เจ้าของร้านค้านี้ ไม่ได้เข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลา 25 วัน แล้ว
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
บทบาท อารยา ละครเรื่อง "ดวง" ในละครเรื่อง "ดวง" อารยา เอ ฮาร์เก็ต รับบทเป็น "พิม" หญิงสาวเข้มแข็ง ผู้ที่คอยให้ความช่วยเหลือ และคอยอยู่เคียงข้างพระเอกเสมอ ชมพู่ บอกว่า ด้วยอานุภาพของรักแท้ที่มีต่อ "ดวง" จึงทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นค่ะ ความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร ติดตามชมละครเรื่อง "ดวง" เสนอให้ชมเป็นตอนแรก วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 18.45 น.
บทประพันธ์ เปี๊ยก โปสเตอร์ ประสานงานการผลิตโดย ฐากร วงษ์สัจจะ (รัญญ์ เมืองลพ) บทโทรทัศน์ นภาพล/อมรศรี กำกับการแสดงโดย ประยูร วงษ์ชื่น นพพล ภูวดล .....เด่นดวงอารยา เอ ฮาร์เก็ต....พิมพ์พรรณกระรอก เชิญยิ้ม ....จิรกร (กอน)ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี ....นีน่าเรื่องย่อเด่นดวง (พระเอก) เด็กหนุ่มหน้าตาดีจากชนบท หลังจากเรียนจบช่างยนต์ที่วิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่ง ก็กลับไปอยู่บ้านในสภาพคนตกงาน ดวงกำพร้าแม่มาแต่เด็ก "นายดอน" ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นชาวไร่พยายามส่งเสียให้เรียนจนจบ ได้ไปสมัครงานที่อู่ซ่อมรถยนต์พร้อมกับจิรกร (กอน) เพื่อนที่เรียนจบมาด้วยกัน แต่ถูกนายจ้างเจ้าของอู่กดราคาค่าจ้างที่ต่ำกว่าแรงงานคนที่มีความรู้แค่ระดับ ป.6 แต่ดวงกับเพื่อนก็จำใจทำเพราะงานหายาก อีกอย่างเพื่อต้องการเรียนรู้และหาประสบการณ์พระธุดงค์รูปหนึ่ง ไปปักกลดพักที่ชายป่าบริเวณใกล้หมู่บ้าน ชาวบ้านไปกราบไปทำบุญกัน พระธุดงค์รูปนั้นเทศนาจนชาวบ้านพากันศรัทธานำมาพูดต่อๆ กัน กอนได้ชวนดวง และนายดอนพ่อของดวงไปทำบุญในวันต่อมา คนทั้งสามไปถึงตอนว่างคนพอดี ขณะที่ดวงก้มกราบพระธุดงค์ พระธุดงค์เหลือบเห็นลักษณะมือของดวง จึงขอให้หงายดุ แล้วท่านก็พูดว่าดวงมีมือเรียวแบบศิลปิน หลังจากนั้นท่านเอาดวงราศรีวันเดือนปีเกิดของดวงมาตรวจดู แล้วท่านทำนายว่า ดวงมีชะตาต้องด้วยเมืองใหญ่ และต้องทำมาหากินเกี่ยวกับศิลปะ การแสดง หรือการร้องเต้นถึงจะดีและต่อไปจะมีชื่อเสียงโด่งดัง แล้วท่านก็เอาชื่อของดวงมาตรวจอักษรดูความเป็นมงคลเดิมดวงมีชื่อเต็มว่า "เต็มดวง" พระธุดงค์บอกว่า ชื่อนั้นไม่ดีให้ตัดออกคงเหลือแต่ดวงอย่างเดียวพอ เพราะเลขสาม คือเลขมงคลของดวง ชื่อก็ควรจะมีอักษรไม่เกินสามตัว และไม่ควรมีสระหรือวรรณยุกษ์บนล่าง เพราะดวงเกิดวันจันทร์ สระวรรณยุกต์บนล่างเป็นกาลกิณีเมื่อรู้ว่าพระธุดงค์ดูดวงได้ กอนก็ขอให้ดูให้เขาด้วย พระธุดงค์ตรวจดวงของกอนแล้วบอกว่า กอนเป็นคนที่มีดวงนารีอุปถัมภ์ ต่อไปจะสบายเพราะผู้หญิง ดวงไม่ค่อยเชื่อเรื่องนั้นเท่าไหร่ แต่กอนฝังใจเชื่อเลยเมื่อกลับจากกราบพระธุดงค์แล้ว กอนก็ดีอกดีใจใหญ่ ยุให้ดวงออกจากหมู่บ้าน ไปเสี่ยงโชคในเมืองใหญ่ เพื่อจะได้ดีในเมืองใหญ่ตามคำทำนาย ดวงเป็นห่วงพ่อ ซึ่งอยู่คนเดียวมานาน แต่กอนด้างว่า เมื่อมีเงินมีทองก็ส่งมาให้ ดวงจึงยอมตกลงไปเสี่ยงโชคที่กรุงเทพฯในวันที่ดวงกราบลาพ่อเพื่อเข้ากรุงเทพฯ นายดอนพูดเชิงเตือนว่า ไม่มีที่ไหนจะอบอุ่นและดีเท่ากับบ้านเราหรอกไอ้ดวง ถ้าเอ็งไปได้ดีก็อย่าลืมบ้านเกิด แต่ถ้าลำบากก็ให้กลับมาบ้านเรา"ที่กรุงเทพฯ กอนกับดวงพบว่า เหตุการณ์ไม่ได้เป็นไปดังหวัง ทุกอย่างวุ่นวายเกินคาดหมาย กอนกับดวงไปเช่าห้องแถวถูกๆ ห้องหนึ่งอยู่ ระหว่างนั้นก็หางานไปเรื่อย แต่ไม่มีใครรับเข้าทำงาน จนเงินทองที่ติดตัวมาเริ่มร่อยหรอ และหมดลงในที่สุด ถนอมกับดวงลำบากถึงขนาดไม่มีอะไรจะกิน กอนรับผิดชอบจะออกไปหางานหาข้าวให้ดวงเอง เพราะว่าตัวเขาที่ยุให้ดวงตามมากรุงเทพฯวันนั้นกอนหางานจนอ่อนใจ หิวก็หิว ในที่สุดก็ไปหยุดพักในวัดแห่งหนึ่ง เห็นแม่ชีกำลังกวาดขยะ แม่ชีจะเอาถังขยะไปทิ้งไม่มีแรงพอ กอนเห็นจึงเสนอตัวเข้าไปช่วยลากถังขยะให้ แต่พอเทขยะเสร็จ กอนเกิดเป็นลมเพราะหิวจัด แม่ชีช่วยพยาบาล พอกอนฟื้นก็ได้เล่าความจริงให้ฟัง แม่ชีสงสาร จึงเขียนจดหมายฝากงานให้ โดยให้ไปพบน้องสาวของนาง ซึ่งเป็นเจ้าของคณะลิเก ที่มาเปิดวิกเล่นอยู่ในตลาดสดแห่งหนึ่ง กอนจึงไปหา และได้งานทำเป็นคนช่วยขนเครื่องดนตรีของลิเก ได้เงินมาพอหาซื้อข้าวปลายังชีพต่อไปได้ดวงทนลำบากอยู่ต่ออีกระยะหนึ่งก็ตัดสินใจจะกลับบ้านนอก เพราะประจักษ์แล้วว่าเมืองหลวงไม่เหมาะกับเขา แต่กอนรั้งตัวไว้ โดยอ้างคำทำนายของพระธุดงค์ กอนบอกว่าพระธุดงค์เคยทำนายว่าตนมีดวงนารีอุปถัมภ์ ก็เห็นไหมล่ะยามลำบากที่สุดก็ได้แม่ชีมาช่วย แม่ชีเป็นผู้หญิง แสดงว่า ดวงเขาเขานารีอุปถัมภ์จริงๆ เมื่อพระธุดงค์ทำนายดวงของเขาถูก ของดวงก็ต้องไม่ผิด แต่ดวงไม่ฟังตัดสินใจกลับบ้านนอก เมื่อกอนรั้งไม่อยู่ก็ยอมให้ดวงกลับบ้านคนเดียว โดยรวบรวมเงินที่มีทั้งมหดให้ดวงเป็นค่ารถและค่าอาหารบนรถ กอนตามไปส่งดวงที่สถานีรถไฟ แต่เมื่อดวงได้ตั๋วแล้วกำลังเอาใส่กระเป๋าเงิน นำเงินได้รับจากกอนมานับเพื่อจะคำนวนค่าอาหาร หัวขโมยคนหนึ่งเห็นดวงกำลังนับเงินคิดว่าในกระเป๋าคงมีเงินเยอะ จึงฉกเอาไป ดวงกับกอนไล่ตามไม่ทัน ประกอบกับรถไฟเที่ยวนั้นกำลังจะออกจากสถานี ดวงกับกอนได้แต่ยืนเฝ้ามองรถไฟที่วิ่งออกจากสถานีห่างตาออกไปเรื่อยๆ จนลับตา ดวงกับกอนเดินคอตก ด้วยความท้อแท้ในโชคชะตา เดินมาที่ถนนหน้าสถานีเห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดเสียอยู่ ด้วยความที่ดวงเป็นคนมีน้ำใจจึงแวะถาม จึงได้ความว่า แท็กซี่กำลังเสียเจ้าของรถชื่อ "ลุงรอด" ดวงอาสาจะช่วยแก้ไขรถให้ ด้วยความที่เขารู้เรื่องเครื่องยนต์ดี จึงซ่อมรถให้ลุงรอดได้เป็นปกติได้อย่างรวดเร็วซ่อมรถเสร็จ ลุงรอดถามว่าต้องการค่าจ้างเท่าไหร่ ดวงบอกว่าตนไม่ต้องการ ตนเพียงอยากช่วยเท่านั้น ลุงรอดบอกว่า คนกรุงเทพฯ ที่มีน้ำใจอย่างดวงหาได้ยากจริงๆ ดวงบอกว่าตนไม่ใช่คนกรุงเทพฯ แต่เป็นคนต่างจังหวัดมาหางานทำในกรุงเทพฯ แต่ยังหางานทำไม่ได้ กำลังจะกลับบ้าน แต่โชคร้ายถูกฉกกระเป๋าทั้งเงินและตั๋วติดไปในนั้น จึงไม่มีค่ารถกลับบ้าน ลุงรอดเลยรู้ว่าดวงกำลังตกอับ จึงชวนขึ้นรถไปด้วยกัน ระหว่างที่นั่งไปในรถ ลุงรอดจึงบอกดวงว่า ตัวแกขับแท็กซี่เป็นงานอดิเรกเท่านั้น แกมีงานประจำอยู่ที่สตูดิโอแห่งหนึ่งแล้วแกก็ถามดวงอีกหลายเรื่อง ดวงก็เล่าให้ฟังตามความเป็นจริง ลุงรอดจึงรู้ว่าดวงกำลังตกงาน ก็อยากจะช่วยเหลือ และนึกขึ้นได้ว่า สตูดิโอ ที่แกทำงานอยู่กำลังต้องการคนงานบริการทั่วไป และช่วยยกของ จึงเสนองานนั้นให้ดวง ดวงตอบรับทันที ทั้งที่ไม่ทราบว่าสตูดิโอเป็นยังไร และงานที่ต้องทำยากง่ายเพียงใดลุงรอดพาดวงกับกอนแวะไปที่บ้านของแกเป็นไม้ 2 ชั้นเก่าๆ ชั้นล่างทำเป็นร้านอาหารตามสั่งใกล้กับตึกห้องบันทึกเสียง "เจ๊อ้อย" เมียของแกเป็นเจ้าของร้านมีนางสายบัวเป็นแม่ครัวคู่ใจ เจ๊อ้อยกับลุงรอดมีลูกเพียงคนเดียว เป็นผู้หญิง ชื่อ "พิมพ์พรรณ" หรือ "พิมพ์" (นางเอก) ซึ่งกำลังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตร ลุงรอดพาดวงไปเลี้ยงข้าวที่ร้านของแก ดวงมีโอกาสได้รู้จัดกับพิมพ์จากการแนะนำของลุงรอดว่าพิมพ์เป็นลูกสาว ดวงยิ้มทักแนะนำชื่อพร้อมกับกอน เจ๊อ้อยมองดูดวงกับถนอมด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจนักที่เห็นเป็นคนบ้านนอก หลังจากนั้นลุงรอดได้พาไปฝากให้ทำงานที่สตูดิโอดวงดีใจมากที่จะได้งานทำ กอนบอกว่าเห็นไหมล่ะ ชีวิตคนเราก็ต้องเป็นไปตามดวง ดวงอดทนต่อไปเถอะ อีกหน่อยก็คงจะร่ำรวยจากชื่อเสียงเหมือนที่พระธุดงค์ทำนายไว้วันรุ่งขึ้นดวงจึงไปทำงานที่สตูดิโอ เขาตื่นเต้นมากที่ได้เจอนักร้องดังๆ ที่เขาชื่นชอบในผลงานเพลง ซึ่งมาอัดเพลงที่นั่น ดวงได้ทำหน้าที่ช่วยทำความสะอาด และช่วยจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ในห้องอัดตามคำสั่งของลุงรอดที่ห้องอัด ดวงได้มีโอกาสพบกับนักร้องดังที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ คือ "เกรียง กรุงไกร" ดวงอยากเอาใจนักร้องขวัญใจของเขาจึงขออนุญาตลุงรอดเอาน้ำไปเสิร์ฟ ด้วยความดีใจจนทำให้ดวงตกประหม่าทำน้ำหกรดเกรียงไกร จนเกรียง ซึ่งมีนัดต่อกับแฟนสาว อารมณ์เสีย ต่อว่าลุดรอดแรงๆ ฐานที่ปล่อยให้เด็กไม่รู้งานมาคอยดูแลเขา "นายบรรเลง" ผู้จัดการห้องอัด ซึ่งสนิทกับลุงรอดมาแต่หนุ่ม เข้าใจลุงรอดดี และรู้นิสัยจอมยโสของเกรียงดี จึงเพียงได้แต่ตำหนิลุงรอดกับดวงพอเป็นพิธีลุงรอดเห็นดวงพักอยู่ไกลจากที่ทำงาน จึงได้ชวนให้ย้ายมาเช่าห้องใกล้ๆ กับร้านของแก ดวงเห็นด้วยจึงได้ชวนกอนมาอยู่ด้วยกัน กอนก็ไม่ขัดข้องทั้งคู่จึงย้ายมาเช่าห้องใกล้ๆ ร้านค้าป้าอ้อยลุงรอดทางด้านกอนซึ่งทำงานอยู่กับคณะลิเกของนางวิไล ต่อมาที่วงลิเกพระเอกเกิดขัดใจกับเจ้าของคณะลาออกไปอยู่คณะอื่น นางวิไลจำต้องหาตัวแทน ไปหาใครก็ไม่มีใครมา หนสุดท้ายมองเห็นว่ากอนพอมีแวว จึงจับกอนฝึกร้องรำลิเก แล้วให้แสดงเป็นพระเอก ปรากฏว่ากอนทำได้ดีเกินคาด เพราะเป็นความชอบในใจเขาอยู่แล้ว คณะลิเกของนางวิไลจึงดังเปรี้ยงขึ้นมา มีผู้คนนิยมกันมาก มีแม่ยกมาติดมากมาย กอนกลายเป็นพระเอกเนื้อหอมขึ้นมาทันที ต่อมาเขาจึงขอย้ายแยกไปอยู่ต่างหาก ปล่อยให้ดวงอยู่ในห้องพักคนเดียว แต่ก็รับปากว่าจะส่งเงินมาช่วยค่าเช่าทางด้านดวง เมื่อมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ ร้านเจ๊อ้อยลุงรอด ก็มีโอกาสได้พบกับพิมพ์ พิมพ์เห็นกริยาอาการแบบติ๋มๆ ขี้อายของดวง ก็ชอบ แอบรักดวงเงียบๆ ดวงเองก็มีใจให้กับพิมพ์แต่ไม่กล้าแสดงออกเพราะกลัวเจ๊อ้อย ซึ่งพูดอยู่เสมอว่า หมอดูได้ทำนายทายว่า พิมพ์จะต้องได้คู่ครองที่ร่ำรวย เจ๊อ้อยจึงสนับสนุนให้ลูกสาวคบกับผู้ชายที่มีฐานะร่ำรวย ผู้ชายจนห้ามมายุ่งกับพิมพ์เด็ดขาด เพราะนางกับสามีจะได้สบายเสียที ทำงานงกๆ ส่งลูกเรียน ก็เพื่อหวังจะได้สบายในตอนแก่ ดวงรู้ว่าตัวเองมีปมด้อยเรื่องฐานะและการงานจึงไม่อาจเอื้อม ส่วนพิมพ์ก็พยายามแสดงน้ำใจกับดวง เช่น เวลาตักข้าวให้ดวง เธอจะจงใจตักให้คราวละมากๆ พิเศษกว่าลูกค้าคนอื่น โดยมีสายบัวรู้เห็นเป็นใจด้วยกับพิมพ์ บางครั้งเห็นดวงลำบากก็เสนอให้ยืมเงิน โดยไม่ไห้พ่อแม่รู้"นีน่า" นักร้องดังหุ่นเซ็กซี่ มักมีเรื่องฉาวโฉ่อยู่เสมอๆ เพราะชอบให้เด็กหนุ่มเป็นเครื่องเล่น มาอัดเพลงที่หัองอัดที่ดวงทำงานอยู่ ได้มีโอกาสเจอดวง เห็นว่าดวงหน้าตาใสสะอาด และดูซื่อ จึงทอดสะพานให้ พาดวงไปกินข้าว พาไปท่องราตรี สัมผัสความบันเทิงในกรุงเทพฯ แล้วจบลงบนเตียง ทำให้ดวงคิดว่า นีน่าดีกับเขาเพราะรักเขา ดวงจึงรักและเทิดทูนนีน่ายิ่งนัก และระหว่างนั้นก็เริ่มห่างหายไปจากพิมพ์ ทำเอาพิมพ์เงียบเหงาไปในวันที่ดวงไม่ได้มากินข้าวที่ร้าน เจ๊อ้อยจับได้ว่าลูกสาวมีใจรักดวงจากคำบอกเล่าของสายบัว จึงกำชับกับพิมพ์ว่าให้ตั้งใจเรียน และไม่ควรมีใจกับดวง เพราะดวงไม่มีความมั่นคงในชีวิต พิมพ์ก็รับปากไปเป็นแกนๆเจ๊อ้อย เป็นคนเชื่อหมอดูอย่างงมงายจะทำอะไรก็ต้องพึ่งหมอดูเป็นสำคัญ วันๆ ก็เสียเวลากับหมอดูไม่ใช่น้อย มีหมอดูที่ไหนดี แกก็จะไปหา แล้วนำคำทำนายมาทำตาม จนร้ายแกต้องเปลี่ยนมุมตั้งสินค้า จนลูกค้าตาลาย เจ๊อ้อยมีเพื่อนฝูงที่ล้วนแต่หลุ่มหลงในเรื่องคำทำนายและบ้าหวยขึ้นสมอง เพราะแต่ละคนอยากจะรวยทางลัด จึงถูกหมอดูหลอกเอาบ้าง เจอหมอดูจริงบ้าง แต่ไม่ว่าจริงหรือไม่จริง กลุ่มป้าอ้อยก็จะทำตามหมอดูแนะนำอย่างเคร่งครัดทางด้านดวงระหว่างที่คบกับนีน่าก็ยังคงไปทำงานที่ห้องอัดตามปกติ จนต่อมานีน่าได้นำ "ครรชิต" คู่ขาเก่านักการพนันตัวฉกรรจ์เข้ามาในบ้าน ดวงเห็นก็แปลกใจสอบถามดู นีน่าไล่ดวงออกจากบ้านและสั่งไม่ให้มายุ่งกับเธออีก ดวงทำใจไม่ได้ พยายามถามว่าตัวเขาผิดอะไร แต่ก็ถูก "ชิต" จับโยนออกจากบ้านนีน่า ดวงกลับไปทำงานที่ห้องอัดอย่างเศร้าสร้อย ระหว่างนั้นได้มีโอกาสพบตาแก่คนหนึ่ง ซึ่งกำลังจะมาพบผู้จัดการห้องอัดแกเมาจัดจนขึ้นชั้นบนไม่ไหว ด้วยความที่เคารพในผู้อาวุโสกว่า ดวงจึงช่วยพยุงแกขึ้นไป แล้วพาไปหาผู้จัดการ ผู้จัดการให้การต้อนรับชายคนนั้นอย่างดี ดวงแปลกใจจึงถามกับลุงรอด ลุงรอดจึงเล่าให้ฟังว่า ชายชราคนนั้น คือ "แมน เมืองราช" นักเขียนเพลงชื่อดัง คนที่ปลุกปั้นนักร้องให้โด่งดังก้องฟ้ามานับจำนวนไม่ถ้วน คนล่าสุดก็คือ "เกรียง กรุงไกร" ดวงแปลกใจว่าทำไมคนที่มีชื่อเสียงขนาดนั้น จึงมีสภาพเป็นชายขี้เมา และทรุดโทรมเช่นนั้น ลุงรอดเล่าให้ฟังว่า เพราะแมน เมืองราช ทุ่มเงินไปกับการปั้นนักร้องคนล่าสุดคือ เกรียง กรุงไกร แต่ถูกเกรียงทรยศ จนแมน หมดทรัพย์สินไปมาก แมนเสียใจมาก จนติดเหล้าเสียผู้เสียคน มิหนำซ้ำเกรียง กรุงไกร ยังกลั่นแกล้ง โดยการบีบไม่ให้มีคนซื้อเพลงของครูแมน และเขายื่นคำขาดว่าไม่ยอมร่วมงานกับคนที่ร่วมงานกับครูแมน ครูแมนจึงถูกปล่อยให้โดดเดี่ยว ขอเงินลูกศิษย์ที่ยังภักดีเลี้ยงชีพไปวันๆ "นายบรรเลง" ผู้จัดการห้องอัดแห่งนี้ ก็คือหนึ่งในบรรดาลูกศิษย์ของครูแมน ที่แอบคอยช่วยเหลือครูแมนเอาเพลงมาเสนอขายบรรเลง บรรเลงนำเพลงไปเสนอ "นายห้างมงคล" เจ้าของบริษัทเพลง และเจ้าของห้องอัดแห่งนั้น นายมงคลอยากได้เพลงของครูแมน เพราะกำลังจะทำเทปชุดใหม่ให้เกรียง กรุงไกรอยู่พอดี แต่รู้ว่าหากเกรียงรู้ว่า เป็นผลงานเพลงของครูแมน ก็คงจะไม่ยอมร้องให้ จึงเสนอให้บรรเลงเจรจากับครูแมนขอซื้อเพลงแต่เอาไปใส่ชื่อคนอื่นได้ไหม ครูแมนไม่มีทางออกจึงต้องยอม บรรเลงเองก็เสียใจมาก แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากกว่านั้น เพราะช่วงนั้น ชื่อเสียงของเกรียง กรุงไกร กำลังโด่งดังมาก ใครๆ ก็ต้องยอมตามใจเขาทางด้านดวง เมื่อผิดหวังกับนีน่าก็เก็บมาอัดอั้น จนต่อมาขณะที่เก็บของก็ร้องเพลงโปรดระบายออกมาเพลงนั้นเป็นผลงานเพลงของครูแมน ซึ่งขณะนั้นครูแมนมาพบนายบรรเลง นั่งคุยกันเสร็จออกมาเข้าห้องน้ำได้ยินเสียงร้องของดวง ถึงกับตะลึง ยืนแอบฟังเงียบ จนดวงร้องจบ จึงออกไปพบ แล้วครูแมนก็ได้คุยกับดวง ถามดวงว่าชอบร้องเพลงหรือ ดวงบอกว่าชอบ ครูแมนถามว่าอยากเป็นนักร้องไหม ดวงบอกว่าตนคงจะไม่มีวาสนาแค่ได้มาทำงานในห้องอัดก็เกินวาสนาตัวแล้ว ครูแมนชอบในความอ่อนน้อมถ่อมตนของดวงจึงไปคุยกับบรรเลงว่าจะเขียนเพลงให้ดวงร้อง ให้บรรเลงหาทางสนับสนุน บรรเลงไม่แน่ใจ แต่ก็รับปากว่าจะลองคุยกับนายห้างให้ดู ปรากฏว่านายห้างมงคลไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าการไปร่วมงานกับครูแมนอย่างเปิดเผยจะทำให้เกรียง กรุงไกร ตัดสัมพันธ์ทางการค้าเอาได้ บรรเลงเห็นใจครูแมน จึงพยายามหาทางช่วย โดยแอบให้ใช้ห้องอัดฟรี และช่วยควบคุมเสียงให้เอง ลุงรอดก็ช่วยด้วยอีกแรง ฝ่ายครูแมนฝึกให้ดวงร้อง และเอาเพลงมาให้ดวงบันทึกเสียงจนเสร็จ แล้วบรรเลงก็นำไปเสนอนายห้างอีกคนหนึ่ง ซึ่งกำลังมีเรื่องขัดใจกับเกรียง กรุงไกรพอดี เพราะเกรียงไปแย่งผู้หญิงของเขาเข้า "นายห้างปัญญา" ได้ฟังเสียงร้องของดวงก็ชอบทันที รับปากจะปลุกปั้น นายห้างปัญญาทำตามที่พูด เขาทุ่มเงินเชียร์เพลงของดวง ปรากฏว่าเพลงของดวงโด่งดังขึ้นมาเหมือนปาฏิหาริย์ ดวงมีชื่อเสียงภายในพริบตา ผลงานเพลงของแมน เมืองราช ก็ได้รับการยอมรับอีกครั้ง ดวงมีความกตัญญูเลี้ยงดูครูแมนอย่างดี ส่งเงินกลับไปให้พ่อที่ต่างจังหวัด และติดต่อไปมาหาสู่กับกอน ซึ่งขณะนั้นได้เป็นพระเอกลิเกขวัญใจแม่ยกไปแล้วเมื่อดวงมีชื่อเสียงมีเงินทอง เจ๊อ้อยก็เริ่มมองเห็นความดี เริ่มส่งเสริมให้มีสัมพันธ์กับพิมพ์ ดวงก็เห็นความสำคัญของพิมพ์มากขึ้น เพราะว่าระหว่างที่เขาต้องซ้อมเพลง เตรียมทำเทปก่อนจะดังต้องพึ่งพิมพ์ในหลายเรื่อง พิมพ์แอบจัดข้าวปลาอาหารให้ทั้งเผื่อครูแมนและตัวดวงเอง พร้อมกับคอยจุนเจือเรื่องเงิน โดยที่เจ๊อ๊อยไม่รู้ เธอยอมอดอาหารกลางวันที่วิทยาลัย เพื่อเก็บเงินใส่กระปุกมาช่วยดวง เมื่อดวงได้ดีจึงเห็นน้ำใจเธอ ยอมให้เธอดูแลเรื่องเงินๆ ทองๆ ให้ เจ๊อ้อยขอยืมเงินดวงก้อนหนึ่งเพื่อเอาไปปล่อยกู้ แต่วิธีการปล่อยกู้ของแกต้องพึ่งหมอดู คือให้ดูหมอทำนายดวงคนจะกู้ว่าจะโกงหรือไม่ จะให้กู้วันไหนบ้าง งดวันไหนบ้าง จนคนที่กู้ฉลาดแอบไปติดสินบนหมอดู บางคนแกล้งสร้างหมอดูปลอมขึ้นมาแล้วมากู้เงินเจ๊อ้อย แล้วไม่ใช้คืนป้าอ้อยเสียหายไปเยอะ ไม่มีเงินคืนดวง แต่ดวงก็ยกให้ เจ๊อ้อยยิ่งเห็นความสำคัญของดวงดวงมีชื่อเสียงโด่งดังแซงหน้าเกรียง กรุงไกรไปอย่างรวดเร็ว เขาได้รับความนิยมจากแฟนเพลงอย่างล้นหลาม จนผู้สร้างภาพยนตร์ละครต้องมาจ้างให้ไปแสดง เพื่อเพิ่มปริมาณผู้ชม ดวงมีรายได้มหาศาล ให้พิมพ์เป็นผู้ดูแล ด้านการเงินและคิวการแสดง พิมพ์พยายามเอาเงินของดวงไปทำให้เกิดประโยชน์ระยะยาว เพราะรู้ว่าสักวันหนึ่งเมื่อดวงไม่มีชื่อเสียงแล้ว ก็จะได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่งมั่นคงทางด้านนีน่า ตกหลุมพรางที่ครรชิต แมงดาหน้าอ่อนวางไว้ ชิตหลอกเอาเงินไปจนเกือบหมดตัว ชื่อเสียงก็เริ่มตก ครรชิตเห็นว่านีน่ามีประโยชน์กับดวง ครรชิตจึงวางแผนให้นีน่ากลับไปคืนดีกับดวง ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของนีน่าทำให้ดวงซึ่งเป็นคนซื่อเห็นใจ และคิดจะตอบแทนในคุณงามความดีแต่หนหลัง จึงยอมรับสัมพันธ์กับนีน่า ระหว่างนั้นพิมพ์ทราบเรื่องก็เสียใจมาก งอนไม่ยอมคุยด้วย ดวงไม่มีเวลาอธิบายถึงเหตุผลที่ช่วยเหลือนีน่า พิมพ์ก็น้อยใจ จึงมีเรื่องขัดแย้งกัน จนพิมพ์มอบเงินในการดูแล และคิวงานการแสดงให้ดวงไปจัดการดูเองทางด้านนีน่าก็หาทางผูกมัดดวง โดยแกล้งทำตัวให้เป็นข่าว นัดดวงมอมเหล้าแล้วพาไปนอนด้วย ครรชิตโทรแจ้งเรียกนักข่าวมาถ่ายรูปไปลงข่าว จนดวงต้องรับผิดชอบนีน่าระหว่างนั้นพิมพ์เกิดอาการหน้ามืดไปหาหมอ หมอตรวจพบว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ เธอกำลังจะไปบอกข่าวดีกับดวงแต่เกิดได้เห็นข่าวเรื่องดวงกับนีน่าเสียก่อน จึงตัดสินใจปิดเรื่องไว้ แต่กลัวว่าเมื่อท้องโตขึ้นมาพ่อแม่จะอับอายชาวบ้าน ครั้นจะเอาเด็กออกก็ทำใจไม่ได้ พิมพ์คิดหนักหนสุดท้ายก็เอาสถานที่บ้านพ่อของดวงมาดู เพราะดวงให้ส่งเงินให้พ่อเป็นประจำ พิมพ์คิดว่าควรจะไปซ่อนตัวที่บ้านพ่อดวง เพราะอย่างน้อยก็ควรจะให้ลูกเกิดมาในความดูแลของปู่แทนพ่อ พิมพ์ตัดสินใจเขียนจดหมายลาพ่อแม่ทิ้งไว้ แล้วหนีไป ไม่บอกว่าไปไหนทางด้านดวงเมื่อคิดได้กลับมาหาพิมพ์ แต่ได้รับคำบอกจากสายบัวว่าพิมพ์ไปอยู่บ้านเพื่อน แต่ก็ไม่รู้บ้านเพื่อนอยู่ที่ไหน ดวงเสียใจมาก นีน่าฉวยโอกาสเข้าปลอบ และรับอาสาจะดูแลคิวงานดูแลผลประโยชน์ให้เอง ดวงไม่มีทางออกจึงให้นีน่าเข้ามายุ่งเกี่ยวในชีวิต นีน่าฉวยโอกาสเบียดบังเอาผลประโยชน์ของดวง แล้วแอบถ่ายเทต่อไปให้ครรชิตอีกทีทางด้านพิมพ์ เมื่อไปหานายดอนพ่อของดวง ก็เล่าความจริงให้ฟัง นายดอนจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เคยส่งเงินมาให้ตลอด และได้ทราบข่าวของดวงกับนีน่าอยู่บ้าง จึงขอให้พิมพ์อยู่ที่บ้าน แต่เขาจะไม่บอกว่าพิมพ์เป็นเมียของดวง เพราะตอนนั้นชาวบ้านกำลังชื่นชมดวง ไม่อยากให้ชาวบ้านรังเกียจดวงในเรื่องทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบ นายดอนจึงแกล้งบอกชาวบ้านว่า เขาขายที่ดินให้กับพิมพ์ ซึ่งมาจากกรุงเทพฯ เพื่อจะเอาไปทำไร่องุ่น พิมพ์เริ่มทำมาหากินตามความรู้ที่เรียนมาพิมพ์ได้ใช้ความรู้ทางการเกษตรเข้าช่วยชาวบ้าน โดยการรวมกลุ่มชาวบ้านสร้างผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรขึ้นมา ให้ช่วยส่งเสริมสินค้า OTOP ของกลุ่มชาวบ้าน เธอได้ไปขอความช่วยเหลือจาก "วันชัย" ซึ่งเป็นปลัด อบต.ของตำบลนั้นวันชัยเป็นเพื่อนรักของดวง เคยเรียนหนังสือด้วยกัน แต่ไม่ได้เจอกับดวงมาหลายปีแล้ว ตอนนั้นวันชัยมีคนรักอยู่แล้วชื่อ "น้ำฝน" ซึ่งเป็นครูสอนเด็กเล็กอยู่ในหมู่บ้านนั้น แต่เมื่อวันชัยได้เจอกับพิมพ์ กลับรู้สึกทึ่งในความสามารถและกลายเป็นความรักเงียบๆ วันชัยเสนอตัวช่วยเหลือพิมพ์ทุกอย่าง จนกระทั่งพิมพ์คลอดลูกเป็นชาย นายดอนเห็นความสนิทสนมระหว่างพิมพ์กับวันชัย ก็เริ่มใจคอไม่ดี ครั้นจะบอกวันชัยตามความเป็นจริงก็จะเป็นการผิดข้อตกลง ได้แต่เก็บเรื่องนั้นไว้ในใจเรื่อยมาส่วนน้ำฝนก็ชื่นชมในความสามารถของพิมพ์ แต่เมื่อจับได้ว่าวันชัยคนรักของเธอมีใจให้ ก็ได้แต่น้อยใจและพยายามทำดีให้วันชัยเห็น เมื่อมีโอกาสวันชัยสารภาพความจริงกับพิมพ์ แต่พิมพ์ก็บอกตามความเป็นจริงว่า เธอเคารพนับถือวันชัยในฐานะเพื่อนหรือพี่ชาย คงจะเปลี่ยนความรู้สึกอย่างอื่นไม่ได้ โดยเฉพาะเธอทราบอยู่ว่าวันชัยเป็นคนรักของน้ำฝน และน้ำฝนก็เป็นหญิงสาวที่ดีมาก วันชัยควรจะเห็นความดีของเธอ วันชัยคิดได้กลับไปหาน้ำฝน น้ำฝนยิ่งเคารพยกย่องพิมพ์มากขึ้น ทั้งสามคนจึงเป็นมิตรที่ดีต่อกัน นายดอนก็คลายกังวลได้มากทางด้านกอน เป็นพระเอกลิเกนานๆ ก็เริ่มเบื่อ จึงคิดจะหาทางปักหลักสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ไม่อยากจะเร่ร่อนต่อไป เขาคุยกับนางวิไลตรงๆ ให้เวลานางวิไลหาพระเอกใหม่ ก็มีคนมาเสนอตัวเลี้ยงมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกแม่ยกแก่ๆ ที่ร่ำรวย เมื่อนางวิไลหาพระเอกใหม่ ก็มีคนมาเสนอตัวเลี้ยงมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกแม่ยกแก่ๆ ที่ร่ำรวย เมื่อนางวิไลหาพระเอกใหม่ได้ และฝึกซ้อมกันแล้วเสร็จ กอนตัดสินใจเลิกอาชีพลิเกโดยการยอมแต่งงานอยู่กินกับคุณชม้อย เศรษฐีนีแก่ๆ คนหนึ่ง ซึ่งทั้งชราทั้งขี้โรค กอนไปพบดวง บอกให้ดวงทราบว่าเขาเลิกเป็นพระเอกลิเกแล้ว และได้เมียรวย คิดว่าอีกไม่นานเขาคงจะได้เป็นเศรษฐีหม้ายที่รวยมาก เพราะว่าเมียเขาทั้งแก่ ทั้งขี้โรค และไม่มีทายาทรับมรดกนอกจากเขา ดวงก็ไม่ว่าอะไร แสดงความยินดีกับกอนด้วย แล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตอีก(ต่อ1) เรื่องย่อ ดวงThaiPR.net -- พุธที่ 15 มิถุนายน 2548 09:51:02 น.ทางด้านนายห้างมงคล เมื่อเห็นว่าดวงกำลังมีชื่อเสียงก็อยากได้มาร่วมค่ายเพลง แต่เมื่อเจรจาผ่านครูแมน ครูแมนไม่เอาด้วย เพราะว่านายห้างมงคลเคยปฏิเสธดวงและปฏิเสธผลงานเพลงของเขามาก่อน นายห้างมงคลเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย เมื่อรู้ว่า นีน่ามีอิทธิพลต่อดวงก็ติดต่อผ่านนีน่า แอบยัดเงินให้นีน่า จนนีน่าไปเกลี่ยกล่อมดวง ดวงไม่ยอม นีน่าก็มอมเหล้าดวง แล้วเอาสัญญาณไปให้เซ็นต์ ดวงเซ็นไปทั้งที่กำลังเมา จึงกลายเป็นว่าเขาเข้าไปร่วมค่ายกับนายห้างมงคลตามสัญญา แต่นายห้างปัญญาก็ฉลาดพอ จึงขู่ว่าหากใช้นาม "ดวง ดอกรัก" ซึ่งเป็นนามศิลปินในสัญญาของเขา เขาจะฟ้อง นายห้างมงคลเลยต้องเปลี่ยนชื่อดวงเสียใหม่ เปลี่ยนเป็น "เด่นดวง ศรีมงคล" ปรากฏว่าเทปชุดแรกพอไปรอด แต่ไม่หวือหวาเหมือนชุดก่อนๆทางด้านนีน่าเมื่อเล็งเห็นว่าดวงกำลังจะตกแล้วก็รียโกยเต็มที่ รับงานให้ดวงสารพัด ใช้ชื่อของดวงไปเที่ยวหลอกคนอื่น รับมัดเขาซ้ำซ้อน จนดวงเริ่มมีปัญหาเรื่องชื่อเสียงไม่ค่อยมีใครอยากจ้างให้ร่วมงาน ดวงเริ่มคิดมาหันเข้าพึ่งเหลา ระหว่างนั้นนีน่าก็แอบให้เซ็นต์เอกสารโอนทรัพย์สินต่างๆ ให้ ดวงก็เซ็นไปทั้งๆ ที่เมาเมื่อดวงได้สติ จะไปเบิกเงิน เอาทรัพย์สินของตัวเองปรากฏว่า กลายเป็นของนีน่าไปหมดแล้ว เมื่อทวงถามจึงได้ทราบว่า นีน่ากับชิตร่วมหัวกันหลอกลวงเขา ใช้แผนสารพัดในการโกงทรัพย์ไปจากเขา ดวงถูกไล่ออกจากบ้านอีกครั้ง เขาแค้นใจมาก ฮึดสู้ แต่ก็สู้แรงของชิตและพรรคพวกไม่ได้ ถูกพรรคพวกของชิตรุมทำร้ายเอาจนบาดเจ็บหนัก ถึงกับขาพิการ ครูแมนมารับไปส่งโรงพยาบาลและช่วยดูแล ดวงรู้ตัวเองผิดไปแล้วพยายามขอโทษทุกคน เขากลับไปลุงรอด เพื่อถามข่าวของพิมพ์ ลุงรอดบอกว่าพิมพ์หนีออกจากบ้านไปนานแล้ว ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน เจ๊อ้อยก็เกลียดดวงมาก ที่ทำให้พิมพ์ต้องทิ้งพ่อแม่หนีหายไป ดวงรับผิดทุกอย่าง กลับมาเลียแผลใจอยู่ที่บ้านครูแมนในสภาพคนพิการขาเป๋ ครูแมนให้กำลังใจต่างๆ นานา ดวงหมดตัวอีกครั้ง ไม่กล้ากลับไปบ้านกลัวอายชาวบ้าน จึงคิดถึงเพื่อนคือถนอม เพราะถนอมเคยพูดว่า จะไม่ทอดทิ้งกันไม่ว่าจะทุกข์สุขอย่างไรดวงไปตามหากอนที่บ้านแม่ยกเมียเศรษฐีแก่ของกอน หวังจะพึ่งเพื่อเป็นหนทางสุดท้าย แต่เมื่อถึงพบว่าที่บ้านคุณนายชม้อย กำลังมีงานศพ ดวงคิดว่าคงจะเป็นงานศพของนางชม้อย เพราะก่อนหน้านั้นเขาได้ข่าวว่านางชม้อยกำลังป่วยหนัก