จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | DVDไทย |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
ใต้ร่มไม้เลื้อยเรือนศิรา ละครดังในอดีต
บทประพันธ์ ปิยะพร ศักดิ์เกษม กำกับการแสดง มานพ สัมมาบัติ นักแสดง ปรียานุช ปานประดับ , ยุระนันท์ ภมรมนตรี , เหมียว ชไมพร, นาวิน ต้าร์ , เอิร์น กัลยากร ครอบครัวมณีมีความเป็นอยู่ที่ดี มีลูกชายชื่อ พัทธ์ พ่อของพัทธ์เป็นนักธุรกิจ มีเพื่อนบ้านชื่ออนงค์ ครอบครัวทั้งคู่สนิทกัน อนงค์มีลูกสาวชื่อ อรพิม แก่กว่าพัทธ์1 ปี ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ต่อมาพ่อของพัทธ์ทำการค้าล้มละลายถึงกับฆ่าตัวตาย ทิ้งลูกและเมียให้ผจญกับปัญหาต่างๆ ฐานะของพัทธ์แย่งลง พัทธ์จึงมาช่วยป้าจินดาซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับมณี มาช่วยป้าทำงานที่โรงหนัง และงานอื่นๆ มีความคิดที่จะต้องสร้างตัวให้ได้เหมือนเดิม ส่วนครอบครัวของอนงค์ ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เพราะพ่อของอรพิมไปรับราชการที่นั่น อรพิม ย้ายไปตั้งแต่อายุ 10 ปี แต่ก็เขียนจดหมายมาถึงพัทธ์เสมอ พัทธ์เรียนจบ ปวส. ป้าจินดาก็คิดโครงการจะลื้อโรงหนังมาสร้างห้างสรรพสินค้า และมีโรงหนังในห้าง จึงเตรียมที่จะลื้อทำใหม่ ก่อนลื้อได้มีนิตยสารฉบับหนึ่งมาขอถ่ายที่โรงหนังนี้ พัทธ์ได้สั่งให้คนงานทำความสะอาดให้หมด ถึงวันที่กองถ่ายมา นายแบบที่จ้างไว้กลับไม่มา แสงสุรีย์โกรธมาก วีราที่มาด้วยเห็นพัทธ์ จึงได้บอกให้แสงสุรีย์ติดต่อพัทธ์มาถ่ายแบบแทน แสงสุรีย์จึงได้มาติดต่อ แต่พัทธ์ยังลังเลอยู่ อรพิมปิดเทอมจึงแวะมาเยี่ยมพัทธ์กับมณี เธอรู้เรื่องเขา เธอจึงยุให้ไปลองดู พัทธ์ตกลงไปที่สตูดิโอ เมื่อหนังสือออกวางขาย ปรากฏว่ามียอดขายสูงสุด พัทธ์จึงกลายเป็นคนดัง วีราผู้สนับสนุนพัทธ์มีความสุขใจในตัวพัทธ์มาตลอด วีราเมื่ออายุ 15 ปี มีแฟนเป็นนักดนตรี วีราจึงเลิกเรียนกลางคัน ไปอยู่กับแฟนหนุ่ม พ่อแม่ของวีราเป็นคนมีฐานะ จึงให้ทุนสนับสนุนนักดนตรีคนนี้ จนมีชื่อเสียง ตอนหลังเลิกกัน ทว่าจากนั้นเธอก็แต่งงานใหม่ 2 ครั้ง ครั้งแรกแต่งกับทายาทเศรษฐีอยู่ด้วยกันไม่นานก็เลิกกัน 2 ปีต่อมาแต่งงานใหม่กับชาวอเมริกัน มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อเธอ อยู่ด้วยกัน 8 ปี สามีตาย เธอตกเป็นม่ายเศรษฐี เพราะสามีทิ้งทรัพย์สินไว้มากมาย วีราเปลี่ยนคู่ควงอยู่เรื่อย รายล่าสุดเป็นนักเรียนไทยที่ไปเรียนอเมริกา อยู่ด้วยกัน 4 เดือนก็เลิกกัน แล้วมาเจอกับพัทธ์ เธอสนับสนุนพัทธ์เต็มที่ พัทธ์มีงานเข้ามาเยอะมาก แสงสุรีย์รู้ใจวีราเพื่อนของตนดีจึงพูดดักคอเพื่อนตลอด อรพิมรู้เรื่องที่วีราสนับสนุนโดยหวังผลตอบแทนจากตัวพัทธ์ จึงพูดกับพัทธ์ให้เดินด้วยตัวเอง แต่พัทธ์ยังไม่รู้ตัว อรพิมต้องเดินทางกลับไปเรียนต่อ ส่วนพัทธ์ก็เดินทางไปถ่ายแบบที่ญี่ปุ่นในเวลาต่อมา ข่าวหนังสือพิมพ์ลงข่าวในหน้าสังคมว่า "ม่ายสาวใหญ่เดินทางกลับอเมริกาพร้อมเพื่อนร่วมทางเป็นหนุ่มน้อยคนคุ้นหน้าที่กำลังดัง" พัทธ์เดินทางมาอยู่กับวีราที่อเมริกา 6 ปี ทำงานอยู่ร้านแผ่นเสียงซีดี ตอนหลังมาเปิดเองพัทธ์ขับรถผ่านระหว่างที่ที่จะกลับที่พัก ได้พบพ่อลูกคู่หนึ่งกำลังถูกไอ้มืดตามมา พัทธ์ได้ช่วยเขาทั้งคู่ไว้ ทั้งคู่ได้แนะนำตัวเองให้อีกฝ่ายรู้จัก ไชโยได้เล่าเรื่องครอบครัวให้ฟัง มีลูกชาย 1 คนชื่อ ไก่ อายุ 14 ปี ลูกสาวชื่อ ไข่หวาน อายุ 12 ปี ภรรยาเสียตั้งแต่ไข่หวานอายุ 8 เดือน มีป้าละไมคนเก่าแก่คอยดูแลลูกๆ ให้ ไชโยเริ่มสนใจในตัวพัทธ์ที่อายุยังน้อยแต่มีกิจการเป็นของตัวเอง เช่นเดียวกับพัทธ์ที่คุ้นกับชื่อเหล่านั้น วีราคิดมากที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว แม้เธอจะมีเงินมาก แต่ก็ไม่มีความสุข พัทธ์เองก็คิดตีตัวออกห่าง วีราได้ขับรถออกไปนอกเมืองจนเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่ตาย ต้องทำศัลยกรรมอยู่หลายครั้ง กระดูกขาหัก พัทธ์จำต้องย้ายมาดูแลตลอด 4 ปี พัทธ์สงสัยในตัวไชโย จึงได้พูดให้วีราฟังเรื่องไชโย พัทธ์จึงได้รู้ว่าชื่อเหล่านี้เค้าได้ยินมาจากวีรา และไชโยก็คืออดีตแฟนของวีรา พัทธ์จึงนัดให้ทั้งสองเจอกัน ทั้งคู่ได้คุยกันถึงเรื่องไข่หวาน วีรารับอาสาให้ไข่หวานมาอยู่กับเธอ และรับไก่ ป้าละไมมาอยู่ที่นี่ด้วย ไชโยรู้ว่าที่พัทธ์ทำแบบนี้เพราะจะออกห่างจากวีรา ในที่สุดเขาก็ออกมาจากชีวิตของวีราได้ โดยมาทำงานของตัวเองและกลับเมืองไทย อรพิมเขียนจดหมายมาหาพัทธ์ บอกว่าเธอกำลังจะแต่งงานครอบครัวเธอย้ายมาอยู่กรุงเทพฯแล้วเนื่องจากคุณพ่อของเธอสุขภาพไม่ดีจึงได้ลาออกจากราชการ อรพิมแต่งงานกับศิขริน ตามที่ผู้ใหญ่เห็นถึงความเหมาะสมของคู่นี้ ก่อนหน้านี้ศิขรินมีแฟนอยู่แล้วชื่อเจนจารีทั้งคู่รักกันมากแต่แม่ของศิขรินไม่ชอบ ศิขรินจึงต้องยอมทำตามศิราแม่ของเธอ ส่วนเจนจารี แต่ง งานกับชาวอเมริกันมีลูก 1 คนชื่อ เอริค อยู่ไม่เท่าไหร่ก็หย่าจากกัน เจนจารี จึงเดินทางกลับเมืองไทย หลังจากแต่งงานอรพิมย้ายมาอยู่กับสามี เธอเป็นอาจารย์สอนพิเศษวิชาฝรั่งเศส สอนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับสามี ที่บ้านสามีก็มีธุรกิจส่วนตัว ศิราแม่ของศิขริน ใฝ่ฝันที่จะสร้างพิพิธ-ภัณฑ์ส่วนตัวแต่ทำไม่สำเร็จ เพราะเสียชีวิตก่อน ศิขรินได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยมาบริหารธุรกิจเอง อรพิมก็ทำพิพิธภัณฑ์ต่อจากศิราจนสำเร็จ โดยใช้ชื่อว่า เรือนศิรา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม มีร้านขายของที่ระลึก เจนจารีกลับมาเมืองไทย เข้ามาสอนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับอรพิม ทั้งคู่รู้จัก และทราบเรื่องการหย่าของทั้งคู่ จึงรับอาสาจัดบ้านให้เจนจารีและลูกชาย เจนจารีรู้ว่าอรพิมเป็นเมียของศิขริน จึงเกิดความริษยา ทั้งคู่ได้พบกันในงานเลี้ยงจัดขึ้นที่บ้านอรพิม ความสัมพันธ์เก่าๆ จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง พัทธ์ได้ส่งบัตรเชิญมาให้อรพิมไปร่วมงานเปิดบริษัทที่เขาสร้างขึ้นมา อรพิม ชวนศิขรินไปงานด้วย เมื่องานเสร็จอรพิมขออยู่ต่ออยากเจอเพื่อนๆ ศิขรินกลับมาดูแลงานก่อน อรพิมกับพัทธ์ได้พูดคุย อรพิมเตือนพัทธ์ในฐานะเพื่อนสนิทไม่อยากเห็นพัทธ์ฆ่าคนอื่นเพื่อตัวเอง พูดจากันรุนแรง พัทธ์โกรธมากหาว่า อรพิมอิจฉาที่เขามีชื่อเสียงอรพิมจึงกลับเชียงใหม่ก่อนกำหนด มาถึงบ้านก็พบเจนจารีอยู่ในบ้านของตัวกับศิขริน จึงได้รู้เรื่องของทั้งคู่ เธอตัดสินใจขอหย่าโดยไม่ฟังเสียงค้านของผู้ใด หลังจากหย่ากันแล้ว อรพิมกลับมาอยู่บ้านเดิม และมีบุญวงศ์กับบัวคำ คนใช้บ้านศิขรินตามมาอยู่ด้วย อรพิมตรวจร่างกายจึงได้รู้ว่าตัวเองท้อง พร้อมกับรู้ว่าเธอได้เป็นโรคร้ายด้วย แต่เธอไม่ยอมบอกใคร จนเธอคลอดลูกสาว เธอได้ตั้งชื่อว่า พิมลพัทธ์ พัทธ์เฝ้าดูแลตลอดพร้อมกับขอเธอแต่งงาน แต่อรพิมปฏิเสธ พัทธ์เสียใจมาก จึงเดินทางไปอเมริกา ไชโยรู้เรื่องป่วยของอรพิม จึงได้โทรไปบอกพัทธ์ พัทธ์เสียใจที่ทิ้งเธอไปตอนเธอป่วย ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน อรพิมฝากให้พัทธ์เลี้ยงดูลูกสาว พัทธ์รับปากดูแลลูกเป็นอย่างดีรวมทั้งพิมด้วย เรือนศิรา บทประพันธ์ ปิยะพร ศักดิ์เกษม กำกับการแสดง มานพ สัมมาบัติ ศิรา มีโรงบ่มยาสูบ และกิจการกระเบื้องเคลือบ ส่งลูกชายไปเรียนต่ออเมริกา จบแล้วจะได้มาดูแลบริหารกิจการของตัวเอง ระหว่างที่เรียนพบกับเจนจารี เกิดชอบพอกันและหวังแต่งงานเมื่อเรียนจบ รินเรียนจบก่อนกลับมาเชียงใหม่ ศิราไม่ชอบเจนจารีจึงรีบแต่งานกับอรพิม ซึ่งมีฐานะเท่าเทียมกัน รินมีญาติอยู่ 1 คนชื่อ ศานิต รุ่นเดียวกับริน แต่ศิราไม่สนใจเท่าริน จึงมีความเก็บกดพอควร รินแต่งงานอยู่กับอรพิมได้ 6 ปี ศิราตาย อรพิมเห็นของในบ้านของศิราเป็นของเก่าควรอนุรักษ์ จึงเกิดความคิดจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ให้เป็นวิทยาทานแก่นักเรียน และตั้งชื่อว่า "เรือนศิรา" เจนจารีแต่งงานกับชาวอเมริกามีลูกชาย 1 คน ชื่อ เอริค เมื่อเลิกกัน เจนจารีนำลูกกลับเมืองไทย มาอยู่ที่เชียงใหม่ พบกับริน ทั้งคู่ยังรักกันอยู่ เจนใช้มารยาหญิงแย่ง รินมาจากอรพิม เมื่อพิมรู้ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน จึงขอหย่า ระหว่างที่หย่า พิมตั้งต้องแล้ว เมื่อคลอดลูกสาวได้ 1 ขวบ อรพิมแต่งงานกับพัทธ์ โดยตั้งชื่อลูกว่า พิมลพัทธ์ ชวาลวัฒน์ อยู่กับลูกสาวอายุได้ 4 ขวบพิมก็ป่วยตาย พัทธ์เลี้ยงพิมลเหมือนลูกตัวเองแท้ๆ ตามใจทุกอย่างส่งไปเรียนต่อที่เมืองนอก พัทธ์เล่าความจริงให้พิมลรู้ว่าตัวเองไม่ใช่พ่อที่แท้จริง พิมลอายุ 13 ปี โกรธมากถึงกับเผาโรงเรียน พัทธ์ไปจัดการเคลียร์ปัญหาให้เรียบร้อย พิมลไปอยู่อเมริกาจึงรู้จักกับเอ ซึ่งเป็นเพื่อนของหมอไก่ พิมลสนิทสนมกับพี่เอมากถึงกับฟังเอและเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟัง และรักพี่เอมาก พี่เอซึ่งรู้ปัญหาดี และพยายามจะให้พิมลลดทิฐิลงบ้างเกี่ยวกับตัวพ่อเขา เจนมีลูกสาวกับรินอีกคนชื่อ จารวีร์ เจนรักมากอยากให้รินลืมลูกสาวที่เกิดกับอรพิมด้วย ก่อนที่จะมีจารวีร์ เจนได้นำเด็กหญิงมาเลี้ยง 1 คนชื่อ ทิชา รินรักเอมาก ยอมรับเป็นบุตรบุญธรรมด้วยรินรู้ตัวเองมีความผิดที่ทิ้งลูก พยายามจะแก้ตัวโดยทำพินัยกรรมยกเรือนศิราให้พิมลพัทธ์ บ้านหลังเล็กยกให้ริน และให้ทั้ง 2 เป็นคนดูแลจารวีร์ เจนจารีได้ค้นเจอพินัยกรรม เห็นว่าตนกับลูกได้รับทรัพย์สินน้อยกว่า เพราะของที่เรือนศิรามีค่ามหาศาล จึงได้คบคิดกับศานิตทำของปลอมมาวางโชว์ไว้ นำของจริงไปขายต่างประเทศ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้เรื่องเลย ส่วนศานิตก็เข้ามาตีสนิทกับพิมล ทำให้พิมลหลงเชื่อว่าศานิตเป็นคนดี รินกับเจนจารี ต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ ในวันนั้นจารวีร์ร้องตามไปด้วย ไม่มีใครห้ามได้ ทั้ง 2 จึงนำจาไปด้วย ทั้งหมดเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัว ยังไม่ถึงกรุงเทพฯ พันตำรวจตรีเกริกนำเรื่องมาบอกกับเอว่าเครื่องบินของแม่และรินตก เอได้ติดตามหาซากเครื่องบินพร้อมผู้โดยสารด้วยตัวเอง จนพบแต่ทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว เหลือแต่จาที่ยังไม่ตาย เอได้นำส่งโรงพยาบาลมารักษาตัวในความดูแลนายแพทย์รัชตะ เอได้ส่งแฟกซ์มาถึงพิมลแจ้งเรื่องที่พ่อเสียชีวิต พิมลรู้ว่าพี่เอคนที่ตนรักมาที่แท้เป็นลูกเจนจารี พิมลโกรธมากที่พี่เอหลอกลวงมาตลอด หลังจากจัดการงานศพแม่แล้ว เอได้นำของที่แม่กับคุณรินติดตัวไปมาเก็บเข้าที่ ได้ค้นพบโบราณวัตถุที่คุณเจนนำไปด้วย และพบข้อมูลที่คุณเจนนำของไปขาย เอได้เล่าเรื่องนี้ให้เกริกฟังว่า ตนขอความช่วยเหลือที่จะซื้อของทั้งหมดที่แม่ตนนำไปขายกลับคืนมาไว้ที่เดิมทั้งหมด ทนายความได้นัดพิมลมาฟังการเปิดพินัยกรรมด้วย พิมลมาตามนัดเมื่อเจอกับเอ พิมลไม่พูด ด้วย ทิชาก็ไม่ชอบพิมล เพราะพิมลได้ครอบครองทรัพย์สิน ซึ่งตนไม่ได้ พิมลมาพักอยู่ที่บ้านของพ่อ ได้ดูแลจาซึ่งไม่รู้สึกตัว ยังพูดไม่ได้จึงอยากจะดูแลน้องก่อน ระหว่างอยู่ที่นี่ เอได้บอกพิมลให้กลับไปเรียนต่อ ทางนี้เอจะจัดการให้ พิมลไม่ยอมยังคงอยู่ที่นี่ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายอย่าง เริ่มจากเดินอยู่ข้างตึกถูกกระจกตกใส่ตัวพิมล แต่ไม่เป็นไรเพราะศานิตเอาตัวเข้ามารับแทน ครั้งที่ 2 ระหว่างเดินทางไปพบมาลัย มีรถกะบะขับตามมาเตรียมจะยิงพิมล พิมลก็รอดมาได้ และมาเจอเอขนกล่องออกมาจากเรือนศิรา ไปที่บ้านตนพร้อมกับพบถุงมือหล่อนอยู่ระหว่างรถของทิชากับเอ เป็นถุงมือที่พิมลเห็นจำได้ว่าคนร้ายใส่ขับรถจะยิงตน พิมลเข้าใจว่าเอเป็นคนคิดฆ่าเขา ทิชามาเจอกับพิมลที่บ้านปะทะคารมกัน และนัดเจอที่ภูผาเมืองในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ทิชาเตรียมฆ่าพิมล รินเข้ามาช่วยไว้ทัน ทิชาโกรธรินมากที่เข้ามาขัดขวาง จึงขับรถของพิมลลงเขาไป รถเกิดเสียหลักวิ่งตกเหว ทิชาเสียชีวิตทันที ไอ้ลือเป็นเด็กหนุ่มที่ติดการพนัน ไม่มีเงินใช้หนี้ ได้มาทำงานเป็นคนสวนที่เรือนศิรา ได้ขโมยของจากบ้านรินมาขายที่ร้านญาติของมาลัย เป็นร้านรับซื้อของเก่าหลานมาลัยจึงโทรเรียกมาลัยมาดู มาลัยเห็นของนี้จำได้ว่าเป็นของที่เรือนศิรา จึงได้พานายลือไปหาท่านรองให้สอบสวน นายลือกลัวจึงหนีแต่ไม่พ้นถูกรถชน มาลัยนำส่งโรงพยาบาล มาลัยโทรไปบอกพิมล ไม่เจอโทรไปหาพัทธ์ พัทธ์ได้ส่งศิถีมาช่วยดูว่าของเป็นของจริงหรือเปล่า ให้ผู้เชี่ยวชาญดู ยอมรับว่าเป็นของจริงศิถีสงสัยว่าของเหล่านี้อาจถูกขโมยมาขายมากกว่านี้จึงไปสอบถามตามร้านขายของเก่า โดยให้มาลัยพาไป แต่ไม่ได้ผล กลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งนายลือเล่าให้ฟังว่าขโมยมาจากฟ้องใต้ดินบ้านริน มีของมีค่ามากมายเป็นร้อยๆ กล่อง ศิถีสงสัยรินจะเป็นคนโยกย้ายของเหล่านี้ไป แล้วนำของปลอมมาตั้งไว้พิมลเล่าเรื่องที่ตนถูกทำร้ายให้ศิถีฟังและเข้าใจว่าจะเป็นเอที่ทำ ศิถีให้พิมลอยู่แต่ในบ้านห้ามออกข้างนอก เอไปซื้อของชิ้นสุดท้ายกลับมาได้แล้ว รีบนำมาเก็บไว้ที่เรือนศิราตามเดิม ระหว่างที่นำมาบ้านก็ถูกทำร้าย ส่วนพิมลอยู่ดูแลจาที่เรือน วันนี้พยาบาลไม่มาเฝ้า พิมลอยากรู้ที่ห้องใต้ดินมีของที่เอเอามาไว้เท่าไหร่ จะให้คุณศิถีเอาคนของเขาไปค้นกลัวเอจะรู้ตัว จึงโทรไปเล่าให้ศานิตฟัง ให้เขาไปค้นให้ ต่อมาศานิตก็โทรให้พิมลมาที่เรือนศิรา ห้องบัวพิมลยังลังเลว่าจะไปได้อย่างไร เพราะไม่มีใครดูจา ตนจะทิ้งจาไปไม่ได้ พิมลจึงนำจาไปพบกับศานิตด้วย ในที่สุดศานิตก็เผยตัวเองว่าเรื่องทั้งหมดตนเป็นคนทำ ตั้งแต่ฆ่ารินกับเจนจารี และตอนนี้ก็เตรียมฆ่าพิมล แผนลวงว่าเอเป็นคนฆ่าและจุดไฟเผาเรือนศิรา แต่หนีไม่พ้นถูกไฟครอก แต่ส่วนตัวเองได้เข้ามาช่วยแต่ช่วยไม่ทัน ช่วยได้แต่จารวีร์คนเดียวทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่เขาต้องการ ระหว่างที่พูดคุยหลอกล่ออยู่นั้น ศานิตเผลอตัว พิมลเข้าแย่งปืนจากศานิตได้ พิมลยิงศานิต ต่อสู้กันจนเกิดไฟไหม้ เอ พิมล หนีออกมาได้รวมทั้งจาด้วย ศานิตถูกไฟครอกแต่ไม่ตาย ทุกคนรู้เรื่องทั้งหมด และเข้าใจว่าเอเป็นคนดี ส่วนจาก็พูดได้ ร่างกายมีความรู้สึก พิมลเตรียมนำจาไปรักษาที่เมืองนอก เกริกพูดกับพิมลเรื่องเอว่าเป็นคนดีและรักพิมลคนเดียว พิมลลดความทิฐิลง ในทั้งสุดทั้งสองก็เข้าใจกัน ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |