดรัฐศาสตร์ ทำให้แฟรงค์ตามไปละลานกับบุ้งกี๋ได้อีก คนเดียวที่ไม่ติด อะไรเลยคือม่อน แต่ม่อนก็ไม่เสียใจ เพราะคิดว่ายังไงตนเรียนรามฯ ก็ได้ ทุกอย่างทำท่าว่าจะไปได้ด้วยดี ความรักของ อาจารย์ปองกับหญิงบิ๋วทำให้ทิวกับบุ้งกี๋เริ่มคบกันได้เปิดเผยขึ้น หญิงบิ๋วยอมรับทิวได้มากขึ้นเพราะเห็นว่าเป็นเด็กดีมี อนาคตแล้วทิวก็ถูกแฟรงค์แกล้ง แฟรงค์เปิดเผยฐานะที่แท้จริงของทิวให้หญิงบิ๋วรู้ว่าจริง ๆ แล้ว ทิวเป็นคนจน ต้องทำ งานพิเศษหาเงินเรียนเอง หญิงบิ๋วรู้เข้าจึงตั้งข้อรังเกียจ ทำให้ทิวมุมานะพยายามที่จะสอบเป็นนักเรียนทุนในโครงการ ของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอผลิตหนังยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯให้ได้ แล้วทิวก็ทำได้ อาจารย์ปองจึงใช้จุดนี้ชี้แจงให้หญิงบิ๋ว เข้าใจ จึงทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่แฟรงค์ก็ยังไม่วางมือ พยายามจับตัวบุ้งกี๋ ทิวกับม่อนจึงตามไปช่วยและจากเหตุการณ์นี้ เองที่ม่อนยอมเสี่ยงตัวเองเข้าช่วยบุ้งกี๋ จนถึงขนาดตัวเองต้องเข้าโรงพยาบาล บุ้งกี๋รู้สึกขอบใจม่อน บอกกับม่อนว่าม่อน เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ชั่วขณะหนึ่งม่อนแสดงแววตาที่เสียใจมากหลังจากวันนี้มา ทิวกับม่อนสามารถเข้ามาในคฤหาสน์ของหญิงบิ๋วได้ดังใจ ทำให้ทั้งทิวและม่อนต่างก็รู้ว่าเด็กหญิงผม เปีย กระโปรงสีชมพูที่ตนเคยเจอในอดีตนั้นคือบุ้งกี๋นั่นเอง หากแต่ม่อนนั้นเก็บเรื่องไว้ในใจเงียบ ๆ ไม่ยอมปริปากบอก ใคร ต่อมาเมื่อก้าวขึ้นปี 2 ทั้งทิวและบุ้งกี๋ต่างก็เรียนหนักขึ้น จนแทบจะไม่มีเวลาให้กัน ในขณะที่ม่อนนั้นไม่ค่อยไปเรียน พยายามจะเอาดีในเรื่องการเป็นนักแต่งเพลง จึงมีเวลามากกว่า บุ้งกี๋มาที่คอนโดทีไรก็มักจะเจอม่อนบ่อย ๆ ประกอบกับ ระยะนี้บุ้งกี๋มักจะถูกแพรว ดาวมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่คณะเดียวกันแกล้งเอาบ่อย ๆ จึงมักจะมาปรึกษากับม่อน ซึ่งก็ได้รับ ความสบายใจกลับไปทุกครั้งขณะที่ทิวตอนนี้ได้เป็นผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรง ชื่อดังที่สุดคนหนึ่งของวงการ มีงานต่างวิ่งเข้ามาหาทิวมากมาย จน วันหนึ่งทิวได้ไปรับงานเป็นผู้กำกับมิวสิคให้ค่ายเพลงค่ายหนึ่งที่ม่อนเอาเพลงไปเสนอขาย ทิวแอบได้ยินม่อนคุยเรื่อง การเงินของตนเองกับโปรดิวเซอร์ ทิวจึงได้รู้ความจริง และเมื่อทิวเอาเพลงที่ม่อนแต่งกลับมาฟัง ทิวจึงเข้าใจทุกอย่าง ทิวไปหาบุ้งกี๋เพื่อขอโทษและขอคืนดี จากนั้นทิวกับบุ้งกี๋พากันมาหาม่อนแต่พบว่าม่อนยังไม่กลับ ทิวจึงบอกว่าพรุ่งนี้เลิก จากกองถ่ายมิวสิคแล้วจะมาหาม่อนอีกที ปรากฏว่าในระหว่างถ่ายงานแฟรงค์ซึ่งมารับหน้าที่เป็นพระเอกในครั้งนี้ ได้ วางแผนติดสินบนเจ้าหน้าที่เอฟเฟ็คว่าปืนที่ใช้ถ่ายทำจะใช้ปืนจริง และจะแกล้งทำปืนลั่นใส่ทิว ม่อนรู้เรื่องนี้เข้าโดย บังเอิญ จึงตามมาเพื่อแก้ไขเหตุการณ์ แต่ขณะที่ม่อนมาถึงก็ช้าไปแล้ว แฟรงค์ลั่นไกแล้ว ม่อนจึงตัดสินใจเอาตัวรับ กระสุนแทนทิว ก่อนที่ม่อนจะหมดลม ม่อนขอให้ทิวสัญญาว่าจะรักและซื่อสัตย์กับบุ้งกี๋ตลอดไป ซึ่งทิวก็สัญญาก่อน หมดลมม่อนได้ฝากโบว์สีชมพูดเส้นหนึ่งไปคืนให้บุ้งกี๋ พอบุ้งกี๋เห็นเข้าก็จำได้ว่า โบว์เส้นนี้เธอเคยให้เด็กผู้ชายใจดีชอบ ช่วยเหลือคนคนหนึ่งไว้ บุ้งกี๋ได้แต่ร้องไห้ไม่นึกว่าม่อนจะพกมันติดตัวไว้ตลอดเวลา ในที่สุดทิวก็ได้แต่งงานกับบุ้งกี๋ และ งานเดียวกันนี้เอง อาจารย์ปองก็ได้แต่งงานกับหญิงบิ๋ว แฟรงค์ถูกจับฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา