เจ้าของร้านค้านี้ ไม่ได้เข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลา 25 วัน แล้ว
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
Channel 7 :
รอยไถ

บทประพันธ์ ไม้เมืองเดิม
นำแสดงโดย
1. วินัย ไกรบุตร แสดงเป็น ลือ
2. ทราย เจริญปุระ แสดงเป็น บัวผัน
3. รชนีกร พันธุ์มณี แสดงเป็น บัวเผื่อน
4. อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ แสดงเป็น ยายบัว
5. ศตวรรษ ดุลยวิจิตร แสดงเป็น อ่อน
6. ไชยา มิตรชัย แสดงเป็น บัวลอย
7. ชุติมา นัยนา แสดงเป็น บานเช้า
8. หวังดี นิมา (หวังเต๊ะ) แสดงเป็น ตาแหยง
9. นราวัลย์ นิรัติศัย แสดงเป็น พะยอม
10. ยุพข่าน ดัสกร แสดงเป็น แปลก
11. ดิเรก อมาตยกุล แสดงเป็น เปลี่ยน
ออกอากาศ ทุกวัน เวลา 18.30 น. ช่อง 7

เรื่องย่อ
ลือเป็นหนุ่มรูปงามในย่านทุ่งสองห้อง เขาเป็นคนอารมณ์ดี รักสนุก และมีใจนักเลงเต็มตัว เมื่อได้มาพบกับบัวเผื่อน
สาวงามในย่านนั้น ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของนางบัว ลือก็หลงรักจนสุดหัวใจ ในขณะที่บัวเผื่อนนั้น เดิมมีหนุ่มเศรษฐีซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินจำนวนมาก และยังมีกิจการค้าขายอยู่ที่บางกอกชื่อ อ่อน มาชาอบพออยู่ก่อน แต่เมื่อได้พบกับลือ ซึ่งรูปงามคารมดีและมีความเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว บัวเผื่อนจึงตกลงปลงใจมาเป็นเมียของลือ โดยที่นางบัวก็ไม่ค่อยชอบใจนัก เพราะอยากได้ลูกเขยเศรษฐีอย่างอ่อนมากกว่า

เมื่อได้บัวเผื่อนมาเป็นเมียแล้ว ลือก็ทิ้งความเป็นนักเลงไปจนหมด ยอมหันมาจับคันไถทำนาและกลายเป็นคนรักเมียหลงเมียมาก ครั้งหนึ่งลือตัดสินใจขายควาย 2 คู่ ของตนเพื่อจะนำเงินมาค้าขาย แต่แล้วก็กลับนำเงินไปทิ้งเสียกับการเล่นโปและเลี้ยงเหล้าเพื่อนฝูงจนหมด ทำให้ลือและบัวเผื่อนรวมทั้งอ้ายแดงลูกอ่อนของทั้งคู่ที่มีอายุไม่ถึงขวบต้องยากจนอยู่อย่างลำบากแร้นแค้นทำให้ลือละอายใจมาก บัวเผื่อนเองก็ตัดพ้อต่อว่าเขาหนำซ้ำนางบัวแม่ยายของลือเองก็ยังด่าว่ากระทบกระเทียบอยู่เนือง ๆ ลือจึงได้แต่สงบปากสงบคำกลายเป็นคนกลัวเมียและเป็นลูกไล่ของแม่ยายไปโดยไม่เหลือลายนักเลงเก่าให้เห็นเลย

บัวเผื่อนมีน้องสาวชื่อบัวผันที่เพิ่งเริ่มสาว และน้องชายสุดท้องชื่อ บัวลอย ซึ่งกำลังจะแตกเนื้อหนุ่ม บัวผันสงสารพี่สาวที่อยู่อย่างไม่สบายนัก จึงมักหาเวลาว่างมาช่วยเลี้ยงอ้ายแดงอยู่เสมอ บัวผันเป็นเด็กสาวใจกล้าปากคม จึงมักจะปะทะคารมกับลือ ซึ่งชอบกระเซ้าเย้าแหย่อยู่บ่อย ๆ ส่วนบัวลอยนั้น เนื่องจากกำลังเป็นหนุ่มจึงนิยมความเป็นหนุ่มนักเลงของพี่เขยอยู่มาก

นางบัวชอบเล่นการพนันจนเป็นหนี้เป็นสินอ่อนอยู่มาก ฝ่ายอ่อนก็ยังมีใจรักบัวเผื่อนอยู่ไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าบัวเผื่อนจะมีลูกมีผัวไปแล้วก็ยังรัก เขาจึงนำเรื่องที่นางบัวติดหนี้สินเขาอยู่มาต่อรองให้ยางบัวเปิดทางให้เขาได้พบปะกับบัวเผื่อนอยู่เนือง ๆ จนในที่สุดอ่อนก็ตัดสินใจว่าจะพาบัวเผื่อนหนีจากลือและความลำบากยากจน ไปแต่งงานเป็นเมียอ่อนและอยู่กันอย่างสบายที่บางกอก นางบัวก็สมรู้ร่วมคิดกับอ่อนมาตลอด โดยใช้ความเป็นแม่มาบังคับให้บัวเผื่อนทำตามที่อ่อนต้องการ

บัวเผื่อนเองก็ลังเลใจอยู่เพราะทางหนึ่งก็รักลือและลูก แต่อีกทางหนึ่งก็เห็นแก่แม่ และความสุขสบายที่ตนเองได้รับจากอ่อนอซึ่งเป็นคนฐานะดี บัวเผื่อนจึงลักลอบพบปะกับอ่อนเรื่อยมา โดยลือไม่รู้ไม่เห็น แต่บัวผันกับบัวลอยซึ่งเป็นน้องรับรู้มาตลอดถึงแม้ว่าจะเห็นใจลือเพียงใดก็ตาม ทั้งคู่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะต่างก็เกรงว่าหากลือรู้เรื่องเขาอาจทำร้ายแม่และพี่สาวของตนเนื่องจากลือมีเลือดนักเลงอยู่แต่เดิม บัวผันและบัวลอยต่างก็ปิดปากเงียบในเรื่องที่อ่นกำลังคิดพาบัวผันหนีไปแต่งงานอยู่กินกันที่บางกอก

เมื่อเริ่มเข้าหน้านา ลือกระวีกระวาดที่จะทำนาโดยคุยกับบัวเผื่อนและบัวผันว่าจะรีบไปยืมควายจากนางบัวมาสักคู่หนึ่งมาไถนาเตรียมไว้ปลูกข้าว บัวเผื่อนและบัวผันก็เหน็บแนมโดยเก็บเอาเรื่องที่ลือเคยทำผิดพลาดมาล้อ ทำให้ลือยิ่งมุ่งมั่นจะทำให้ลูกเมียอยู่ดีกินดีขึ้นกว่าเดิมให้ได้ เขารักเมียมาก แม้ลำบากมีข้าวหม้อเดียวกับปลาตัวเดียว ลือก็ยอมกินข้าวเปล่า ๆ โดยเก็บปลาทั้งตัวเอาไว้ให้บัวเผื่อนกินในยามหิว

ครั้งหนึ่งบัวผันซึ่งมาช่วยเลี้ยงหลานกำลังไกวเปลร้องเพลงกล่อมอ้ายแดงโดยร้องเพลงวัดโบสถ์ ซึ่งมีเนื้อร้องกล่าวถึงลูกเขยที่ตกยาก แม่ยายจึงมาพรากลูกสาวหนี ทำให้ลือใจคอไม่ดีจนต้องขอร้องไม่ให้บัวผันร้องเพลงนี้กล่อมอ้ายแดงอีก บัวผันโมโหและมีเรื่องต่อปากต่อคำกับลือขึ้นมาจนบัวเผื่อนต้องปรามทั้งผัวและน้องของตน

นางบัวมาหาบัวเผื่อนบ่อย ๆ แต่ละครั้งก็มีการเหน็บแนมลือ และมักจะพาบัวเผื่อนไปพบกับอ่อนหลายครั้ง โดยที่ลือไม่รู้เรื่อง เขาก็ยังสนุกกับการพูดกระเซ้าเย้าแหย่บัวผัน น้องเมียซึ่งมีฝีปากคมคายอยู่เนือง ๆ ทำให้บัวผันทั้งนึกสงสารและหมั่นไส้จึงว่าเอาแรง ๆ จนบางทีก็แกล้งลือให้แบกขึ้นขี่คอไปส่งเรือก็มี

ใกล้กำหนดที่อ่อนนัดจะพาตัวบัวเผื่อนหนีไปแล้ว บัวเผื่อนก็เริ่มมีอาการพิรุธมากขึ้น เพราะอาลัยในความรักของลือ บัวเผื่อนมักแอบร้องไห้ แต่ลือไม่รู้ความในใจ เขานึกว่าเมียร้องไห้เพราะเห็นใจที่เขาลำบากทำมาหากินเพื่อลูกและเมียเขาจึงปลอบใจบัวเผื่อนว่าเขาเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อลูกและเมีย ยิ่งทำให้บัวเผื่อนสะเทือนใจยิ่งขึ้นกับความซื่อของเขา

อ่อนร่วมมือกับพวกนักเลงที่มีหัวหน้ากลุ่มชื่อแปลกวางแผนการพาบัวเผื่อนหนีโดยจะไปที่ท่าแร้งก่อน เพื่อทำพิธีแต่งงานที่บ้านลุงของแปลกเพื่อเป็นการรวบรัด จากนั้นก็ค่อยพาบัวเผื่อนเข้าบางกอก บัวลอยแอบฟังอยู่ใต้ถุนเรือน และเมื่อฟังกลุ่มนักเลงดังกล่าววางแผนกันไปกินเหล้ากันจนเมา แล้วมีการพูดจาสนุกปากมาพาดพิงลวนลามถึงบัวผันและนางบัว ซึ่งเป็นพี่สาวและแม่ของบัวลอยด้วย บัวลอยจึงคิดแค้นอยู่ในใจ และกลับไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้บัวผันฟัง บัวผันได้แต่กำชับบัวลอยว่าไม่ให้รู้ถึงหูลือ เพราะห่วงแม่กับพี่สาว

เช้าวันที่บัวเผื่อนจะหนี ลือสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้าย เขาฝันว่าฝนตกลงมาเป็นไฟทะลุหลังคาลงมาโดนบัวเผื่อนและอ้ายแดง เมื่อตื่นมาเขาก็ตกใจเพราะเห็นว่าหลังคาเรือนมีรอยโหว่ตรงกับบริเวณที่เขาเห็นในฝันจริง ๆ บัวเผื่อนพยายามจะแก้ฝันว่าที่ลือฝันนั้นจะเป็นผลดีกับลูกเมีย และเร่งให้ลือซ่อมแซมหลังคา โดยที่บัวเผื่อนอาสาจะเป็นคนออกไปไถนาเอง ลือนึกห่วงแต่ก็ยอมตามใจเมียโดยไม่รู้ว่าความจริงแล้วการที่หลังคาหลุดไปเป็นรอยโหว่นั้นเป็นแผนของอ่อนที่จะทำให้บัวเผื่อนออกมาจากบ้าน โดยลือไม่ติดตามนั่นเอง

บัวเผื่อนลาลูกด้วยความอาลัยมาก แต่ลือไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติ บัวเผื่อนแอบเอาด้ายมงคลผูกข้อมือให้อ้ายแดง ซึ่งนอนอยู่ในเปลแล้วจึงออกจากบ้าน ทำทีไปไถนาแล้วรีบหลบไปที่บ้านนางบัว เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้วนางบัวก็เร่งจะพาบัวเผื่อนออกเดินทางไปที่ท่าแร้งเพื่อเตรียมแต่งงานตามแผนที่อ่อนกับพวกของเแปลกวางเอาไว้ บัวลอยสงสารบัวเผื่อนและเห็นใจลือจนมีอาการฮึดฮัดทำท่าจะไปบอกลือ แต่บัวผันห้ามเอาไว้ และสั่งให้บัวลอยอยู่เฝ้าบ้านเป็นเพื่อนกันไม่ให้ไปไหน

ฝ่ายลือเมื่อซ่อมหลังคาเสร็จก็เป็นเวลาสายมากแล้ว เขาเห็นลูกร้องจึงอุ้มลูกออกมาตามหาเมีย เขาเริ่มเอะใจที่เห็นว่า บัวเผื่อนทิ้งให้ควายลากไถไปเรื่อยจนไถหัก เขาจึงอุ้มลูกเที่ยวตามหาบัวเผื่อนจนมาถึงบ้านนางบัว เขาถามบัวผันแต่บัวผันบอกว่าไม่รู้เรื่อง ลือทำท่าจะออกไปตามหาที่อื่นต่อ บัวผันเห็นใจจึงเรียกให้บัวลอยช่วยจัดสำรับให้ลือกินข้าวก่อน บัวลอยเก็บผ้านุ่งที่บัวเผื่อนทิ้งเอาไว้ขึ้นมา ลือเห็นก็จำไปว่าเป็นผ้านุ่งของเมีย จึงบังคับถามบัวผันกับบัวลอยให้ตอบ บัวผันจึงบอกว่าได้ยินว่าจะพากันไปที่บางกอก ลือตัดสินใจจะไปตามหาเมียที่บางกอกบัวผันพยายามทัดทานด้วยความสงสารโดยอ้างว่าบางกอกกว้างมากไป ตามหาก็คงไม่พบ แต่ลือก็ยืนยันว่าอย่างไรก็ต้องไปตาม บัวผันจึงนำเงินส่วนตัว 30 บาทมาให้ลือติดตัวไปใช้ ลือฝากอ้ายแดงไว้ให้บัวผันเลี้ยง แล้วจึงออกเดินทางเข้าบางกอกโดยที่บัวผันแอบร้องไห้อยู่ข้างหลังเพราะความสงสารลือเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อไปถึงบ้านท่าแร้งและกำลังเตรียมจัดพิธีแต่งงาน บัวเผื่อนก็ร้องไห้หนักจนนางบัวโมโหถึงขั้นทุบตี บัวเผื่อนน้อย
ใจบอกว่าให้นางบัวฆ่าตนให้ตายเสียก็ได้เพราะว่ายอมตามใจแม่มาถึงขนาดนี้แล้วยังจะทุบตี นางบัวจึงได้คิดและเลิกตบตีบัวเผื่อน พอดีอ่อนกลับมาจากซื้อของที่บางกอก นำเครื่องแต่งกายและของมีค่ามาให้บัวเผื่อน พร้อมทั้งพูดคำหวานจนบัวเผื่อน เริ่มคลายกังวล นางบัวจึงโล่งใจและหลบไปเพื่อเปิดทางให้อ่อนได้โอ้โลมบัวเผื่อนตามใจชอบ

ลือออกตระเวนตามหาบัวเผื่อนโดยไร้ทิศทางอยู่ในบางกอกจน 2 วันผ่านไป ก็ไม่มีวี่แวว เขาจึงซมซานกลับมาหาบัว
ผันที่บ้านพร้อมคืนเงินให้บัวผัน 25 บาท บัวผันเห็นลือมีอาการท้อแท้จึงพยายามดูแลเอาใจใส่ให้กินข้าวและพักผ่อน ส่วนบัวลอยซึ่งเห็นใจลือเช่นกันและหมั่นไส้พวกของแปลกอยู่แต่เดิม อดใจไม่ได้จึงบอกลือไปว่าตอนนี้อ่อนพาบัวเผื่อนไปอยู่ที่ท่าแร้ง และกำลังจะจัดงานแต่งงาน ลือจึงนำเรือของบัวลอยออกตามไปในทันที

คืนวันแต่งงานเมื่อรดน้ำทำพิธีเสร็จแล้ว พวกอ่อนและแปลกก็ตั้งวงเหล้ากันสนุกครึกครื้นถึงกับลุกขึ้นมาเล่นลิเกกัน
บัวเผื่อนหลบอยู่ในห้องคนเดียว ลือแอบปีนขึ้นมาพบ บัวเผื่อนตกใจร้องให้ ลือบอกว่าจะพาบัวเผื่อนกลับ โดยปีนหน้าต่างหนีไปพร้อมกัน บังเอิญนางบัวแวะเข้ามาดูลูกสาวเห็นพอดีจึงร้องเอะอะขึ้น ทำให้พวกนักเลงของแปลกและอ่อนออกติดตามลือ และบัวเผื่อนมาอย่างรวดเร็วจนหนีไม่ทัน

ลือต่อสู้กับพวกของแปลกจนสุดแรงแต่ก็แพ้เพราะว่าลือมีตัวคนเดียว เขาถูกฟันจนบาดเจ็บสาหัส แต่ลือก็ทำร้ายแปลก
จนสาหัสพอกัน บัวเผื่อนวิงวอนขอให้อ่อนไว้ชีวิตลือ โดยสัญญว่าจะยอมเป็นเมียโดยดี อ่อนจึงให้เปลี่ยนและบริวารคนอื่น ๆ พาลือกลับมาส่งถึงบ้านที่ทุ่งสองห้อง แล้วอ่อนก็พาบัวเผื่อนเข้าบางกอกทันที นางบัวก็ตามเข้าไปอยู่บางกอกด้วย โดยทิ้งบัวผันและ บัวลอยไว้ตามลำพังสองคนที่บ้านเช่นเดิม

ฝ่ายบัวผันเมื่อได้ข่าวว่าลือบาดเจ็บกลับมาที่บ้าน จึงรีบชวนบัวลอยเก็บของปิดบ้านพาอ้ายแดงไปคอยปรนนิบัติดูแลลือที่เรือนของลือด้วยความสงสารและเห็นใจในความรักและหัวใจสู้ของลือ จนกระทั่งอาการของลือดีขึ้นเป็นลำดับ

หลายเดือนผ่านไป ลือค่อย ๆ ลืมความทุกข์และเริ่มมองเห็นความดีที่บัวผันมีต่อตน ความใกล้ชิดสนิทสนมทำให้ลือและบัวผันเริ่มมีใจต่อกันทีละน้อย พออาการเริ่มดีลือก็เริ่มพูดจาต่อล้อต่อเถียงกับบัวผันเช่นที่เคยมา และเริ่มมีการหยอกล้อเกี้ยวพา จนบัวลอยก็สังเกตเห็นได้ว่าทั้งคู่รักกัน

หลังจากเกิดเหตุต่อสู้กันไม่นานนัก แปลกซึ่งเจ็บสาหัสก็ตายลง ส่วนนางบัวก็ป่วยกระเสาะกระแสะ และเริ่มบ่นคิดถึงลูกอีกสองคนที่ทุ่งสองห้อง พร้อมกันนั้นบัวเผื่อนก็เริ่มคิดถึงอ้ายแดง ในที่สุดอ่อนก็พาบัวเผื่อนและนางบัวที่กำลังป่วยหนักกลับมาที่ทุ่งสองห้อง บัวลอยรู้ข่าวรีบมาบอกบัวผันกับลือแต่ก่อนที่ทั้งคู่จะออกไปบัวเผื่อนก็มาถึงก่อนเพื่อมาพบอ้ายแดงและได้กราบขอโทษลือ อ่อนก็ตามขอโทษพร้อมกับนำโฉนดที่ดินมายกให้ลือด้วย เพราะอ่อนตั้งใจว่าจะรับอ้ายแดงไปปักหลักอยู่เป็นครอบครัวพร้อมหน้ากันที่บางกอกเลย ลือไม่ถือโทษเพราะเห็นว่าอ่อนก็รักใคร่บัวเผื่อนดี ส่วนเขาเองก็ตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งบัวผันเป็นเมีย ส่วนโฉนดที่ดินที่อ่อนยกให้นั้นลือก็ตั้งใจว่าจะทำมาหากินเก็บไว้โอนให้อ้ายแดงเมื่อโตขึ้นในภายหน้า จากนั้นลือกับบัวผันก็ได้แต่งงานเป็นคู่ทุกข์คู่ยากอยู่ด้วยกันที่ทุ่งสองห้องตลอดไป
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ร้านค้านี้ยังไม่ได้กำหนดวิธีการชำระเงิน กรุณา ติดต่อกับทางร้าน เกี่ยวกับรายละเอียดในการชำระเงิน
ทางร้านยังไม่ได้ทำการเพิ่มบัญชีรับเงิน กรุณาติดต่อ เจ้าของร้าน
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านorange-shop2
orange-shop2
ขายแผ่น
เบอร์โทร : 0628022626
อีเมล : orangeshop2@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม