คลื่นรักสีคราม จากช่อง5 นำโดย เต๋า + โสภิตนภา

คลื่นรักสีคราม




บทโทรทัศน์ นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์กำกับการแสดง ฉัตรชัย สุรสิทธิ์อำนวยการผลิต ถกลเกียรติ วีรวรรณ , นิพนธ์ ผิวเณรนักแสดง สมชาย เข็มกลัด รับบท ลายคราม , โสภิตนภา ชุ่มภาณี รับบท ศราวดี
ลายคราม(สมชาย เข็มกลัด) คือหลานชายคนเดียวของผู้เฒ่าแห่งเกาะคราม โดยจุดกำเนิดของลายครามเป็นปริศนามานาน เพราะเขารู้เพียงว่าแม่ของเขาชื่อ สาหร่าย(เสาวลักษณ์ ศรีอรัญญ์) เป็นลูกสาวของพ่อเฒ่า ลมโชย(ชุมพร เทพพิทักษ์) เจ้าของเกาะคราม และได้เสียชีวิตไปแล้ว หลังจากลายครามเกิดได้ไม่นาน เมื่อลายครามถามถึงพ่อ พ่อเฒ่าลมโชยก็จะชี้ไปที่ท้องทะเลสีครามทุกครั้ง พร้อมกับบอกว่าเขาคือลูกชายของพระสมุทร แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อมีจดหมายที่มาจากคุณหญิง สุมณี(พิสมัย วิไลศักดิ์) ซึ่งได้อ้างว่าเป็นย่าของลายคราม และต้องการตามตัวลายครามไปเผาศพ ชาคริต ลูกชายคนเดียวของเธอและพ่อแท้ๆ ของลายคราม เมื่อพ่อเฒ่าลมโชยเห็นจดหมายฉบับนี้ เขาจับลายครามมาสาบานกับเจดีย์ที่บรรจุศพของสาหร่ายทันที พร้อมบังคับให้ลายครามอยู่และตายที่นี่ ห้ามไปข้องแวะกับคนกรุงเทพทุกคน จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ลายครามได้รู้ความจริงว่า แม่ของตนตายเพราะความตรอมใจ เพราะพ่อของเขาหนีไปแต่งงานกับ อรนิจ(อาภาพร กรทิพย์) สาวไฮโซที่มีฐานะ ถึงตอนนี้ ลูกชายเจ้าสมุทรผู้เย่อหยิ่งมีหรือจะสนใจฐานันดรเหล่านั้น เขายอมเมินเฉยต่อตำแหน่งทายาทพันล้านหรูหราแล้วตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตเยี่ยงชาวเลบนเกาะครามต่อไป ศราวดี(โสภิตนภา ชุ่มภาณี) สถาปนิกสาวทันสมัย ที่วันๆจะนั่งมองอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยมีโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารอิเล็คโทรนิคล้ำยุคอยู่รอบตัว ซึ่งถึงแม้ว่าชีวิตการงานของเธอกำลังไปได้สวย แต่ชีวิตครอบครัวกลับตรงข้ามอย่างเห็นได้ชัด เมื่อแม่ของเธอ ศิวพร(สีดา พัวพิมล) ซึ่งเป็นสาวสังคม ติดเหล้าและออกงานปาร์ตี้ทุกวัน แถมยังขอเงินและมักทิ้งศราวดีอยู่เป็นประจำ จนทำให้เธอต้องจึงเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียว รักแต่ตัวเอง งกเงินและบ้าเก็บเงินเป็นชีวิตจิตใจศราวดีมีคู่รักแล้วชื่อ ไกรวี(วรรธนะ กัมทรทิพย์) ซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่เปิดบริษัทด้วยกัน จนวันหนึ่ง ศราวดีพบว่าไกรวี คนรักคนเดียวของเธอได้ทรยศหักหลัง ด้วยการทำ นัทมน(ดุสิตา อนุชิตชาญชัย) เพื่อนรุ่นน้องท้องขึ้นมา แถมยังโกงเงินบริษัทไปหมดไม่มีเหลือ ศราวดีสัญญากับตัวเองว่าชาตินี้หล่อนจะไม่แต่งงานและไม่ยุ่งกับผู้ชายคนไหนอีก ความจนตรอกทำให้ศราวดียอมรับงานบ้าๆชิ้นหนึ่งจากเพื่อนเก่า แสงแข(ปิยวรรณ จิตณาธรรม) คือการช่วยคุณหญิงสุมณีออกติดตามลายคราม ทายาทมหาเศรษฐีของตระกูลดังมารับมรดกและเผาศพชาคริตพ่อแท้ๆ ที่เพิ่งตายไปด้วยอุบัติเหตุ และแล้วเจ้าชายแห่งท้องทะเลผู้ชิงชังคนกรุง กับสาวทุนนิยมที่แสนจะเกลียดผู้ชาย ก็โคจรมาพบกัน ที่เกาะแห่งนี้ เกาะคราม ศราวดีหอบกระเป๋าหลุยส์ใส่ข้าวของมากมายมาขึ้นเรือแต่ไม่ทันเวลา ชาวบ้านจึงบอกให้เธอไปขึ้นเรือประมงของลายครามแทน ด้วยความบ้าสมบัติ หวงข้าวของและติดมาดคุณหนู ทำให้เธอมีปัญหากับลายครามตลอดทาง จนลายครามเริ่มหมดความอดทน จงใจแสดงอาการเถื่อนให้ศราวดีเห็น แถมยังอำเธอว่าเป็นร่างทรงของเจ้าพ่อปะการังและจัดการเอาเครื่องคอมพ์และมือถือของศราวดีทิ้งลงทะเล ! แถมเมื่อมาถึงบนเกาะ ลายครามยังสนองพระเดชพระคุณด้วยการพาศราวดีไปอยู่กระท่อมซอมซ่อ และให้ลูกสมุนคือ แป้ง(ยาว ลูกหยี) และ เสฉวน(ห้อย เบบี้โจ๊ก) ปลอมเป็นผีหลอกเธอทั้งคืน แต่แล้ววันต่อมา ลายครามก็ต้องตกใจตื่นมองฟ้า เมื่อพายุกำลังจะมา เขารีบไปที่กระท่อม และพบว่ากระท่อมกำลังพังครืนเกือบหล่นลงมาทับศราวดี ในภาวะคับขัน ลายครามต้องฝ่าพายุพาศราวดีหลบเข้าไปอยู่ในถ้ำ ตลอดเวลาที่อยู่ในป่าด้วยกัน ศราวดีเริ่มสังเกตเห็นว่า ลายครามไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา เขามีความรู้และเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติระดับนักวิชาการ เมื่อพายุสงบลายครามรีบพาศราวดีกลับมาที่หมู่บ้านทันที มีคนมาต้อนรับลายครามและศราวดีเต็มไปหมด ซึ่งชาวบ้านเหล่านั้นนำโดยพ่อเฒ่าลมโชย เทียน(วิทิต แลค) ผู้ช่วยคนเก่งของพ่อเฒ่า น้ำตาล(น้ำหวาน ซาซ่า พิมรา เจริญภักดี) สาวสวยประจำเกาะที่แอบหลงรักลายครามและ ส้มแป้น สมุนคู่ใจจอมกวนของน้ำตาล ทั้งหมดมองศราวดีด้วยความเกลียดชังเพราะคิดว่าศราวดีคือผู้หญิงกรุงเทพ ศราวดีกลัวว่าทุกคนจะจับได้เรื่องแผนการของเธอ จึงตัดสินใจปกปิดฐานะของตัวเอง ด้วยการบอกว่าตนเป็นนักเขียนและขอมาพักที่เกาะนี้เพื่อสร้างอารมณ์เขียนนิยายระหว่างอยู่บนเกาะคราม ศราวดีกับลายครามไม่มีแววที่จะญาติดีกันแม้แต่น้อย หนุ่มขี้อำกับสาวสติแตกมักจะทะเลาะเพื่อเอาชนะกันตลอดเวลา แต่ด้วยความงกและไม่มีที่ไปของศราวดี เธอยังคงต้องสานต่อภาระให้เสร็จสิ้น โดยพยายามเอาตัวเข้าไปพัวพันกับลายครามเพื่อชักชวนเขาไปกรุงเทพให้ได้ ระหว่างปฏิบัติตามแผน ศราวดีพบว่าลายครามมีความฝันอย่างหนึ่งนั่นคือ การพัฒนาฟาร์มเลี้ยงหอยมุกให้เป็นอาชีพทดแทนการประมงที่ทำลายสิ่งแวดล้อม แถมเขายังฝันอีกว่าวันหนึ่งจะเพาะไข่มุกสีทองเพื่อไปทำแหวนหมั้นให้กับผู้หญิงที่เขารัก ศราวดีรับรู้ความฝันที่สร้างสรรค์ของลายครามด้วยความชื่นชมแม้ปากจะแดกดัน จนวันหนึ่งศราวดีพบว่าภายใต้นิสัยห่ามๆของลายคราม เขาก็ยังมีความอ่อนโยนและจิตใจที่งดงามซ่อนอยู่ ส่วนฝ่ายลายครามเอง เขาไม่รู้เลยว่าทุกๆวันที่เขาหาเรื่องแกล้งศราวดี เพื่อไล่เธอกลับกรุงเทพนั้น แท้จริงแล้วจิตใจเขากลับตรงกันข้าม เขารู้สึกผูกพันกับสาวมั่นอย่างศราวดีมากขึ้นทุกที วันเวลาผ่านไป ศราวดีอยู่เกาะครามนานขึ้นทุกที โดยไม่มีทีท่าว่าลายครามจะยอมไปกรุงเทพ ศราวดีร้อนใจมาก ทั้งพ่อเฒ่า น้ำตาล และคนในเกาะ ล้วนแต่พยายามขับไล่เธอ และแล้วอุปสรรคที่สำคัญ ก็ตามหล่อนมาถึงเกาะคราม เมื่อไกรวีตามมาขอคืนดี ลายครามพบว่าศราวดียังมีความผูกพันกับไกรวี เขาเลยพาศราวดีไปที่อ่าวแห่งหนึ่ง ลายคราวชวนศราวดีดำน้ำลงไปดูปะการังอันสวยงามด้วยกัน เมื่อบรรยากาศเป็นใจ ลายครามตัดสินใจจูบศราวดี แล้วพาหล่อนกลับมาหาไกรวี เพื่อจากลากันตลอดกาล แต่ศราวดีก็ยังคงตัดสินใจที่จะไม่กลับไปกับไกรวีและยังยืนยันที่จะอยู่เกาะครามต่อไปวันหนึ่ง ลายครามถูกลอบยิง ศราวดีสงสัยว่าจะเป็นการกระทำของอรนิจลูกสะใภ้สุมณีที่อยากได้มรดกจนตัวสั่น แต่เบื้องหลังของการลอบฆ่าครั้งนี้ ศราวดีไม่รู้เลยว่าตัวเองมีส่วนร่วมด้วย เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวลายครามที่เธอได้เล่าให้แสงแขฟังทั้งหมด แสงไขได้นำไปเล่าให้ วิสุทธิ์(อนุสรณ์ เตชะปัญญา) ซึ่งทนายประจำตระกูลฟังอีก เพราะคิดว่าเขาเป็นคนดี แต่ความเป็นจริงวิสุทธิ์เป็นชู้กับอรนิจมานานแล้ว และวิสุทธิ์ได้เอาข้อมูลเหล่านี้ไปให้ แดง(คมกฤช ยุตติยงค์) อันธพาลท้องถิ่น จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ชาวบ้านมุ่งประโนว่าเป็นฝีมือของศราวดี แต่ลายครามกลับออกมาปกป้องศราวดีโดยไม่สนใจชีวิตของตนเอง พ่อเฒ่าโกรธมากและออกคำสั่งเด็ดขาดให้ศราวดีอยู่บนเกาะได้อีกเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น ศราวดีกลัวว่าจะทำตามแผนการไม่ทันเวลา จึงให้แสงแขส่งไดอารี่ที่ชาคริตเขียนถึงลายครามมาให้ลายครามอ่าน และในที่สุดลายครามยอมเดินทางมาที่กรุงเทพ ซึ่งเหตุผลไม่ใช่เพราะไดอารี่เพียงอย่างเดียว แต่เขาต้องการอยากจะช่วย ศราวดีให้ผ่านพ้นเรื่องร้ายๆในชีวิตที่เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อศิวพรแม่ของศราวดีเป็นมะเร็งกำลังจะตายเมื่อไปถึงกรุงเทพ ศราวดีหลอกพาลายครามให้ได้ใกล้ชิดกับสุมณีด้วยการพาเข้าไปหาและอ้างว่าสุมณีคือย่าของเธอ และตลอดเวลาที่อยู่กรุงเทพ ลายครามคือเพื่อนที่ดีที่สุดของศราวดี ทั้งสองได้ผ่านหลายสิ่งหลายอย่างมาด้วยกัน จนเริ่มตระหนักชัดถึงบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในใจฝ่ายอรนิจและวิสุทธิ์ เมื่อรู้ว่าสุมณีได้พบกับลายครามแล้ว ก็ร้อนตัวกลัวจะชวดสมบัติ จึงหาวิธีที่กำจัดลายครามให้พ้นทาง ขณะเดียวกันนั้น ลายครามก็ได้ข่าวดีจากเกาะคราม หอยมุกรุ่นสุดท้ายที่เขาลงทุนนอนเฝ้า ได้ให้ผลผลิตเป็นไข่มุกสีทองจริงๆสมดังความตั้งใจ ลายครามจัดการส่งมุกที่ได้ไปทำหัวแหวนทันทีเขาตัดสินใจที่จะบอกรักศราวดีด้วยแหวนมุกสีทองในวันนั้น ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่พวกของอรนิจคิดจะกำจัดเขา งานนี้ลายครามจะรอดพ้นจากการตามล่าของอรนิจ เพื่อไปบอกรักศราวดีได้หรือไม่