เขาคิดว่าคราวนี้กอนคงจะรวยสมใจแล้ว คงจะได้รับมรดกจากเมียมหาศาล แต่เมื่อเข้าไปในงาน และเมื่อดวงดูภาพที่หน้าโลงศพพบว่าเป็นภาพของกอน ชม้อยนั่งร่ำไห้ด้วยความเสียใจ และบอกสาเหตุที่กอนตาย เนื่องจากหัวใจวายดวงสิ้นหวัง แบกความช้ำใจมานั่งปลงอยู่ที่สถานีรถไฟสามเสน มีคนมาพบจำเขาได้ แต่เขาบอกว่า เขาเพียงหน้าตาเหมือนกับนักร้องชื่อดังคนนั้น ขณะที่นั่งที่สถานีรถไฟ มองรถไฟที่วิ่งผ่านไป ก็นึงถึงเหตุการณ์ตอนก่อนจะจากบ้านนอกมา นึกถึงคำพูดของพ่อที่ว่า "ไม่มีที่ไหนจะอบอุ่นเท่ากับบ้านของเรา ถ้าลำบากอย่างไรก็ให้คิดถึงบ้าน ให้กลับมาบ้าน"บนเส้นทางสายเดิมที่เขาได้จากมา สองข้างทางยังไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก มีก็แต่รถโดยสารคันที่เค้านั่งกลับมามันโตและทันสมัยขึ้น ถนนก็ไม่โขยกเขยกเป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนเดิม ฝุ่นที่เคยฟุ้งกระจายจนเค้าต้องเอาผ้าปิดจมูกก็ไม่มีแล้ว ร.พ.ช. ได้ราดยางให้ถนนทางเข้าหมู่บ้านราบเรียบสะดวกสบายขึ้น มันเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกับชีวิตของดวงในตอนนี้ เค้าจะกลับมาตายรังเมื่อรถจอด เพิงเล็กๆ ของป้าชุ่มใหญ่โตขึ้นถาวรขึ้นน้ำเขียวน้ำแดง น้ำขวดยังมีขายอยู่ในร้านมีโต๊ะนั่งอยู่สามสี่ตัว บนชั้นและเคาท์เตอร์อีกด้านหนึ่ง มีขวดไวน์พื้นบ้านและสินค้าโอทอปของท้องถิ่นวางเรียงรายอยู่ ป้าชุ่มบอกว่า "ไอ้ดวงเอ๊ย...เราไม่ยากจนเหมือนแต่ก่อนแล้ว เดี๋ยวนี้พวกเรารวมกลุ่มกันผลิตของขายเลี้ยงตัวเองได้ทุกคน"ดวงได้รู้จากป้าชุ่มว่า ไร่ของพ่อเค้าได้ถูกขายไปแล้ว และพ่อของเค้าได้ไปบวชเป็นพระอยู่วัดเล็กๆ บนภูเขา ดวงมองไปทางมือชี้ของป้าชุ่ม นั้นงัยที่ของเอง แต่มันไม่ได้ปลูกข้าวโพดเหมือนแต่ก่อนแล้วเราเพิ่มมูลค่าของที่ด้วยปลูกองุ่นไต่ตลาดขึ้นไปบนเนินจนจดเชิงเขา ป้าชุ่มยังบอกอีกว่า คนกรุงเทพฯ ที่มาซื้อที่ของดวง เป็นคนเก่งในเรื่องการแปรรูปสินค้าเกษตร เป็นหัวหน้ากลุ่มแม่บ้าน เป็นตัวตั้งตัวตีให้พวกเราได้ลืมตาอ้าปากได้อยู่ดีกินดีดวงเดินเลาะลัดไปตามไร่องุ่น อาศัยเงาของเถาองุ่นเป็นร่มเงากันแดด พวงองุ่นสีเขียวสีแดงสะพรั่งตาไปหมด ร่างของชายขาพิการเดินมาจนถึงปลายของแปลงองุ่น เค้ามองไปข้างหน้า บ้านสไตล์คันทรีน่ารักหลังเล็กๆ ปลูกอยู่บนเนินแทนบ้านหลังเก่าของเค้าเสียงของผู้หญิงตะโกนถามมาจากข้างหลัง "มาหาใครค่ะ" เค้าหันกลับไปร่างของหญิงคนหนึ่งที่จูงเด็กมองมาทางเค้า แสงตะวันที่ย้อนมาจากทางด้านหลังเธอ ทำให้ดวงมองไม่เห็นใบหน้าของเธอได้ถนัด ดวงสะท้อนใจตอบกลับไปว่า "เปล่าครับผมเห็นบ้านสวยดีเลยเข้ามาดู แล้วก็ก้มหน้าลากขาไป "ดวง" เสียงนั้นคุ้นหูมาก ดวงหยุดชะงักเหมือนต้องมนต์สะกด เค้าค่อยๆ หันไปช้าๆ เหมือนคนที่ตกอยู่ในความฝัน เธอเข้ามาใกล้ๆ จน...พิมพ์นั้นเอง เสียงเด็กที่เงยหน้ามองพิมพ์ "ใครคะแม่" ชีวิตของเรามีเราเท่านั้นหรือลิขิตมัน จบบริบูรณ์
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ร้านค้านี้ยังไม่ได้กำหนดวิธีการชำระเงิน กรุณา ติดต่อกับทางร้าน เกี่ยวกับรายละเอียดในการชำระเงิน
ทางร้านยังไม่ได้ทำการเพิ่มบัญชีรับเงิน กรุณาติดต่อ เจ้าของร้าน
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านorange-shop2
orange-shop2
ขายแผ่น
เบอร์โทร : 0628022626
อีเมล : orangeshop2@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม